“พัดพัด” แฮปปี้ธุรกิจร้านลูกโป่ง ยังไร้แพลนแต่งงานกับ “ก้อง กรุณ”
เรียกว่าถูกจับตาไม่น้อยเรื่องความสัมพันธ์ ระหว่างนักแสดงสาว “พัดพัด รัตน์ฟ้า ไชยชื่นจิตต์” กับหนุ่ม “ก้อง กรุณ ซอโสตถิกุล” เพราะตั้งแต่ทั้งคู่เปิดตัวว่าคบหากันความรักก็ดูหวานชื่นเหมือนคู่รักทั่วๆ ไป และในวันนี้ทีมงาน “ดาราเดลี่” ได้มีโอกาสเจอสาว “พัดพัด” เลยไม่พลาดที่จะอัพเดทสถานะความสัมพันธ์ของทั้งคู่ โดยเจ้าตัวเปิดใจถึงความรักว่า
อ่านข่าวต่อ :
“ณัฏฐ์-พัดพัด” แจงข่าว "ซึงรี" รับมั่นใจ “ก้อง” ไม่มีส่วนเกี่ยว วอนแฟนคลับอย่าเพิ่งตัดสิน
ผลงานตอนนี้ก็เพิ่งผ่านไปสำหรับละครเรื่อง “พรหมไม่ได้ลิขิต” ส่วนใหญ่ละครเราถ่ายและจะออนแอร์เลยตลอด จะมีช่วงว่างแบบนี้เยอะ แต่จริงๆ แล้วเรายังมีสัญญากับทางช่องวันอยู่ คิดว่าเดี๋ยวคงมีผลงานมาให้ติดตามกันอย่างแน่นอน ช่วงนี้ก็มีคนมาทาบทามบทให้เล่นอยู่เรื่อยๆ แต่ว่าหลายๆ อย่าง ทั้งเรื่องสัญญาตรงนี้ และมันยังติดตรงที่ถ้าเราอยากทำอะไรอย่างอื่นมันคงต้องขอ แต่ทางเอ็กแซ็กท์เองเขาก็ไม่ได้ห้าม อาจจะต้องดูเป็นเรื่องๆ ไป ถึงงานละครจะไม่ค่อยมีแต่ช่วงนี้ก็มีอีเว้นท์อยู่เรื่อยๆ
ส่วนตอนนี้เปิดร้านลูกโป่ง ทำธุรกิจเป็นของตัวเอง ค่อนข้างที่จะยุ่งมากเลยไม่ค่อยได้เจอ “พี่ก้อง กรุณ” เป็นร้านลูกโป่งบอลลูนปาร์ตี้ ถ้าใครติดตามผ่านอินสตาแกรมก็จะได้เห็นกัน
สำหรับ “พี่ก้อง กรุณ” ตอนนี้ก็ยังเรื่อยๆ มีหลายคนถามว่าเมื่อไรจะมีข่าวดีได้เป็นเจ้าสาว ส่วนตัวเราคิดว่าตัวเองยังเด็กอยู่ เพิ่งเรียนจบ ตอนนี้ก็จะโฟกัสเรื่องงานค่อนข้างหนักมากๆ เหมือนช่วงนี้มันมีงานอีเว้นท์ต่างประเทศบ้าง ต่างจังหวัดบ้าง ก็เลยทำให้เราอยู่กรุงเทพฯ ด้วยกันน้อยมาก พอกลับมาไทยปุ๊บก็ต้องรีบทำงาน อีกสักพักก็ต้องบินไปอีกแล้ว ก็เลยเหมือนเวลาค่อนข้างน้อย ซึ่งส่วนใหญ่เจอเขาถ้าเกิดเขามีเวลาว่างก็จะมาหาเรามากกว่าในช่วงนี้
ส่วนเรื่องแต่งงานก็ยังไม่ได้คุยกันจริงจังถึงขั้นที่เราว่าอยากแต่งมากอะไรขนาดนั้น คือด้วยช่วงอายุเขาก็อาจจะสมควรแล้ว แต่ตัวเขาเองก็ไม่ได้บังคับ ไม่ได้เร่งอะไรเรามาก จริงๆ แล้วตัวเราก็ยังไม่ได้คิดด้วย เพราะตั้งใจว่าตอนนี้อยากอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ และเวลาทำอะไรเราเป็นคนจริงจังมาก อย่างตอนเรียนเราก็ไปอยู่ที่คอนโดฯ เพื่อที่จะได้ไปเรียนง่ายๆ เพราะตอนนั้นเราเรียนที่จุฬาฯ และบ้านเราอยู่ลาดพร้าว แทบไม่มีเวลาให้คุณพ่อคุณแม่เลยในช่วงปีสุดท้ายที่เรียน ก็เลยรู้สึกว่าธุรกิจนี้มันโอเค เพราะเราได้ร่วมทำกับที่บ้าน และเขาก็ลงทุนให้ทำเพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ๆ เขา เราก็เลยคิดว่าขออยู่กับเขาก่อน เพราะท่านก็ค่อนข้างอายุเยอะแล้ว เพราะเราเป็นลูกสาวคนโต และอีกอย่าง ใจเราก็อยากที่จะเรียนต่อป.โทที่ต่างประเทศด้วย