โค้ช "อองตวน" กับอีกหนึ่งบทบาทสุดท้าทาย

โค้ช "อองตวน" กับอีกหนึ่งบทบาทสุดท้าทาย

        ได้ขึ้นมาเป็นโค้ชในรายการ “10 FIGHT 10” รายการที่เอาซุป’ตาร์ดารามาขึ้นสังเวียนชกจริง โดยครั้งนี้หนุ่ม "อองตวน ปินโต" รับหน้าที่เป็นโค้ช ล่าสุดเจอหนุ่ม "อองตวน" เลยขอถามถึงบทบาทการเป็นโค้ชสักหน่อย เจ้าตัวเผยว่า

อ่านข่าวเพิ่มเติม

"อองตวน" เผยเหตุผลทำไมถึงรักผู้หญิงที่ชื่อ "ชิปปี้"

        ก็ดีครับ เราได้รับหน้าที่การเป็นโค้ช เป็นส่วนหนึ่งช่วยให้นักมวยทำตามความฝันให้สำเร็จ สิ่งสำคัญที่สุดคือนักชกไม่ใช่ตัวเรา หน้าที่ของเราคือแชร์ประสบการณ์ และผมเชื่อว่าประสบการณ์การชกมวยของผม 18 ปี แชมป์โลกอีกหลายสมัย เด็กๆ ที่เราปั้นมาตั้งแต่ไม่เป็นการตั้งการ์ดจนได้แชมป์มาหลายสมัย ผมว่าประสบการณ์ตรงนี้ทำให้ผมช่วยนักมวยของผมได้

          มีเทคนิคอะไรสยบคู่ต่อสู้ มันต้องมีอยู่แล้ว แต่ผมไม่อยากโฟกัสฝั่งตรงข้าม อยากจะโฟกัสฝั่งเราก่อน ผมว่าเวลาการเตรียมตัวของนักชกมากน้อยแค่ไหน ความพร้อม คือเราต้องดูทุกสเต็ป ทุกคนไม่เหมือนกัน นักมวยต้องมีเป้าหมาย มีหัวใจนักสู้ตั้งแต่ต้น การทำงานแข่งกับเวลาเราต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เขามีความคิดยังไง มีเป้าหมายยังไง ในการมาชกในครั้งนี้ 

         หนักใจไหมเพราะบางคนไม่มีพื้นฐาน ไม่หนักใจเลย ครูที่ดีต้องสอนให้ทุกคนเก่ง ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ เราต้องสอนได้ ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่สนุกสำหรับเรามากกว่าเราได้สอนหลากหลาย 

         ลำบากใจไหมเพราะส่วนใหญ่เราก็รู้จักกันหมด ส่วนตัวก็มีกังวลเหมือนกันว่า ตอนแรกเขาจะชกกันจริงไหม กล้าชกกันไหม พอเราได้คุยกับทุกคน ได้ประชุมกัน เรารู้ว่าทุกคนจริงจังมาก เราพร้อมจะชกเต็มที่ มีทัศนคตินักกีฬา พอชกเสร็จก็เป็นพี่เป็นน้อง เป็นเพื่อนสนิทกัน แต่ ณ บนเวทีเขาเป็นนักกีฬา เป็นคนที่ต้องขึ้นมาทำหน้าที่ 

       มีเกร็งไหม ไม่นะผมว่าทุกคนมาทำหน้าที่ ถ้าจะมีก็จะเป็นพี่กาย เพราะพี่เขาเคยชกมวย เขามีประสบการณ์สูง มีน้องโดม เดอะเฟซ เพราะเคยมีประสบการณ์มาแล้ว 

        เป็นปรากฏการณ์อย่างหนึ่งที่เอาดารามาชกมวย ผมว่าผู้ชายหลายคนอยากขึ้นไปชกมวย บางคนอาจจะคิดว่าต้องเป็นมืออาชีพ ซึ่งเวทีนี้เป็นเวทีที่ให้คนมีชื่อเสียงขึ้นมาชก อีกอย่างให้ผู้ชมได้ชมกันด้วย 

        ได้คุยกับ “พี่แมทธิว ดีน” ไหมว่าเราเอาจริงนะ สุดท้ายแล้วเรามีการบลัฟกัน ทั้งผมและพี่แมทก็อยากชนะ หน้าที่บทบาทของเราคือดูแลความปลอดภัยและผลักดันให้ถึงฝั่ง ทั้งพี่แมทและผมก็มีเป้าหมายเดียวกัน 

        ส่วนของผมชกอาชีพยังไม่มี เวลาอาจยังไม่พอด้วย แต่ก็มีการซ้อมกันตลอด น้องชายผมก็ยังชกอยู่ ก็ยังเป็นคู่ซ้อมให้น้องอยู่ เตรียมร่างกายให้พร้อมตลอด 

          “ชิปปี้ ศิรินทร์ ปรีดียานนท์” ให้กำลังใจตลอด ไม่ว่าจะงานเล็กงานใหญ่เขาให้กำลังใจตลอด 

          เป็นที่จับตาที่เราขึ้นเป็นโค้ช ก็ดีครับ สุดท้ายแล้วไม่ผมหรือน้องชายผมที่เข้ามาช่วยในวันที่ผมเข้ามาดูในรายการนี้ ผมก็จะฝากน้องดู ก็เป็นอีกหนึ่งงานที่น่าจับตาดู ถ้าไม่สำเร็จก็ไม่เป็นไร เพราะไม่ได้เป็นนักมวยอยู่แล้ว เรามีประสบการณ์เยอะเราก็พยายามเต็มที่อยู่แล้ว 

          ฝากรายการ “10 FIGHT 10” เป็นรายการที่ไม่ใช้หน้าตาต่อสู้ แต่ก็ใช้หมัดต่อสู้ เป็นเวทีที่ดารา เซเลบริตี้ขึ้นมา