“ต่อ” ลั่น “หัวใจศิลา” บทท้าทายขึ้น ยันคิวงานไม่กระทบความรัก
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งหนุ่มนักแสดงที่ก้าวไปทีละขั้น พร้อมกับท้าทายความสามารถเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ สำหรับพระเอกหนุ่ม “ต่อ ธนภพ ลีรัตนขจร” หลังจากรับบทหนักเป็นพี่ชายคนโตจากละคร “เลือดข้นคนจาง” และล่าสุดก็มารับบทเป็นพระเอกเต็มตัวผ่านละครจอแก้วกับเรื่อง “หัวใจศิลา” ซึ่งถือเป็นการร่วมงานกับช่อง one 31 งานนี้ก็ได้เจอกับหนุ่ม "ต่อ" เลยขอถามถึงความรู้สึกกับบทบาทใหม่ที่ถือว่าหนักพอสมควรเลยทีเดียว รวมถึงอัพเดทเรื่องราวความรักในช่วงนี้เป็นยังไงกันบ้าง
ช่วงนี้มีถ่ายละคร ก็เต็มที่เพราะเป็นเรื่องแรกที่ได้รับเกียรติ การไว้วางใจให้ดำเนินเรื่องเต็มๆ หนักมาก เพราะไม่เหมือนกับที่เคยทำมาก่อน ต้องเรียนรู้ใหม่ตั้งแต่แรก เพราะเส้นเรื่องนี้มีแค่เส้นเรื่องเดียว มันจะเยอะมากและพอเป็นละครยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีก 6 ตอน ไหนจะมีการปรับบทเรื่อยๆ เราต้องตื่นตัวมากๆ ตลอดเวลา และเป็นพระเอกเต็มตัวเรื่องแรก แต่ตอนนี้ยังไม่กดดันเท่ากับตอนละครจะออนฯ ก็อยากฝากด้วยถ้าใครได้ติดตามผมมาตั้งแต่แรก ยิ่งมาเรื่องนี้ด้วย ก็ไม่อยากทำให้แฟนๆ ผิดหวัง จะเต็มที่จริงๆ อยากให้ทุกคนได้เห็นว่าเราทำได้ ส่วนตัวคิดว่าทำให้เราโตไปอีกสเต็ปหนึ่ง ยังคงเหมือนเรื่อง O-Negative หลายกระแสอาจจะมีมองเปรียบเทียบ ผมก็เต็มที่ได้เลย ตามสะดวก คือเรารู้สึกว่าอยากให้เห็นว่าเป็นชาเลนท์ของเรา ถ้าเราทำโดยเราไม่ดู มันก็เป็นมุมมองของ “ธนภพ” ที่แบบว่าธนภพอ่านบทนี้ และเราต้องเล่นออกมาให้เหมือนบทนี้ ถ่ายทอดให้คนดูรู้สึกว่าตัวละครศิลาที่เราเล่น และเราก็ยังไม่เคยดูเวอร์ชั่นก่อนเลยการันตีไม่ได้ว่าจะออกมายังไง รู้แค่ว่าเป็นเรื่องที่ดังมากๆ ซึ่งตอนนั้นเราก็ยังเด็กอยู่ จำไม่ได้ว่านานแค่ไหน
สำหรับนักแสดงในเรื่องผมว่าโชคดีที่นักแสดงเรื่องนี้ไม่มีจำนวนเยอะเลย แต่ถ้าเข้าฉากกับเราบ่อยๆ และเจอกันเกือบตลอด ก็คือ “พี่นุ่น ศิรพันธ์” พี่เข้าเก่งมากๆ พี่เขาก็จะชิวๆ ตามสไตล์ของเขาด้วย ความที่เราเป็นเด็กก็จะมีการจำบ้าง อะไรที่ดีเราก็จะเข้าไปถามว่าทำยังไงบ้าง อยากเห็นบ้าง ส่วนใหญ่พี่เขาจะสอนเรื่องของการไม่บังกล้อง