“บ่าววี” แจงสาเหตุ หายจากวงการไปนาน 2 ปี ล่าสุดปล่อยเพลง “เหงากอด”
ห่างหายจากงานในวงการไปนานถึง 2 ปี สำหรับ “บ่าววี อาร์สยาม” หรือ “พันจ่าอากาศเอกวีรยุทธิ์ นานช้า” เรียกได้ว่ามันเป็นช่วงเปลี่ยนระบบหลายๆ อย่าง เราก็เติบโตมาในยุคเทปคาสเซ็ทรุ่นสุดท้ายแล้วก็มาซีดี ดิจิตอล จนมายุคนี้ยุคของโซเชียลยูทูบ เมื่อก่อนออกอัลบั้มแต่เดี๋ยวนี้เป็นซิงเกิ้ล แล้วตัวผมเองก็ป่วยเกือบหนึ่งปีที่หยุดเพื่อดูแลร่างกาย สุขภาพตอนนี้กลับมาดีเหมือนเดิมแล้ว
สาเหตุที่ตัดสินใจกลับมา เพราะแฟนคลับถามว่าจะร้องเพลงอีกไหม เพราะเขาก็ฟังแต่เพลงเก่าๆ เขายังติดตามอยู่ ก็บอกเขาว่าเราเป็นนักร้องอย่างไรก็ต้องกลับมาร้องเพลง แต่อย่างที่บอกระบบต่างๆ มันเปลี่ยนไปเลยต้องศึกษาอีกนิดหน่อย จนมาถึงวันนี้เลยมีเพลง “เหงากอด”
สำหรับเนื้อหาของเพลง “เหงากอด” ผมนึกถึงเพลงชิ้นแรก คือเพลง “ฝากฟ้า” ทำให้เราอยากได้เนื้อหาแบบนั้น แต่บทเปลี่ยนไปซอฟท์ลง ดนตรีก็ร่วมสมัยนิดหนึ่ง เพลงเหงากอดคือความรักห่างไกลอยากจะกอดใครสักคนในวันที่ท้อแท้ วันที่ต้องการกำลังใจ เพลงนี้ก็ทำตอบแทนให้แฟนเพลงหลายๆ คน ยุคเศรษฐกิจแบบนี้ทำงานอะไรก็แล้วแต่มีทั้งประสบความสำเร็จไม่ประสบความสำเร็จ ก็ต้องการกำลังใจจากคนรอบข้าง อยากให้ใครมากอด อยากได้กำลังใจ เลยคิดเพลงนี้ออกมา ผมก็คัดหลายเพลงกว่าจะได้เพลงนี้ ตอนแรกก็คิดว่าจะทำเพลงไวสนุกๆ เพราะยุคนี้เพลงสนุกเยอะ แต่เราคิดว่าด้วยความเป็นบ่าววี เพลงจะบ่งบอกถึงเนื้อหา บอกสาระของความเป็นบ่าววี เพื่อแฟนคลับที่ติดตามมา เลยขอทำเพลงแบบนี้ก่อน 2 ปีที่หายไปเลยอยากกลับมาทำงานให้มีคุณภาพเหมือนเดิม เลยได้เพลงนี้ จังหวะและทำนองของเพลงก็คล้ายเพลงเก่าๆ เป็นอารมณ์แบบอบอุ่น
ขอขอบคุณแฟนเพลงที่คอยให้กำลังใจ เพลงตอนนี้ยอดวิวก็ 5 ล้านกว่าแล้ว เพลงนี้ก็อาจจะเป็นกำลังใจให้ใครหลายๆ คน แล้วช่วงนี้ก็เทศกาลแห่งความรักเพลงนี้คงตอบโจทย์ให้ใครหลายๆ คน ที่อยากจะมอบเพลงมอบความสุขแต่ไม่รู้จะมอบอะไรก็ลองฟังเพลงนี้
นอกจากทำเพลง ก็มีธุรกิจร้าน “กูโรตีชาชัก บ่าววี” เปิดได้ประมาณ 2 เดือนกว่าแล้ว และกำลังจะขยายสาขาใหม่ ส่วนงานราชการก็ยังทำอยู่ไปลงพื้นที่กับกองทัพผมก็ไปมอบเสียงเพลงให้กับพี่น้องประชาชน ร้านกูโรตีชาชัก บ่าววี เป็นร้านอาหารแต่เน้นไปทางชา โรตี และมีอาหารคาวเล็กๆ น้อยๆ ร้านอยู่ที่ตลาดปัฐวิกรณ์ ส่วนสาขาสองที่จะเปิดอยู่ที่สวนสยาม มีคนติดต่อขอแฟรนไชส์มาเยอะ แต่คำว่า กู เป็นของพี่ชายมาก่อนแล้วต่อมาก็เป็นกูโรตีชาชัก บ่าววี มีชื่อผมเข้าไปอยู่ด้วยเลยต้องคุยถึงรายละเอียดอีกนิดหนึ่งเลยขยายสาขาเป็นของตัวเองไปก่อน ส่วนใครที่ติดต่อมาก็ต้องไปคุยกับพี่ชายผมก่อน
ก็เรียกได้ว่าเอาหลายทาง เพราะยุคนี้บางคนบอกเศรษฐกิจไม่ดี แต่ชีวิตมันต้องไปข้างหน้า ถามว่าเกี่ยวกับเรื่องเงินไหม มันก็ไม่ใช่ความจริงทั้งหมด เรามีพี่มีน้องแล้วตัวผมเองมีทีมงานเพราะฉะนั้นรายได้ทางเดียวช่วยเราไม่หมด อย่างน้อยก็ได้จุนเจือครอบครัวที่เขาไม่มีงานทำ มาเป็นเด็กเสิร์ฟ ถ้ามีความสามารถในการทำอาหารก็ให้มาอยู่ที่ร้าน เหมือนได้เลี้ยงคนไปในตัว 2 ร้านรวมกันก็เกือบ 30 คน คนในวงอีก รวมแล้วเกือบ 100 ชีวิต
แฟนคลับพอเขารู้ว่าเราออกเพลงใหม่มาเขาดีใจมากเลย เราเลยรู้สึกดีใจเวลาไปเล่นคอนเสิร์ตแล้วแฟนคลับมาขอเพลง “เหงากอด” แล้วเขาก็ร้องได้ด้วย ทำให้เรารู้สึกอบอุ่น มีความสุข เพราะแฟนคลับเห็นหายไปเกือบ 3 ปี คิดว่าไม่ทำเพลงแล้ว ผมก็บอกว่าเป็นช่วงรอยต่อ ยุคใหม่บริษัทเขาเปลี่ยนระบบโครงสร้างใหม่ เราอยู่มานานก็ต้องเรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง เพื่อให้เข้ากับระบบใหม่ให้ได้เลยมาลงตัวที่เหงากอด