เปิดเส้นทาง “แม็ก นัฐพงษ์” กับความฝันมุ่งสู่วงการบันเทิง
เป็นอีกหนึ่งหนุ่มนักกิจกรรมตัวยง “แม็ก นัฐพงษ์ บุญยืน” ปี 4 คณะบริหารธุรกิจ จากสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ หนุ่มไทยแท้จากเมืองเหนือ ที่มีความฝันอยากจะเข้าสู่วงการบันเทิง ซึ่งล่าสุดก็ได้เซ็นสัญญาศิลปินกับค่าย BRAVO! STUDIOS ในเครือ GMM STUDIOS ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เส้นทางก่อนจะดังของเขาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย โดยน้อง “แม็ก” ได้เล่าให้กับทีมงาน “ดาราเดลี่” ฟังว่า
ต้องเล่าย้อนไปว่าแต่ก่อนเราเป็นเด็กต่างจังหวัด อายุประมาณ 17-18 ปี และเข้ามาทำงานพาร์ทไทม์ที่กรุงเทพฯ และได้มาเป็นเด็กเสิร์ฟที่ร้านอาหาร จนมีพี่เขาเข้ามาทาบทามว่าอยากทำงานในวงการหรือเปล่า ก็มีโมเดลลิ่งเข้ามาติดต่อและเราก็ได้เข้าไปอยู่ใน Love Media Thailand ตอนนั้นยังไม่มีผลงานที่ชัดเจน เดินแบบถ่ายแบบบ้าง และก็มีเล่น MV โฆษณา เพิ่งจะมีผลงานจริงจังก็ตั้งแต่เข้ามาใน GMM BRAVO BOY อีกอย่างเป็นความชอบ ความฝันของเราด้วย ว่าวันหนึ่งอยากจะมีชื่อ จนเราก็พยายามทำตัวให้พร้อมสำหรับโอกาสตลอด ผมคิดว่าบางคนก็รอโอกาสเข้ามา แต่บางทีโอกาสเข้ามาแล้วถ้าไม่พร้อมก็ไม่มีผล ผมเลยทำตัวให้พร้อมอยู่เสมอเวลาโอกาสเข้ามาเราก็จะได้ไม่พลาดสำหรับโอกาสนั้น
ดีใจที่มีโอกาสได้ร่วมงานกับทาง GMM BRAVO BOY ซึ่งเป็นโปรเจ็คท์ที่คัดเลือกนักแสดงกันมายาวนาน จนตอนนี้ก็ได้เข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิกของ BRAVO BOY เร็วๆ นี้ก็จะมีผลงานเรื่อง “เพื่อนรักบัดดี้” ทาง GMM BRAVO บุคลิกในเรื่องก็จะคล้ายๆ ตัวผม ซึ่งเป็นเทรนเนอร์ฟิตเนส และก็จะเป็นไอดอลสำหรับพวกสายออกกำลังกาย ก็มีการฝึกเรียนรู้ว่าจริงๆ แล้วเราต้องทำตัวยังไง มันจะมีท่าของมันโดยเฉพาะ เราก็ต้องไปศึกษาอีกที ส่วนตัวเราก็ชอบออกกำลังกายอยู่แล้ว ผมก็จะแบ่งการออกกำลังกายเป็น 4 ส่วน วันจันทร์เล่นอก วันที่สองเล่นหลัง วันที่สามเล่นไหล่ วันพฤหัสเล่นแขนกับขา ก็เล่นมาเรื่อยๆ เล่นแบบว่าไม่ค่อยมีวินัยเท่าไหร่ เพิ่งจะมาจริงจังในช่วงหลังๆ ก็มีวินัยกับการออกกำลังกายมากขึ้น
ผมก็จะมีการแบ่งเวลาเรียนกับทำงาน โดยสถาบันที่ผมเรียนอยู่จะไม่มีปิดเทอม เพราะว่าเรียนและก็ไปฝึกงาน เหมือนเขาสอนจับปลาให้มากกว่าวาดรูปปลา เราก็พยายามลงเรียนไม่ให้ตรงกับคิวงานให้ได้มากที่สุด เพื่อนก็สำคัญที่สุดเราก็ต้องให้ใจกับเพื่อน เพราะว่าเพื่อนมีส่วนช่วยเหลือเราเยอะมาก เราก็ต้องใจ และขยันอ่านหนังสือให้เยอะกว่าคนอื่น จริงๆ แล้วที่นี่เขาต้องให้เราไปฝึกงานที่เซเว่น แต่ในส่วนของผมเองมาฝึกในส่วนของการเป็นพิธีกร MC ในสถาบัน ไม่ว่าจะเป็นงานต่างๆ งานปัจฉิม งานปฐมนิเทศ คืองานทุกอย่างผมรับหน้าที่เป็นพิธีกร เรียกได้ว่าฝึกบุคลิกภาพไปในตัว
สำหรับซีรีส์สายวายในยุคนี้ ผมคิดว่าตอนนี้โลกมันเปิดกว้าง ผมว่ามันเป็นเรื่องของความรู้สึก เพราะไม่ว่าร่างกายเราจะเป็นหญิงหรือชายเราก็มีความรู้สึกเหมือนกัน แต่บางทีความรู้สึก ณ จุดๆ นั้นมันไม่ตรงกับเพศกำเนิดออกมา หรือว่าความชอบของเราเอง ไม่ตรงกับเพศที่เรากำเนิดมา มันก็ไม่ได้ผิดและก็ไม่มีอะไรผิด มันอยู่ที่ความรู้สึกเราจริงๆ แต่ถ้าให้เราเล่นก็ยินดี เพราะผมคิดว่ามันเป็นความท้าทายอีกอย่างหนึ่ง มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ของตัวเองที่ไม่เหมือนกัน ผมว่ามันต้องเรียนรู้ไปอีกโลกหนึ่งที่มันยังไปไม่ถึง แบบเป็นความเซอร์ไพรส์อีกแบบหนึ่ง ผมว่าผมโอเคและยินดี