“เก้า สุภัสสรา” รับเจ้าของดอกไม้ปริศนา คือ “เชา ชวลิต” แย้มฝ่ายชายขี้อาย
ดูเหมือนหัวใจตอนนี้จะอินเลิฟหนักกับหนุ่มปริศนาที่หลายคนเดากันว่าเป็นหนุ่ม “เชา ชวลิต ชิตตนันท์” จะเป็นหวานใจของนางเอกสาว “เก้า สุภัสสรา ธนชาต” หรือเปล่า หลังถูกแฟนคลับจับตามอง ล่าสุดได้เจอเจ้าตัว เราก็ไม่พลาดที่จะคว้าตัวมาอัพเดทถึงสถานะหัวใจกับหวานใจหนุ่มกันสักหน่อย
เราก็อยากจะอินเลิฟเหมือนกัน หัวใจตอนนี้ก็โอเค เรื่อยๆ อย่างรูปถือดอกไม้ล่าสุดเลยที่เป็นข่าวปริศนาดอกไม้เห็นแค่แขน คนดูแล้วแบบรู้เลยว่าแขนของใคร แขนล่ำมากเลย พยายามซูมดูล่ำเหรอ ตอนลงรูปเรารู้สึกว่ามันเป็นวันพิเศษ แล้วก็เอาจริงๆ คือไม่เคยได้ดอกไม้มานานมากๆ แล้วค่ะ เก้ารู้สึกว่ามันเป็นวันดีๆ ที่เราอยากเก็บเป็นความทรงจำในแบบ เออ อยากให้ลงในอินสตาแกรม นี่ 14 กุมภาพันธ์ นะ คือเรามีความสุขค่ะ เราก็อยากลง อยากให้คนที่เรารักเห็น คนที่ติดตามเขาเห็นว่าทุกวันนี้เป็นวันดีๆ ของเราวันหนึ่งนะที่เรามีความสุข ประมาณนี้ ทำไมไม่เปิดหน้าไปเลย เพราะพี่เขาอาย แต่หนูว่าเขาไม่ได้กลัวว่าคนจะจับผิดไหม เพราะว่าเราสองคนก็เปิดเผยค่ะ แบบไปไหนมาไหน กินข้าว ไปเดินที่ไหนก็ไม่ปิด แต่ว่าเขาคงไม่อยากให้มันดูตลกถ้าเห็นหน้าเขาไปอยู่ในอินสตาแกรมแล้วถือดอกไม้
ซึ่งตอนนี้กลัวว่าความเป็นส่วนตัวจะหายไปเลยยังไม่เปิดตัวชัดเจน จริงๆ หนูกังวลเขามากกว่า คือเรื่องความรักเรามันนานมากแล้วที่เราไม่ได้ตรงนี้ พอวันหนึ่งมันมีเราก็กังวลคนที่เขาไม่ได้ทำงานตรงนี้ว่าเขาจะเครียดไหม หรือว่าคนจะไปวุ่นวายถามอะไรเขาเยอะไหม เรากังวลเขามากกว่า แต่เขาก็เล่นบ้างค่ะ ถามว่าคุยกันมานานหรือยัง ไม่นานเลย ไม่ถึงปี เป็นเพื่อนของเพื่อนประมาณนี้ เป็นเหมือนรุ่นพี่ที่รู้จักกันมาตั้งนานแล้ว
ส่วนตัวเราถูกใจอะไรเขา ตรงที่เขาเหมือนเป็นพี่คนหนึ่งที่แบบเรามีปัญหาแบบเพื่อนของเพื่อน ดูเหมือนเวลาไปกินข้าวหรือว่าเจอตามกลุ่มเพื่อนใหญ่ๆ เขาเป็นคนดูมีทัศนคติที่ดี เราเลยรู้สึกว่าคนนี้ปรึกษาได้ พอเรารู้สึกว่าคนนี้มีความคิดที่เราสามารถปรึกษาได้ พอเรามีปัญหาอะไรเข้ามาในชีวิตเหมือนกับคุยกันตรงๆ เหมือนจังหวะที่ได้คุยกันตามกลุ่มเพื่อนด้วย ไลฟสไตล์เราโอเคไหม หนูก็ใช้ชีวิตตามปกติ คือเราชอบไปกินข้าวแบบธรรมดา แล้วก็ปกติกันหมดเลยค่ะ ก็เลยยังไม่เห็นว่ามันมีไลฟสไตล์ที่มันต่างกัน ณ ตอนนี้ค่ะ
เปิดตัวแบบนี้แล้วสถานะตอนนี้ยังไม่ขยับมาเป็นแฟน ก็อาจจะมีความรู้สึกดีๆ เนอะ ให้ดอกไม้อะไรกันมันก็ใช่ แต่ว่ามันยังไม่ถึงเวลาที่ว่าเราจะใช้คำนั้นมากเท่าไรค่ะ เพราะพอโตขึ้นมันคิดเยอะมากเลยค่ะ ไหนจะเป็นเรื่องของการใช้ชีวิตครอบครัวหรือสังคมอะไรหลายๆ อย่าง เราต้องดูว่าเราไปด้วยกันได้ไหม อย่างหนึ่งที่เราเหมือนกันคือ เรามีเป้าหมายในชีวิตเหมือนกัน เราคิดตรงกัน เราชอบที่ชีวิตมันเป็นไปทางนี้ ก็เลยรู้สึกว่าโอเค ลองดูมันไปได้ไหม ตอนนี้เรียกว่าคนพิเศษไหม ก็พิเศษนะคะ สนิทกันมากค่ะ แล้วก็คุยกันปรึกษากันทุกเรื่อง ครั้งหน้าอาจจะไปเจอลงรูปแบบเต็มๆ หนูว่าไปถามพี่เขาดีกว่าว่าเขาอยากให้ลงไหม จริงๆ คือหนูได้หมดอยู่แล้วค่ะ เราก็อย่างที่บอกค่ะว่ารูปวันนั้นจริงๆ เราก็อยากลงคู่กัน แต่ว่าก็ด้วยความที่กลัวจะทำให้ชีวิตเขาลำบากมากขึ้นหรือเปล่า แต่เราก็ถามเขา ถามหลายรอบด้วย รูปนี้สามารถลงได้ไหม เราก็รู้สึกว่ามันเป็นวันดีๆ ของเรา
