​​​​​​​เปิดเส้นทางก่อนจะดัง “พลอยชมพู” สาวน้อยร้อยล้านวิว

เปิดเส้นทางก่อนจะดัง “พลอยชมพู” สาวน้อยร้อยล้านวิว

                   เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งสาวที่มากความสามารถ สำหรับนักร้องสาวดาวรุ่ง “พลอยชมพู ญานนีน ภารวี ไวเกล” ที่กลายเป็นขวัญใจแฟนเพลงทั้งไทยและต่างประเทศ ด้วยความน่ารัก สดใส และเป็นกันเอง ทำให้เธอมีผลงานออกมาให้ติดตามมากมาย ทั้ง ซีรีส์ ภาพยนตร์ รวมถึงงานเพลง ว่าแต่เส้นทางการเข้าสู่วงการบันเทิงจะเป็นอย่างไร วันนี้ “ดาราเดลี่” จะพาไปเปิดประวัติของ “น้องพลอยชมพู” กัน

                   ชีวิตในวัยเด็กเกิดและโตที่ประเทศเยอรมัน เกิดในเมืองที่ออกแนวชนบทนิดนึง ในเมืองประชากรจะไม่เยอะมาก จะมีฟาร์มม้า ฟาร์มวัว ค่อนข้างเยอะ เติบโตกับธรรมชาติ อยู่ที่นั่นมา 10 ปี ก็จะเห็นอยู่แค่นั้น ไม่ค่อยได้เข้าเมือง พอได้ย้ายมากรุงเทพมหานคร รู้สึกว่าทุกอย่างศิวิไลซ์มาก เพราะเราไม่เคยเห็นมาก่อน ตอนเด็กๆ จะเป็นเด็กที่เรียบร้อยมากๆ ด้วยความที่เราชอบอยู่กับผู้ใหญ่ตั้งแต่เด็ก ก็เลยจะโตกว่าเพื่อนๆ ในวัยเดียวกัน

                   ความฝันในวัยเด็ก ตั้งแต่จำความได้คืออยากเป็นนักร้อง แต่ไม่คิดและไม่ฝันว่าจะมีโอกาส เพราะว่าเมื่อก่อนเราอยู่ชนบท ไม่น่าจะมีโอกาสอะไร แล้วอยากเป็นดีไซเนอร์ออกแบบเสื้อผ้า เพราะคุณแม่ก็เคยเป็นมาก่อน แล้วตอนเด็กก็ชอบวาดรูปมากๆ มีเวลาว่างก็จะวาดรูปทั้งวันเลย ส่วนตัวก็ชอบแฟชั่นด้วย ชอบซื้อนิตยสารวัยรุ่นมาดูเทรนด์การแต่งตัวของเหล่าดารา

                   เส้นทางการเข้าสู่วงการบันเทิง เริ่มต้นตอนอายุ 4-5 ขวบ ตอนนั้นเดินทางมาเที่ยวที่เมืองไทย ช่วงนั้นไม่มีอะไรทำ คุณแม่ก็เลยสมัครโมเดลลิ่งดู มีงานแคสติ้ง มีงานโฆษณาต่างๆ แต่ไม่เยอะมาก 1-2 งาน เราก็ทำเล่นๆ ไป แล้วก็ได้เข้ามาวงการบบันเทิงอีกหนึ่งครั้ง ที่ย้ายมาอยู่เมืองไทยตอนนั้นอายุ 10 ขวบ ซึ่งไม่คิดว่าจะเป็นนักร้องนะ คิดว่าตัวเองจะมาสายการแสดง ก็เลยกลับมา ที่โมเดลลิ่งก็พาไปแคสต์งานต่างๆ ซึ่งเริ่มต้นเลยเป็นตัวประกอบเดินหลังฉาก ซึ่งก็เป็นประสบการณ์ชีวิต สนุกดี พอทำงานไปเรื่อยๆ เราก็จะได้เป็นตัวรองของโฆษณา จนได้มาเป็นตัวหลักของโฆษณา แล้วคนในวงการโฆษณาก็เริ่มรู้จักเรามากขึ้น ช่วงนั้นก็ไปสมัครประกวดร้องเพลง ซึ่งจริงๆ เราไม่ได้ร้องเพลงเก่งเลย (หัวเราะ) พอเทปแรกออกอากาศไป ทาง จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เห็นพอดีก็เลยเรียกเรามาออดิชั่น จากนั้นก็ได้มาเป็นศิลปินฝึกหัด ใช้เวลาอยู่ 6 เดือน แล้วก็ได้มาเซ็นสัญญาเป็นศิลปินแบบเต็มตัว 5 ปี ก็อยู่ในแกรมมี่มาได้ 5 ปีครึ่ง

                   ผลงานที่แจ้งเกิด “พลอยชมพู” คิดว่าน่าจะเป็นผลงานเพลง “ไกลแค่ไหนคือใกล้” นั่นจะเป็นเพลงแรกที่คนทักเราแล้ว เวลาเราออกไปไหน คนจะทักว่ารับซ่อมวิทยุไหมเอ่ย (ยิ้ม) ซึ่งเป็นครั้งแรกเลยที่มีคนทักเรา ดีใจนะที่มีคนจำเราได้ ไม่คิดว่าคนที่เล่นเอ็มวีจะมีคนจำได้

                   จากวันนั้นจนถึงวันนี้คิดไหมว่าจะโด่งดัง จริงๆ ส่วนตัวหนูเคยแต่ฝันอย่างเดียว ไม่คิดว่ามันจะเป็นจริง เพราะว่าดูตั้งแต่ต้นคือเรามาจากเมืองที่ไม่มีใครรู้จัก มาจากเมืองที่ชนบทเลย มาถึงตอนนี้เวลาไปต่างประเทศคนก็จะจำได้ รู้สึกว่าเรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง รู้สึกว่าเวลามันผ่านไปไวมากๆ

                   ไอดอลในวงการบันเทิงคือ ตอนเด็กๆ ชอบ “ไมลีย์ ไซรัส” แต่พอโตขึ้นก็จะชอบ “เทย์เลอร์ สวิฟต์” คืออันดับหนึ่งในใจเลย เพราะเราติดตามเขาจริงๆ เห็นว่าเขามีความพยายามมากๆ และเขาแคร์แฟนคลับมากๆ ด้วย และอีกอย่างเขาเป็นคนที่เก่งและต่อสู้มากๆ เขากว่าจะดังมาได้ต้องใช้เวลานานกว่า 10 ปี  ส่วนไอดอลในวงการบันเทิงไทยด้านการร้องเพลงก็จะเป็น “พี่บอย พีซเมกเกอร์” กับ “พี่ดา เอ็นโดรฟิน” คือชอบมากๆ และก็ชอบวิธีการร้องพี่เขา ฟังปุ๊บก็รู้เลยว่าใครร้อง อยากร่วมงานกับพี่เขา แต่ยังไม่มีโอกาสได้ร่วมงานกันเลย

                   ฝากขอบคุณแฟนคลับที่ติดตามผลงาน ก็อยากจะขอบคุณแฟนคลับทุกๆ คนที่ติดตามมาอย่างยาวนานและเพิ่งติดตามด้วย อยากขอบคุณที่คอยสนับสนุน และเชียร์ในทุกๆ ผลงานของหนู สัญญาว่าจะตั้งใจทำผลงานในทุกๆ ผลงานให้ดีขึ้นกว่าเดิม หวังว่าทุกๆ คนจะมีความสุขในทุกๆ ผลงานของหนูนะคะ