ทีมเราเหมือนบ้าน! เปิดความรู้สึก “จีน่า” จากแชมป์สู่บทบาทเมนเทอร์

ทีมเราเหมือนบ้าน! เปิดความรู้สึก “จีน่า” จากแชมป์สู่บทบาทเมนเทอร์

        เป็นอีกหนึ่งสาวที่แจ้งเกิดจากรายการประกวดนางแบบ-นักแสดง อย่างสาว “จีน่า วิรายา ภัทรโชคชัย” หลังจากเธอผ่านการประกวดนางแบบจากรายการชื่อดัง “The Face Thailand” และการกลับมาอีกครั้งของเธอใน “The Face Thailand All Star” เรียกว่าเป็นการกลับมาที่สมศักดิ์ศรี เพราะเธอได้คว้าตำแหน่งผู้ชนะเลิศในการประกวดไปครองได้สำเร็จ และมีผลงานต่างๆ ออกมาให้ได้ติดตามกัน และตอนนี้สาว “จีน่า” ก็ได้รับบทบาทการเป็นเมนเทอร์ใน “The Face Thailand 5” เรียกว่าเป็นเมนเทอร์น้องใหม่ คู่กับหนุ่ม “แบงค์ อนุสิทธิ แสงนิ่มนวล” แท็กทีมมาร่วมงานกัน ทาง “ดาราเดลี่” ได้มีโอกาสพูดคุยกับ “จีน่า” กับบทบาทการเป็นเมนเทอร์และผลงานของเธอโดยเจ้าตัวเผยว่า

อ่านข่าวเพิ่มเติม

“จีน่า เดอะเฟซ” ว่าไง "น้ำหวาน" ขอถอนตัวเหตุเดินแบบสู้ไม่ได้

         ด้านความแตกต่างระหว่างการเป็นผู้เข้าแข่งกัน กับการเป็นเมนเทอร์มันกดดันต่างกัน ตอนที่เป็นผู้เข้าแข่งขันเราต้องทำทุกแคมเปญ ทุกอย่าง ทุกหน้าที่ของเราให้เมนเทอร์ได้เห็นว่าเรามีศักยภาพพอที่จะเป็นคนสุดท้าย แต่พอได้มาเป็นเมนเทอร์ ศักยภาพตรงนั้นมันเปลี่ยนไป เพราะเราต้องดึงศักยภาพตัวเองให้ลูกทีม และคนทั้งประเทศได้เห็นว่าเราทำได้ การที่เราผ่านการเป็นผู้เข้าแข่งขันแล้วมาเป็นเมนเทอร์ อาจจะเป็นจุดแข็งของเราไหม เรามองว่ามันไม่ได้เป็นจุดแข็ง เราจะรับรู้ได้ถึงอารมณ์ของเขา ความรู้สึกของเขา ในทุกๆ แคมเปญ ในทุกๆ วันที่เราเจอเขา เราจะรู้ทันทีเลยว่า ถ้าเจอสถานการณ์แบบนี้ เขาจะรู้สึกยังไง เพราะฉะนั้นเราก็จะพูดถึงเรื่องความรู้สึกได้ดีกว่า

        การร่วมงานกับ “แบงค์” เป็นเพราะเรารู้จักกันมานาน เราจึงค่อนข้างที่จะรู้กัน นิสัยเป็นยังไง คือเขาเป็นคนอ่อนโยน อ่อนไหวง่าย แต่ว่าเราเป็นคนที่แข็ง ซึ่งมันก็เป็นข้อดีในหลายๆ อย่าง แล้วก็เวลาอยู่ด้วยกัน มันแน่นอนอยู่แล้ว ตอนแรกเราเริ่มต้นมาจากการเป็นเพื่อน พี่ น้อง ที่อยู่ด้วยกันในวงการ แต่พอเราได้มาทำหน้าที่กันจริงจัง ต้องใช้ความคิด และอยู่ร่วมกัน มันค่อนข้างที่จะมีอะไรหลายๆ อย่างที่ไม่ค่อยตรงกัน แต่ว่าเราก็คุยกันวันแรกเลยว่า มันต้องปรับเพราะคนที่เขารอความหวังจากเราคือลูกๆ เรา เราก็ปรับกันได้เร็วมาก 

