“ดีเจเป้ วิศวะ” โร่แจ้งความคดีถูกฉ้อโกง ตั๋วเครื่องบิน สูญเงินกว่า 4 แสน
โดนกันถ้วนหน้าหลังเหล่าดีเจชื่อดังหลายคนเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังโอนเงินซื้อตั๋วเครื่องบินไปต่างประเทศแต่กลับไม่ได้บิน เพราะคนกลาง “นางสาวนริศรา ไชยแสน” พนักงานในออฟฟิศเอไทม์ ไม่สามารถติดต่อกับคนขายตั๋ว “นายยุทธนา ธรรมพรต” เอเยนต์ที่รับเงินไปได้ โดยขณะนี้พบว่ามีผู้เสียหายร่วม 300 คน ทำให้มูลค่าความเสียหายรวมแล้วสูงถึง 30 ล้านบาท
อ่านข่าวต่อ :
โดนเข้าแล้ว “ดีเจพี่อ้อย” ถูกเชิดค่าตั๋วเครื่องบิน
ซึ่งล่าสุดทาง “ดีเจเป้ วิศวะ” ก็ได้เดินทางมายังสน.ทองหล่อ ในเวลา 15.00 น. เพื่อเข้ามาแจ้งความกรณีโดนโกงตั๋วเครื่องบินในกรณีนี้เช่นกัน โดยเจ้าตัวบอกว่าตนเองนั้นได้รับความเสียหายจากการจองตั๋วไปประเทศอังกฤษและอเมริกา รวม 398,000 บาท ขณะนี้ยังไม่มีทราบอะไรเพิ่มเติมหลังจากที่ “นายยุทธนา” เข้าไปพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ตนก็ต้องเดินทางมาแจ้งความไว้ก่อน เพราะตนก็เป็นผู้เสียหายคนหนึ่งในการฉ้อโกงครั้งนี้ ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นกับตัวเอง เพราะทั้งหมดคือความไว้ใจกันเป็นทอดๆ ไม่ขอฝากเตือนใคร เพราะเรื่องเพิ่งเกิดกับตัวเอง แต่อยากให้ทุกคนดูเคสนี้ไว้เป็นตัวอย่าง
เดินทางมาแจ้งความสน.ทองหล่อเรื่องตั๋วเครื่องบิน เนื่องจากมีคดีความ มีเรื่องราวเกิดขึ้น ผมเองเป็นหนึ่งในผู้เสียหายเลยต้องเดินทางมาแจ้งความให้ทราบว่าเราเป็นผู้เสียหายเหมือนกัน ได้รับทราบไปด้วยกัน แล้วก็อยากรู้ความคืบหน้าว่าจากนี้ไปจะเป็นยังไง เรามองกันว่าน่าจะเป็นคดีฉ้อโกง เพราะว่าเรามีการโอนเงินไปเพื่อที่จะจองตั๋วเครื่องบิน แต่ไม่ได้บิน ของผมมีอยู่ 2 ทริปด้วยกัน ไปอเมริกากับอังกฤษ อังกฤษจองก่อน เดินทางเดือนกรกฎาคม อเมริกาจองเมื่อไม่นานมานี้ มูลค่าความเสียหายเลขกลมๆ ก็ 398,000 บาท เป็นเงินทั้งหมด โดยทยอยโอน โอนไปทั้งหมด 3 รอบ แสนกว่า สองแสนกว่า แล้วก็ 6 หมื่นกว่า เกิดจากความไว้ใจเพื่อนร่วมงาน เป็นน้องที่ทำงานด้วยกันมาหลาย 10 ปี ความเชื่อใจในน้องของเรา แต่น้องเราก็ไปเชื่อเพื่อนเขาที่ส่งต่อประชาสัมพันธ์กันในไลน์ เราเลยรู้สึกว่าน่าจะน่าเชื่อถือ อีกอย่างคือ เขาทำงานในสายงานเดียวกัน ก็มีการออกตั๋วกันมาบ่อยครั้งแล้ว ฟังจากที่พูดกันมาก็ 2-3 ปีแล้ว เราก็เลยปีนี้ลองดู ก็แจ๊คพอต นี่ครั้งแรก ลองซื้อให้ตัวเองครั้งแรก แต่เคยฝากซื้อให้เพื่อน เพื่อนได้ไป แต่นี่ของเรา เราไม่ได้ไป เจ้าเดียวกับของ “พี่อ้อย” เคสเดียวกันเลย
ส่วนตัวไม่เคยคิดเลย เราทำงานสื่อ เห็นข่าว เสพสื่อเสพข่าว รายงานข่าว ไม่คิดเหมือนกัน ใกล้ตัวมาก มันเป็นการเชื่อใจที่ใกล้ตัวที่สุด คนที่ทำงานด้วยกัน ฝั่งโน้นก็บอกทำงานด้วยกันมา 20 ปีเขายังทำกันได้ ได้คุยกับน้องผู้หญิงบ้างแล้ว ให้น้องแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลักฐานการโอนเงินเป็นยังไง น้องก็ให้ความร่วมมือดี มีหลักฐานอะไรก็ส่งมาให้ “พี่เป้” ตัวเขาก็ชี้แจงความบริสุทธิ์ใจ เขามีหลักฐานในการโอนเงินต่อให้ผู้ชาย แต่ไม่ได้คุยกับฝั่ง “ยุทธนา” เพราะฉะนั้นก็ยังติดต่อไม่ได้ เราเห็นจากภาพข่าว ยังไม่ได้มีการติดต่อใดๆ อยู่ในกลุ่มไลน์ผู้เสียหาย เขาก็ชวนเข้า แต่ส่วนตัวยังไม่อยากเข้า เหนื่อยที่จะไปรับฟังเรื่องราวเยอะๆ ขออยู่ห่างๆ ตามข่าว หลังจากที่ “ยุทธนา” ไปรายงานตัว มีอัพเดทบ้าง ส่งคลิปมาต่อๆ กัน
ณ วันนี้ยังคุยกันไม่จบ ต้องคุยกับเจ้าหน้าที่ต่อว่าคดีความจะคืบหน้าได้ยังไงบ้าง ซึ่งมาแจ้งความวันนี้ก็อยากมาดูขั้นตอนต่อไปว่าจะทำอะไรได้บ้าง เพราะวันนี้เขามารับฟังข้อกล่าวหา ยังไม่เป็นผู้ต้องหา เราก็เลยถือโอกาสมาแจ้งความว่าเราเป็นผู้เสียหาย แล้วอยากปรึกษาตำรวจว่าคดีจะไปยังไงต่อ อยากให้คดีดำเนินให้เร็วที่สุดเพราะว่ามันน่ากลัว มันเป็นการฉ้อโกงที่ใกล้ตัวและเป็นผ่านทางออนไลน์ หวังได้เงินคืน แต่เคสแบบนี้ก็ได้แต่ภาวนา พูดได้แค่นั้น เข็ดไหม คงต้องดูให้ลึกกว่านี้ ที่ผ่านมาก็รู้สึกว่าเราดูลึกแล้ว แต่คงต้องลึกกว่านี้อีก ความไว้ใจมันไม่ได้แค่นี้ อยากจะฝากอะไรถึงคนทั่วไป ส่วนตัวไม่กล้าฝาก ไม่กล้าเตือนใครแล้ว เพราะว่าโดนกับตัว ดูเคสผมไว้เป็นตัวอย่างดีกว่าว่าเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวที่เราไว้ใจเชื่อใจ ในขณะที่น้องเขาไปเชื่อใจเพื่อนอีกคนหนึ่ง เป็นการเชื่อใจเพื่อนต่อเพื่อน เพราะฉะนั้นก็ระมัดระวังกันแล้วกัน แต่ไม่กล้าฝากอะไร