คือซีรีส์ หรือถ่ายหนังมันไม่มี จะถ่ายยังไงก็ได้ แต่นี่นักแสดงจะต้องหลบกล้อง เพื่อให้มันง่ายทุกคน เหมือนเราต้องมาเรียนรู้ระบบใหม่ทั้งหมด แต่ซีรีส์กับละคร ความแรงของแอ็คติ้งมันต่างกัน เราอาจจะต้องมีบางอย่างที่มันต้องหัดฝึก บทบาทครั้งนี้หนักมาก เพราดูโตขึ้นไปกว่าเรื่องก่อนๆ และกว่าเราจะทำให้คนเชื่อว่าเราโตขึ้น มันยาก และพอเรื่องนี้มันโตขึ้นไปอีก เหมือนกับว่าต้องเพิ่มคูณสองไปอีก เพื่อทำให้คนเชื่อว่าเราเล่นเป็นคนอายุเท่านี้ แต่เราไม่ท้อผมชอบชีวิตกอง และรู้สึกสนุก ตอนนี้ก็มีเรื่องนี้เรื่องเดียว ยังไม่ได้ตัดสินใจรับของปลายปี เพราะมีแพลนอื่นอยู่ด้วย อันนี้ยังบอกไม่ได้ต้องรอดูเซอร์ไพรส์ เพราะผมยังรู้สึกเองเลยว่ามันยังเซอร์ไพรส์กับตัวผมเองด้วย
สำหรับเรื่องคิวผิดพลาดในระหว่างการถ่ายทำละคร ผมก็ไม่ได้ตั้งใจคงเป็นเพราะบล็อกกิ้ง ตอนซ้อมก็บล็อกกิ้งหนึ่งแต่พอเล่นจริงๆ บล็อกกิ้งไม่ได้ก็ต้องขยับบล็อกกิ้ง ก็กลายเป็นว่าพออารมณ์มันได้ผมกับพี่เขาก็ไม่ได้สนใจระยะกันเลย ผมก็ตกใจขอโทษจนไม่รู้จะขอโทษยังไงกันเลย ผมรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผมเหมือนกัน เพราะผมไม่เคย ไม่เคยพลาดโดนใครแบบนี้ ผมก็รู้ล่ะครับว่ายังไงพี่เขาก็ไปงานไม่ได้ รู้สึกว่าพี่เขาร้าวเลยเหมือนมันโดนตรงมุม ผมก็ไม่รู้จะตอบแทนยังไงให้เท่ากับสิ่งที่เราทำแล้วจริงจังและจริงใจด้วยก็เลยได้แต่ไลน์ไปว่าพี่ครับอย่าลืมกินยานะครับ พี่กินยาหรือยัง มันลดบวมหรือยัง ถอดเฝือกหรือยัง ตอนนี้พี่เขาก็หายแล้ว ฟังแล้วดูเหมือนเเรงแต่จริงๆ มันแค่วีคเดียว ถามว่าต้องระวังมากขึ้นไหม คือจริงๆ ผมผิดมาเรื่อยๆ เลยแต่ไม่ใช่กับคนเป็นกับของที่เข้าฉาก มันก็เป็นเรื่องที่เราต้องระวัง แต่บางครั้งถ้าอารมณ์มันหนักมากๆ มันก็เป็นเรื่องของภาพที่เราอยากให้มันสุดมากๆ
ช่วงนี้ที่ไม่ค่อยได้อัพเดทหวานๆ ในไอจีเพราะทำงาน พี่ก็ดูดิทุกวันนี้ต้องใช้ชีวิตอยู่กับผู้ชาย 8 คน เขาก็ยังเหมือนเดิมยังไม่ได้มีปัญหาใดๆ ความถี่ของเรายังเหมือนเดิมแต่ว่าตอนนี้มันไทยแลนด์ทัวร์ เหมือนกับผมต้องเดินทางตลอด อย่างวีคหน้าก็ต้องไปเชียงใหม่ ถามว่าห่างกันไหม จริงๆ ผมว่าก็ไม่ได้ห่าง เพราะเดี๋ยวนี้ก็มีเฟซไทม์ หลังจากนี้คงต้องหาเวลาอยู่ด้วยกันแล้วครับ