“ณัฐรัฐ โมริส” ไม่ท้อ! แจงผันตัวเป็นอิสระ หาค่ารักษาคุณพ่อ
เรียกว่าต้องเบรกงานละครไปนานกว่า 2 ปี เพราะอยากสละเวลามาช่วยดูแลอาการป่วยโรคหัวใจให้กับคุณพ่อ สำหรับพระเอกยอดกตัญญู “ณัฐ ณัฐรัฐ โมริส เลอกรอง” ซึ่งตอนนี้ก็ดูเหมือนปาฏิหาริย์มีจริง เพราะจากที่คุณพ่ออาการเข้าขั้น 50/50 แต่ตอนนี้ดูเหมือนอาการจะดีขึ้นมาก จากรูปภาพที่เจ้าตัวโพสต์ลงในไอจีอยู่บ่อยๆ ล่าสุดเจอตัวหนุ่ม “ณัฐ” เลยต้องเข้าไปถามถึงอาการของคุณพ่อกันสักหน่อย รวมถึงเรื่องที่ไม่ต่อสัญญากับสังกัดเดิมแล้วผันตัวมาเป็นอิสระ เกิดจากอะไร มีปัญหาอะไรหรือเปล่า
ตอนนี้อาการของคุณพ่อดีขึ้น ยังไปเช็กตามระยะตลอด ระวังการกินให้มากๆ อันนี้สำคัญจริงๆ ทุกคนก็จะเห็นจากแบบออกมาจากบ้านไม่ได้ก็กลายเป็นนั่งรถเข็น จากนั่งรถเข็นก็กลายเป็นเริ่มเดิน พาไปไหว้น้ำ พาไปเที่ยวเดินห้างด้วยกัน ต้องเดินช้าๆ หน่อยแต่มันก็เป็นการออกกำลังกาย เพราะบางทีท่านก็ไม่ค่อยออกกำลังกายเท่าไหร่ จะพาไปเดินห้างบ่อยๆ ท่านก็จะเกาะรถเข็น ดีขึ้นเรื่อยๆ มันจะมีปัญหาหนึ่ง คือเราต้องหยุดยาหัวใจทั้งหมดหลังจากทำบอลลูน เพราะมันทำให้เลือดไหลในสมอง ตอนนี้จริงๆ ท่านต้องกินยาหัวใจแต่ต้องหยุดไปหมอท่านก็เป็นห่วงกังวลเหมือนกัน เพราะท่านสามารถหัวใจวายได้ตลอดนะ แต่ว่าเราก็เลยไประวังเรื่องการกิน คือไม่กินพวกของมันระวังเรื่องคอเลสเตอรอลและกินผักเยอะๆ ท่านก็จะเบื่อๆ หน่อยเรื่องอาหาร เดินก็ต้องคอยระวังไม่ให้ท่านล้ม
ยอมรับว่าตอนนี้ก็ใช้ชีวิตยากลำบากขึ้นนิดหนึ่ง เพราะมันยังไม่เต็มร้อย แต่ก็ดีขึ้นกว่าตอนที่อยู่โรงพยาบาลตอนแรกเหมือนอาการคุณพ่อหนักมาก เพราะทุกครั้งไม่รู้ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่านแต่ก็ผ่านมาได้ จริงๆ ไม่ได้บอกใครเท่าไหร่แต่ตอนนั้นเราก็เตรียมไปหาชุดแล้วก็ซื้อรูปติดอะไรเรียบร้อยแล้วด้วย หลังจากนั้นทางโรงพยาบาลเขาก็ให้เซ็นจะให้ปั๊มหัวใจถ้าสมมติว่ามีอะไร ปรากฏว่าก็กลับมาปกติ พ่อก็มาเห็นรูปแล้วเขาก็ถามว่ารูปอะไรเนี่ย เราก็เล่าให้ฟังพ่อก็ชอบนะรูปนี้ดูหล่อดี ตอนนี้ก็คือสู้ๆ กันไปก็ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป จะไม่ออกกำลังกายหักโหมมากจะพาไปว่ายน้ำนิดๆ หน่อยๆ ดูแลสุขภาพจิตใจตัวเองด้วย จริงๆ เราก็จะเป็นแบบนี้แหละ เฮฮาพูดอะไรตลกๆ อยู่กับพ่อแม่ก็พยายามไม่ให้ท่านเครียด บางทีท่านก็ทะเลาะกัน เราก็พยายามให้ทุกคนรักกันมาก สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นสอนอะไรเราหลายๆ อย่าง พ่อเป็นอะไรปุ๊บเราก็จะต้องเรียนรู้โภชนาการที่ถูกต้องเพื่อที่จะหลีกเลี่ยง ยาโรงพยาบาลก็ดีแต่สิ่งที่ดีที่สุดต้องเริ่มจากตัวเรา ป้องกันดีกว่าแก้ เพราะเรารู้แล้วว่าของแบบนี้กินแล้วก็จะไม่ดี ทั้งผมและแม่ก็จะระวังการกินให้มากๆ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
ส่วนอัพเดทผลงานและสัญญากับช่อง 3 คือตั้งแต่ผมเด็กๆ ทุก 3 ปีก็จะต่อสัญญา รอบนี้เราก็ลองปรึกษาผู้ใหญ่ว่าเนื่องจากในช่วงที่คุณพ่อไม่สบายค่าใช้จ่ายมันเยอะจริงๆ เราก็รู้สึกว่าถ้าเราลองมาเป็นฟรีแลนซ์เราก็จะสามารถรับได้หลายช่องหลายเรื่องออกหลายรายการหลายช่องได้มันก็จะทำให้มีรายได้ดูแลครอบครัวมากขึ้น ก็เลยลองปรึกษาผู้ใหญ่ท่านก็บอกว่าได้แต่จะต้องไม่ต่อสัญญา ไม่งั้นทุกคนก็จะเอาแบบอย่าง แต่ท่านก็โอเคท่านเข้าใจก็ยังยินดีร่วมงานเสมอในอนาคต ตอนนี้ก็ถ่าย 3 เรื่องอยู่ เรื่องหนึ่งช่อง 8 อีกเรื่องช่อง 3 เขาก็ยังเรียกไปเล่นอยู่ ยอมรับได้ทำงานหลากหลายมากขึ้น เราก็รู้สึกแบบพ่อก็มีแม่ดูแลเราก็ควรที่จะดูแลเรื่องตรงนี้เรื่องการเงิน ทำงานให้เยอะๆ เต็มที่กับช่วงที่เรายังทำงานได้อยู่ ตอนนี้ก็ยังไม่ชิน ช่อง 3 มันก็เป็นบ้านหลังแรกที่เราก็อยู่มาตั้งแต่อายุ 17 มันก็ใจหายนิดๆ แต่พอมาที่นี่ก็จะเหมือนได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น เราก็ได้เจอคนที่ไม่เคยร่วมงานมาก่อนก็รู้สึกโอเค มันก็ได้ทำอะไรหลากหลายลองบทใหม่ๆ คอมเมดี้บ้างมันก็สนุกดี ตอนนี้ส่วนใหญ่แม่จะเป็นคนดูคิวให้ไม่ได้มีผู้จัดการ ก็โอเคมันก็คล้ายๆ เหมือนเดิมแหละ แต่ละกองแต่ละช่องมีสไตล์เป็นของตัวเองแตกต่างกันไป เราก็พยายามปรับตัวให้มันดีขึ้น