เปิดความรู้สึก “อิน สาริน” แฮปปี้ละครเปรี้ยง ทำแจ้งเกิดในวงการ
แจ้งเกิดเป็นดาวดวงใหม่ประดับวงการบันเทิงอย่างสวยงามกับทั้งบทบาทของ “ภูผา” ในซีรีส์ลูกผู้ชาย และ “พ่อเพิ่ม" จากละครเรื่องพีเรียด “ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง” ทำให้กระแสเปรี้ยง โด่งดังกลายเป็นที่รู้จักของใครหลายคนอยู่ ณ.ตอนนี้ สำหรับนักแสดงหนุ่มหล่อ “อิน สาริน รณเกียรติ” ล่าสุดเจ้าตัวก็ได้ออกมาเผยความรู้สึกให้ฟังว่า
กระแสตอนนี้ค่อนข้างจะโอเคเลย มีเรียกตัวว่าเป็นพี่ๆแม่ๆของเรา มีเรียกภูผาๆมาถ่ายรูปกัน หลายคนอาจมองว่ากระแสของละครเรื่องทองเอกฯค่อนข้างแรงกว่าอีกเรื่องนึง ซึ่งอินว่า กระแสของละครมันเป็นละครคนละแนวมากกว่าอย่างเรื่องภูผา จะละครสร้างแรงบันดาลใจเป็นละครสู้ชีวิต ส่วนละครเรื่องทองเอกฯจะแนวละครคอมเมดี้ที่ทำให้ยิ้มตาม เวลาไปไหนก็มีคนเรียกทั้งภูผาบ้างละ เรียกพ่อเพิ่มบ้างละซึ่งส่วนตัวคิดว่าพอๆกันแต่กระแสของละครของเรื่องทองเอกฯเพราะในเรื่องนี้เราได้นักแสดงที่มากฝีมือค่อนข้างมากมายซี่งรู้สึกดีใจมากๆ
มีไปเรียนการแสดงเพิ่มเติมบ้างหรือเปล่า โดยส่วนตัวผมไม่มีโอกาสได้เรียนเรื่องการแสดงเลยครับเพราะว่าผมเรียนจบก็เริ่มถ่ายทำเลยโชคดีที่ว่าพี่ชุส่งครูสอนแอ็คติ้งมาประกบถึงที่กองเลยครับ ก็เลยทำให้การถ่ายทำราบรื่นไปด้วยดีทั้งยังได้พี่มาริโอ้ ยังรวมไปทีมนักแสดงคนอื่นๆเลยที่มาช่วยทำให้ละครเรื่องนี้เป็นไปได้ด้วยดีเพราะแต่ละคนก็มีความเชียวชาญในเรื่องของการเล่นละครคอมเมดี้พอสมควร ซึ่งเราก็ต้องมีทำการบ้านอยู่ที่บ้านให้ไปเล่นแล้วให้เรารู้สึกสบายและเข้าฉากได้ทันทีเลยโดยไม่ต้องกดดันมาก ส่วนเรื่องการเข้าฉากกับนักแสดงคนไหนมากที่สุดส่วนมากจะเป็นแม่ชบา(คิมเบอลี่) กับพี่อ้น ศรีพรรณ ผมรู้สึกเหนื่อยมากเพราะผมหลุดบ่อยมาก ซี่งในบทมีให้เล่น100 แต่พี่อ้นเล่นจริง 300 เลยมีนอกบทเพิ่มเติมบทอยู่บ่อยๆโดยทำให้บทมันดูสมูทขึ้นและมีเสน่ห์มากขึ้น
ในส่วนของเรื่องคอมเมดี้มันถือว่าค่อนข้างใหม่สำหรับผมมากเพราะผมยังเป็นนักแสดงใหม่อยู่เลยบางทีก็กลั่นขำไม่อยู่ ต้องควบคุมสติอยู่ตลอดเวลายอมรับเลยว่ายากจริงๆ ซึ่งมันก็ผ่านมาได้อย่างดีต้องขอบคุณพี่ชุทีมงานทุกคนที่ทำให้มันออกมาได้ดี อย่างพอจะถ่ายทำพี่ชุไม่มีการให้ซ้อมเลยเพราะพี่ชุอยากให้มีความเป็นธรรมชาติมีจังหวะคอมเมดี้ที่ให้มันลงตัวจริงๆ
เรื่องผลงานละครเรื่องใหม่ของหนุ่มอิน ตอนนี้ก็มีเรื่อง “ฟากฟ้าคีรีดาว” ซึ่งเรื่องนี้มีการพลิกบทบาทจากสองเรื่องอย่างชัดเจนแล้วในเรื่องนี้ยังเล่นเป็น 2 คาแรกเตอร์ที่แตกต่างโดยสิ้นเชิงเลยแต่เป็นยังเล่นเป็นคนๆเดียวกัน อย่างช่วงแรกของเรื่องนี้บทก็จะเป็นแนวหนึ่ง ช่วงหลังบทจะเป็นอีกแนวหนึ่งเลย เล่นเป็นแนวร้ายไปเลยก็เป็นบทพอมีโอกาสได้อ่านปุ๊บก็ขอรับเล่นเลย ซึ่งถือว่าเป็นท้าทายฝีมือทางการแสดงให้ดีขึ้นและต้องทำความเข้าใจกับตัวละครตัวนี้ เชื่อตัวละครตัวนี้ให้มากๆ อย่างในเรื่องเขาจะดูเป็นคนที่ดูคิดร้ายอยู่เสมอๆก็ไม่เชิงเขาเพียงแค่คิดต่างจากคนอื่นเท่านั้นเอง
ส่วนเรื่องกระแสของละครซึ่งยอมรับว่าดีใจกับกระแสทั้งละครทั้งสองเรื่องเลย เพราะว่าผมเล่นบทคนละแนวกันเลยก็เลยดีใจที่คนอินและชื่นชมในฝีมือของเราแต่ก็ยังมีคนติอยู่บ้างเพราะเรายังถือว่าเป็นนักแสดงหน้าใหม่จริงๆเราก็เลยต้องดูไว้ทั้งสองอย่างเลยเราเลยค่อนข้างโอเคกับทั้งทางลบทั้งบวก ถือว่ามีคนช่วยดูและเก็บรายละเอียดให้เรามากลับมาวิเคราะห์กับทำการบ้านให้หนักขึ้นจำเป็นต้องมีการพัฒนาต่อไป ส่วนเรื่องการทำงานในวงการบันเทิงในตอนนี้เจ้าตัวเผยค่อนข้างเริ่มโอเคแล้วแต่ยังไม่คุ้นชินสักเท่าไหร่แต่กระแสที่คนชื่นชอบในการแสดงของเราก็รู้สึกดีใจและอยากขอบคุณทุกคนที่ให้โอกาสให้ผมได้มาพิสูจน์ฝีมือทางการแสดงให้ทุกคนได้เห็นแต่ก็ยอมรับว่าแอบกดดันอยู่นิดหน่อยเพราะกลัวว่าคนดูเขาจะผิดหวัง เรื่องต่อไปเราต้องพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิมขึ้นอีก