"เอม ตามใจตุ๊ด" ปรี๊ดโดนโกง แฮปปี้ "พี่นาค" ร้อยล้าน รับช่องใหญ่ติดต่อ
รายได้เข้าสู่ 100 ล้านเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับภาพยนตร์ไทยแนวสยองขวัญเรื่อง “พี่นาค” ถือเป็นการรับบทการแสดงเป็นครั้งแรกของเน็ตไอดอลชื่อดัง “เอม วิทวัส รัตนบุญบารมี” หรือที่รู้จักกันในนาม “เอม ตามใจตุ๊ด” ซึ่งผลงานแรกก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทาง "ดาราเดลี่" มีโอกาสได้พูดคุยถึงความรู้สึกของเจ้าตัว จึงถามถึงคดีความเรื่องการโกงค่าตัว ซึ่งเจ้าตัวก็เผยว่า
อ่านข่าวต่อ :
ตอบชัด! “เอม” เคลียร์ดราม่า หลัง “ตามใจตุ๊ด” ยุติออกอากาศ
“เอม ตามใจตุ๊ด” พร้อมตลกดัง แจ้งความโดนโกงค่าตัว
ความรู้สึกตอนภาพยนตร์เข้าสู่สายตาประชาชน เอาจริงๆ ก็งงๆ ไม่รู้ว่ามาถึงจุดนี้ได้ยังไง ต้องดีใจขนาดไหนถึงจะดูไม่เวอร์เกินไป ถ้าเอาจากความรู้สึกจริงๆ คือเวอร์มาก ในใจคือแทบช็อก
การที่ก้าวมาตรงจุดนี้ มารับบท “บอลลูน” ก็ถือว่าโชคดีที่ผู้กำกับฯ เห็นแล้วอยากได้ “เอม” มาเลย แต่ขออยากเปลี่ยนชื่อหน่อย พอมันเป็นแบบนี้เราก็เกร็ง เพราะไม่รู้ว่าเราต้องเป็นตัวเองในระดับไหน เขาก็บอกให้ทำเต็มที่ออกมาเลย การเตรียมตัวก็อ่านบท แล้วก็ดูเยอะๆ ว่าควรเป็นแบบไหนดี แต่สุดท้าย “เอม” ว่าการเป็นตัวเรามันดีที่สุด มีเรียนแอ็คติ้งบ้างตอนเวิร์คชอป
สิ่งที่คิดว่ายากที่สุดที่มาแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้น่าจะเป็นซีนอารมณ์ พวกซีนร้องไห้อะไรแบบนี้ เพราะเราไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนว่าต้องเป็นเราที่ต้องร้องไห้ คือมีซีนหนึ่งที่จะจบแล้ว “เอม” ก็พัก ไปกินข้าว แล้วผู้กำกับฯ ก็เดินมาบอกว่า “เอม” เดี๋ยวร้องไห้ให้พี่หน่อย หนูวางช้อนเลย กินข้าวไม่ลงเลย มันไม่ใช่แค่น้ำตาไหล มันต้องคิดว่าจะร้องไห้เรื่องอะไร สุดท้ายเราก็นึกเรื่องที่บ้านที่เคยเกเรมาก่อน
ซีนที่ชอบที่สุดน่าจะเป็นซีนพังศาล มันจะลิงค์ยาวกันมาเลย มันก็จะไล่ๆ มาจากซีนที่ร้องไห้ ถึงซีนโมโห มีครบทุกรส คือเป็นซีนที่ชอบมาก
ส่วนเรื่องเหนือธรรมชาติก็มีเจอ มีฉากในโบสถ์ฉากหนึ่งที่หนูอยู่ข้างนอก แล้วเหมือนมีคนชะโงกหน้าออกมาจากโบสถ์ ทั้งๆ ที่ซีนนั้นไม่มีใคร แล้วคนที่เล่นเป็นเณรก็บอกว่าออกไปเถอะ ไม่ต้องอยู่ตรงนี้แล้ว เพราะสถานที่ถ่ายเป็นป่าช้าหมดเลย แล้วโบสถ์ที่ถ่ายก็เป็นโบสถ์ร้างจริงๆ พอเจออย่างนั้นหนูก็ยกมือไหว้หมดเลย แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดีเพราะเราไม่ได้ไปลบหลู่เขา
