“เติ้ล ตะวัน” โร่แจ้งความคดี ถูกฉ้อโกงตั๋วเครื่องบิน รวมมูลค่า 6 แสนบาท
ต้องบอกเลยว่าโดนกันถ้วนหน้าสำหรับคดีฉ้อโกงจองตั๋วเครื่องบิน ซึ่งบ่ายวันนี้ (19 เมษายน) นักแสดงหนุ่มชื่อดังอย่าง “เติ้ล ตะวัน จารุจินดา” และภรรยาสาว “กระแต เสาวคนธ์” เข้าแจ้งความ กรณีโดนโกงเงินค่าตั๋วเครื่องบิน พร้อมผู้เสียหายอีกหลายคนรวมตัวกันเดินทางไปยังกองบังคับการปราบปราม เพื่อแจ้งข้อหาฉ้อโกงประชาชน รวมมูลค่าความเสียหายเกือบ 6 แสนบาท โดยเจ้าตัวเปิดใจว่า
อ่านข่าวต่อ :
“พี่ฉอด” ขอชี้แจง ไม่ใช่เหยื่อโกงค่าตั๋วเครื่องบิน
สำหรับที่ไปที่มาของเหตุการณ์นี้สืบเนื่องจากน้องสาวแนะนำต่อมา เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่อยากจะพาลูกสาวไปเที่ยวเมืองนอกเป็นทริปแรก เลยซื้อตั๋วไปทั้งครอบครัว เขาเลยแนะนำเราไปซื้อกับคนนี้ไหมเพราะว่าถูกดี แต่เขามีคนบินจริง เราก็สงสัยเพราะราคาถูกมาก เราเลยตัดสินใจซื้อ น้องสาวเลยเป็นคนโทรติดต่อ จนเขาบอกว่าวันนี้วันสุดท้ายแล้ว เราก็บอกบอกเขาจะไปช่วงเดือนพฤษภาคม รวม 4 ที่นั่ง เขาก็บอกราคาเรามาทั้งหมดในราคาเท่านี้ๆ เราเลยตัดสินใจโอน แต่ก่อนโอนก็เอะใจอยู่ เราส่งชื่อให้เขา 2 ที่ อีก 2 ที่เขาก็ไม่ถามกลับมาว่ายังไงหรือชื่ออะไร ขอพาสปอร์ตไหม ซึ่งเป็นตั๋วจากกรุงเทพ-โตเกียว เฉพาะบ้านเรา 80,000 บาท แต่น้องสาวราคาเกือบ 500,000 กว่าบาท
จนกระทั่งมาเอะใจจากเรื่องของ “ดีเจพี่อ้อย” ซึ่งความเสียหายเรายังไม่เกิดเพราะเราบิน 13 พ.ค. แต่เราก็เริ่มคิดแล้วว่าต้องเป็นหนึ่งในผู้เสียหายที่โดนโกง ทางเราก็เลยไปลงบันทึกประจำวันก่อน วันที่ 28 มี.ค. ที่เขาบอกว่าจะออกตั๋วให้ก็ยังไม่ออก จนวันที่ 5 เม.ย. น้องเราก็ไลน์มาว่าเหมือนเราจะโดนแล้ว เราก็บอกให้เช็กดีๆ เพราะเรามีลูกเล็กไปด้วย จนวันนั้นเริ่มมีการแอดไลน์มาสร้างกรุ๊ปของผู้เสียหายทั้งหมด รวมๆ กันแล้วก็ 200 กว่าคน ซึ่งพอรู้ก็ตกใจไม่คิดว่าจะเยอะขนาดนี้ เรารู้สึกว่ามันเป็นการหลอกที่เกินไป เงินก็สำคัญแต่ทำแบบนี้มันไม่ได้ เราก็ต้องออกมาเผื่อเขาจะได้ไม่ไปทำกับคนอื่นอีก ทางเราไปแจ้งความเลยตั้งแต่รู้เรื่องในวันนั้น 5 เม.ย. และวันที่ 6 ก็ไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และได้มีการลงบันทึกดำเนินการจนระยะเวลาถึงตอนนี้มันไม่มีอะไรคืบหน้า เราเลยรู้สึกว่าถ้าเขาลอยนวลอยู่และไปหลอกคนอื่นต่อ เขาอาจจะไปเอาจากคนอื่นมาอีก
“เติ้ล ตะวัน” เผยต่อว่า ไม่คิดว่าเราทำงานในวงการ มีชื่อเสียงจะมาโดนหลอกแบบนี้ แต่ก็ทำให้เรายอมรับว่าของถูกไม่มีอยู่ในโลกจริง ซึ่งเราก็ได้รับผลกรรมนั้นแล้ว อยากให้คนที่โกงได้รับเช่นกัน โดยเราก็ไม่ได้คิดว่าจะได้เงินคืน นักข่าวถามต่อว่าหลังจากมีคนไปแจ้งความ ทางคู่กรณีได้ติดต่อมาไหม “คุณกระแต” บอกว่า ติดต่อมาเฉพาะรายบุคคล ส่วน “คุณเติ้ล” ยอมรับเลยว่าได้คุย แต่ไม่ได้รับข้อตกลงใดๆ ทั้งสิ้น โดยอีกฝ่ายติดต่อมาขอประนีประนอม แต่เรามองแล้วว่าเรื่องนี้ถือเป็นการฉ้อโกง และเป็นคดีอาญา เราไม่หวังได้เงินคืนจึงไม่ตกลงใดๆ ทั้งสิ้น เพราะจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด โดยก่อนมาแจ้งความเคยมีการพูดคุยกันต่อหน้าแล้ว เราก็เข้าใจเขาอาจจะมีเกิดข้อผิดพลาด เพราะเขาบอกว่าจะเปิดบริษัทเพื่อเอาเงินมาคืน แต่เราไม่โอเค จึงได้ปรึกษาน้องสาวเพื่อมากองปราบ แสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีการยอมความใดๆ เนื่องจากก่อนหน้านี้คู่กรณีโพสต์ข้อความว่าได้มีการคุยประนอมหนี้ แต่จริงๆ เรายังไม่ได้คุยเลย เขาเอาไปเขียนเอง
สุดท้ายทั้งสองคนยังได้ฝากบอกประชาชนคนอื่นๆ ว่า คดีแบบนี้มีทุกวัน อยากให้ทุกคนระวัง แพงกว่ากันไม่เท่าไรแต่มันชัวร์กว่า อยากให้คิดไว้เลยว่าของถูกมันไม่มีอยู่ในโลก พวกเราโดนหลอกแล้วก็ไม่อยากให้คนอื่นโดนอีก เพราะสุดท้ายแล้วพอเข้ากระบวนการฟ้องร้องโอกาสที่จะได้เงินคืนค่อนข้างยาก ที่จะได้ก็คงแค่ความยุติธรรม