         ด้านการเตรียมตัว เรามาเป็นเมนเทอร์ครั้งแรกมันก็ต้องทำการบ้านหนักมากพอสมควร อย่างเราก็ย้อนกลับไปดูซีซั่นแรกๆ จนสุดท้ายว่า จุดอ่อนจุดแข็งของรายการมันคืออะไร แล้วเราก็อยากทำให้รายการยังคงความขลังเหมือนเดิม เราก็พยายามเรียนรู้อะไรเก่าๆ หลายๆ เมนเทอร์ อย่างซีซั่น 2 อยากให้รายการแสดงศักยภาพเด็กออกมาให้เต็มที่ ส่วนมากจะเป็นในด้านนั้น

          ถ้าถามว่ากังวลกับเมนเทอร์คนไหนไหมในซีซั่นนี้ จริงเราไม่ได้กลัว แต่เรามองว่า อย่าง “พี่โทนี่” เขาเคยเป็นเมนเทอร์มาแล้ว เราก็ไปย้อนดูของเขา ไปย้อนดูอะไรที่ชัดๆ ว่า เขาเป็นคนยังไง ชอบทำอะไร ไม่ชอบอะไร ก็จะได้เอาตรงนั้นมาเป็นจุดอ่อนของเขา ส่วน “มารีญา” เราก็มีคุยบ้าง แต่ส่วนมากใช้เวลาในการอยู่กับทีมมากว่า ก็ไม่ได้คุย หรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอะไรมากมาย คือจริงๆ ข้างนอกเราอยู่กลุ่มเดียวกัน แต่พอเราต้องมาอยู่ในรายการเราก็จะไม่ได้คุยกัน เพราะเวลาถ่ายทำมันจะได้ดูสมจริง อยากใช้ความรู้สึกตรงนั้นให้มันเรียลที่สุด 

          กระแสตอบรับส่วนตัวเราว่าเฉยๆ เพราะเราเคยเจอมาแล้วในซีซั่น 2 ก็เลยเฉยๆ เพราะรายการนี้มันเหมือนทุกคนค่อนขางที่จะวิจารณ์ได้ เราก็น้อมรับ ส่วนอะไรที่มันแรงเกินไปก็จะข้าม เพราะเรารู้ว่าตัวเราทำดีไม่ดีตรงไหน ก็เอาข้อตรงนั้นมาคิด และเรียนรู้ ความรู้สึกมันไม่เสียใจเพราะว่าเขาไม่ได้มารู้ตอนถ่ายทำ เขาอยู่หน้าทีวี มันเป็นเรื่องธรรมดาเลยที่คนจะวิจารณ์กัน เพราะเราก็ถือว่าเป็นคนของประชาชนเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเลยไม่ได้ซีเรียสกับเรื่องแบบนี้ แต่ก็มี “พี่ลูกเกด” กับ “พี่คริส” ให้กำลังใจเรา ให้เราทำให้เต็มที่ เป็นตัวเราให้มากที่สุด เราคิดแค่ว่าวันนี้เราต้องเป็นพี่ใหญ่ ที่ต้องเอาความรู้มาให้กับน้องๆ เอาประสบการณ์มาสอนเขา กับ “พี่แบงค์” จริงๆ เราสนิทกัน แต่พอมาร่วมงานกันจริงๆ มันก็มีบางมุมที่เราไม่เคยเจอ เหมือนเด็กที่ไม่เคยอยู่ด้วยกันแล้วจะต้องมาอยู่ด้วยกันตลอด เราก็จะสอนตั้งแต่ตอนนั้นเลย จนมาถึงการทำงาน

