“กอล์ฟ” เคลียร์ดราม่า “ป๊อบ” รับเป็นห่วง “น้องชูใจ” หลังถูกโยง
หลังจากเป็นประเด็นร้อนในกรณีหนุ่ม “ป๊อบ ปองกูล สืบซึ้ง” ออกมายอมรับว่าคบซ้อนสาวนอกวงการนาน 10 ปี งานนี้ทำหลายคนในโซเชียลโยงไปถึงแร็ปเปอร์รุ่นใหญ่อย่าง “กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่” หรือ “ณัฐวุฒิ ศรีหมอก” หลังมีชาวเน็ตต่างพากันเข้าใจผิดว่านักร้องที่เป็นข่าวคือหนุ่ม “กอล์ฟ” เนื่องจากทั้งคู่มีหน้าตาและรูปร่างคล้ายกัน บางคนเข้าไปคอมเมนต์ในเฟซบุ๊กของ “กอล์ฟ” ว่าผิดหวังกับส่งที่เกิดขึ้น และสงสารลูกสาว “น้องชูใจ” ทำเอาเข้าใจผิดกันยกใหญ่ จนทำให้หนุ่ม “กอล์ฟ” ออกโรงเคลียร์ว่าไม่ใช่ตน ล่าสุดเจอเจ้าตัว ทางทีมงาน “ดาราเดลี่” ก็ไม่พลาดที่จะขอเข้าไปถามถึงเหตุการณ์ทั้งหมดสักหน่อย ว่าส่วนตัวแล้วจะรู้สึกอย่างไรบ้าง
ส่วนตัวเราทีแรกไม่คิดว่าจะจริงจังขนาดนั้น รับตกใจที่เขาแยกเราไม่ออกด้วย เพราะเรากับ “พี่ป๊อบ” โดนโยงว่าเราคบกัน คิดมาตลอดว่าเป็นมุก พอเกิดเหตุการณ์ก็กลายเป็นเรื่องจริง แปลว่ามีอีกหลายคนที่ตัวอ้วน มีเครา และจะเป็นเรา แต่พอปรากฏว่าด่ากันจริงจังมาก ไม่ใช่เรื่องอำแล้วแหละ จริงๆ ภรรยาก็ไม่สบายใจเพราะมีเรื่องของลูกสาว “น้องชูใจ” เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เริ่มลุกลามเข้ามาเรื่องส่วนตัวด้วย
อ่านข่าวต่อ :
“กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่” ไม่ขำด้วย! หลังเจอแซวโยง “ป๊อบ ปองกูล”
สำหรับเรื่องของ “พี่ป๊อบ” ส่วนตัวเราก็ให้กำลังใจเขามากกว่า คือถ้าเป็นตัวผมเองผมคงไม่รู้สึกอะไร แต่นี่ภรรยาบอกขอให้เราช่วยออกมาพูดบ้าง เพราะมีการนำภาพของครอบครัวเราไปพูดวิจารณ์แชร์กัน คิดว่าเป็นบทเรียนที่เราทำให้ลูกไปอยู่ในสื่อโซเชียล เพราะฉะนั้นจะโทษคนเอาไปไม่ถูก ต้องโทษตัวเราด้วย ยอมรับว่าเราถลำลึกมาไกล เพราะทุกวันนี้มีเพจลูกมารับรางวัลลูก เราก็ยอมรับผิดว่าเรื่องนี้ครอบครัวมีส่วนผิดด้วย และก็จะพยายามควบคุมให้น้อยลง
ยอมรับว่าน้ำตาซึมหลังจาก “พี่ป๊อป” ออกมาแถลงข่าว เพราะผมเป็นอีกหนึ่งคนที่ใกล้ชิดแก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อีกด้านที่ดีแกมีงานการกุศลตลอด เขาก็ช่วยเหลือคน แต่ก็เป็นคนละเรื่อง “อยากให้ทุกคนได้ให้โอกาส” และก็ได้แต่เป็นกำลังใจให้ ได้แต่หวังว่าตอนนี้ทุกอย่างมันจะดีขึ้น หวังว่าทุกคนจะให้โอกาสแกเหมือนกัน และก็อยากฝากถึง “พี่ป๊อบ” ว่าพี่ยังเป็นพี่ที่ผมเคารพนับถืออยู่ ไม่เคยรู้สึกไม่ดีในเรื่องที่เกิดขึ้นเลย และเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้กับพี่
ส่วนตัวเรามองโซเชียลว่าอะไรที่อยู่ในนั้นมันจะอยู่ตลอดไป เราก็คงจะทิ้งไว้แต่สิ่งดีๆ แต่ผมไม่โกรธคนที่มาพาดพิง กลับเข้าใจเราทำหน้าที่ตรงนี้ ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราเป็นคนพาลูกมาอยู่ตรงนี้ จะไปโทษใครไม่ได้นอกจากตัวเอง เราต้องเริ่มจากบ้านเรา ถ้าเราจะโทษใครเราต้องโทษตัวเอง เริ่มจากบ้านเราให้ดีก่อน และเรื่องของลูกมันจำเป็นที่จะต้องให้เขามีความเป็นส่วนตัว ก็จะพยายามทำมันให้ดีที่สุด และไม่มีอะไรดีไปกว่าการที่เราเชื่อมั่นในตัวเอง เรารู้อยู่แล้วว่าคนในครอบครัวเราเป็นยังไง เราดูแลจากภายในให้ดีที่สุด ส่วนการที่จะไปนั่งแก้ไขอะไรผมคิดว่ายาก เพราะว่าโซเชียลเป็นอะไรที่เปิด และทุกคนมีสิทธิ์ทำอะไรก็ได้ สิ่งที่เราจะทำต้องเริ่มจากภายในใจ และเพิ่มจากจิตใจ และแก้ไขจากตัวเรานั่นเอง
ส่วนวันเกิด “น้องชูใจ” ในปีนี้เราก็ให้บ้านเป็นของขวัญชิ้นใหญ่ เพราะก็กำลังผ่อนอยู่ 4 ปี ทำงานเก็บเงินจนตอนนี้ก็ใกล้จะหมดแล้ว