ฟีดแบ็คก็ดีเพราะมีฐานแฟนคลับของ “ตามใจตุ๊ด” เขาก็รอดูเรา มันมีกระแสที่ว่าเป็นหนังตลกเพราะเห็นว่ามีเรา เขาก็คิดว่าไม่น่าดูหรอกเพราะเห็นว่ามีเรา แต่พอสุดท้ายคนเข้ามาดูเขาก็เริ่มรู้สึกว่ามันไม่ใช่แค่แบบเอากะเทยมากรี๊ดกัน มันมีหลายเรื่องราว
หลังจากที่หนังเขาโรงฯ แล้วเราได้เป็นดาราแล้ว เอาจริงๆ ข้างนอกเปลี่ยนไป แต่ข้างในก็เหมือนเดิม ยังขับรถเองเหมือนเดิม มีแฟนคลับมากขึ้น
ตอนนี้ก็มีละครติดต่อเข้ามา แต่ยังบอกไม่ได้ว่าคือช่องอะไร บอกได้แค่เป็นช่องหลัก บทก็น่าจะเป็นเพื่อนนางเอก การทำงานในวงการคือคิดว่ามันเป็นแค่งานเฉยๆ ไม่เกี่ยวกับว่าอยู่ในวงการหรือนอกวงการหรอก ก็เหมือนทั่วไปที่มีคนมาจ้างทำงาน คือหนูทำงาน เขาให้เงินหนูก็รับเงิน อะไรประมาณนี้
ตอนนี้ดังแล้วเรื่องเพื่อนดาราก็มีบ้าง คือบางคนเรารู้จักเขา เป็นแฟนคลับเขา มีการฟอลไอจี การหยอกกันไปหยอกกันมา ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เฮฮาปาร์ตี้ ก็มีกลัวบ้างว่าคนจะว่าเราว่าเกาะกระแสดารา แต่หนูก็เฉยๆ เพราะรู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่
อยากฝากภาพยนตร์เรื่อง “พี่นาค” เพราะตอนนี้คือร้อยล้านแล้ว เราก็อยากจะไป 500 ล้านบ้างอะไรแบบนี้ เอาจริงก็อยากให้ไปดูกันเยอะๆ อย่าเพิ่งตัดสินอะไรที่เพิ่งเห็นครั้งแรก แบบเขาว่ามาว่าไม่สนุก ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ได้ไปดูเลยมันก็ไม่แฟร์ อยากให้ไปดูเพราะสนุกมาก
ส่วนเรื่องโดนโกงเงิน มีงานติดต่อมาตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมว่าให้เป็นพิธีกร 3 วัน หนูก็บอกราคาไปว่าเท่าไร คือก่อนหน้านี้มีพี่เป็กกี้, พี่ดีเจมะตูม วันนั้นไปเจอหนูก็ถามว่าได้ไปงานนี้ไหม พี่เขาตอบว่าไม่ได้ไปนะ หนูก็ตะหงิด แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร ส่วนเรื่องเงินก็จ่ายมัดจำเท่านี้ๆ แล้วก็หายไป เขาก็ให้หนูส่งคลิปไป สุดท้ายเงินมันก็เลื่อนๆ ไม่ให้สักที เราก็ถามว่าสรุปยังไง ไม่งั้นเราจะแคนเซิลแล้วนะ เขาก็บอกว่ายังมีงานอยู่
พอวันที่ 7 มกราคม ก็ไม่มีงานเกิดขึ้น หนูก็เลยขอเงินคืน พอไปถึงเขาก็ยื่นเช็คมาให้ แล้วเช็คก็เด้ง เขาก็นัดอีกแต่หนูไม่ไปแล้ว จะแจ้งตำรวจ เขาก็ให้ทนายโทรมาคุย ขอเป็นวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ได้ไหม อยากไกล่เกลี่ย พอตอนเที่ยงครึ่งเขาก็โทรมาบอกว่า อยากได้ก็ไปแจ้งตำรวจเอาเพราะไม่มีเงินให้ ก็มีโดนไปหลายคน เพราะหลังจากที่โพสต์แฟนคลับก็เข้ามาเมนต์ว่าโดนเหมือนกัน “พี่คิง” ก็โดน “เจ๊น้ำ” ก็โดน สุดท้ายก็ไปแจ้งความกัน ตอนนี้ก็เตรียมเอกสารแล้ว มีการปรึกษากับ “เจ๊น้ำ” เรื่องแจ้งความ เงินก็ไม่ได้อยากได้แล้ว อยากด่ามากกว่า เพราะเขาเอาหนูไปอ้าง ดาราหลายคนก็โดน