          คิดเห็นยังไงกับประเด็นที่รายการชอบขายความดราม่า เราว่าแล้วแต่คนมอง บางคนก็อาจจะเบื่อ แต่อยากให้ติดตามชมกัน เพราะว่าตัวเราเองตลอดการถ่ายทำ เรายังรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้ง เพราะฉะนั้นอยากให้ดู เพราะมันสนุกจริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องที่ต่อกันเรื่อยๆ 

         เมื่อถามว่าน้องๆ ซีซั่นนี้เป็นอย่างไรบ้าง เธอเผยว่าน้องทุกๆ คนดูมีของกันหมดทุกคนเลย อย่างซีซั่นนี้มีตั้งแต่อายุ 13 ปีเลย และมีทุกเพศ ทุกวัย แล้วเรารู้สึกว่า ทุกคนแบบดูมีของมา เพราะบางคนเก่งมาก อยากให้ดูจริงๆ เพราะวันเสาร์นี้จะเป็นการเลือกเข้าทีมแล้ว แล้วก็จะได้เห็นการฟิตติ้งของน้องๆ แล้ว 

        ในใจก็พอมีตัวเต็งซีซั่นนี้แล้ว ก็พอมีคนที่หมายตาเอาไว้ คือเรากับ “พี่แบงค์” ก็ทำการบ้านกันมาพอสมควร ว่าเราอยากได้แบบไหน เราอยากได้อารมณ์ไหน แล้วในแต่ละคนต้องไม่เหมือนกัน เราจะรู้ว่าลูกค้าต้องการแบบไหน ไม่ชอบแบบไหนเราก็เลยอยากที่จะเลือกคนที่สามารถทำอะไรได้หลายๆ อย่าง ถ้าให้จำกัดความเป็นทีมของเรา คือทีมโฮม เราเป็นเหมือนเจ้าบ้าน เราเคยผิดหวังที่นี่ แล้วเราก็เคยชนะที่นี่ ที่นี่คือบ้านของเรา เพราะฉะนั้นลูกๆ เข้ามาก็ต้องมีความรู้สึกเข้ามาแล้วนี่คือบ้าน 

         ก่อนจะทิ้งท้ายอัพเดทผลงาน ประมาณช่วงกลางปีจะมีซีรีส์จากจีเอ็มเอ็ม 25 จะออนแอร์ เรื่อง “เจ้าหญิงเม็ดทราย” รับบทเป็น “แอฟ” เป็นนางแบบ เป็นตัวร้าย และก็เป็นตัวดำเนินเรื่องที่ทำให้พระเอก น้องพระเอก และนางเอก ปั่นป่วน เราเป็นคู่หมั้นของพระเอกมาก่อน ถือเป็นนักแสดงแบบเต็มตัวครั้งแรก ค่อนข้างที่จะเครียดนิดหน่อย เพราะตอนถ่ายทำละคร ก็มีการถ่ายทำรายการ “เดอะเฟซ” ด้วย เวลาพักผ่อนเลยค่อนข้างน้อย อยากให้ติดตามชมกัน สนุกครบรสแน่นอน และก็จะมีละครเรื่อง “แรงเทียน” รับบทเป็นตัวร้ายเหมือนเดิม ยังไม่ได้มีการเวิร์คชอป เบื้องต้นเท่าที่ทราบจะเป็นลูกคุณหนู ไฮโซ แต่บทที่เราอยากเล่นมากที่สุด คือบทร้ายแต่โรคจิต เพราะเราเป็นคนพลังเยอะ เลยรู้สึกอยากลองดู

         ฝากติดตามผลงานทั้งรายการ “เดอะเฟซ” และละคร แต่ถ้ามีอะไรก็แจ้งรายละเอียดในไอจีอีกครั้ง และก็ขอฝากรายการ “ET Thailand” ช่อง PPTV อีกด้วย