"ตู่" รับเจอ "เป๊ก" หลังบินเยี่ยม "น้องเพลง" เผยแล้วให้ไฟเขียวหรือยัง
มีโอกาสได้เจอ "เป๊ก เศรณี ชาญวีรกูล" ซึ่งเป็นหนุ่มคนสนิทตอนที่บินไปเยี่ยมลูกสาวอย่าง "เพลง ชนม์ทิดา อัศวเหม" ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ เลยไม่รู้ได้มีการพูดคุยและให้ไฟเขียวผ่านด่านตนหรือยัง สำหรับ "ตู่ นันทิดา แก้วบัวสาย" ล่าสุดเจ้าตัวก็ออกมาเผยให้ฟังว่า
อ่านข่าวต่อ :
“ตู่” เคลียร์ข่าว “น้องเพลง” คบซ้อน “เป๊ก”
บินไปตอนสงกรานต์ ซึ่งเป็นช่วงปีใหม่ไทย คิดถึงลูกอยู่แล้ว อยากได้กำลังใจจากลูกกลับมา เพราะเดี๋ยวเราจะทำงาน เล่นละครเวที แล้วรู้ว่าต้องใช้เวลาตรงนี้เยอะ และทาง "น้องเพลง" กับทางคุณยายก็สนิทกันมาก อยากให้ไปหาหลาน และตอนที่กำลังจะแพ็คกระเป๋ากลับเมืองไทยน้องเขาก็เอากะละมังที่ซื้อไว้ให้ซักเสื้อผ้าแบบเล็กๆ เอามาวาง และล้างเท้าให้เรากับคุณยาย ก็รู้สึกว่าการเลี้ยงเด็กคนหนึ่งยาก หรือการที่ทุ่มเททั้งหมดก็ไม่ได้บอกว่าเป็นคุณแม่ที่เพอร์เฟคท์ แต่ท้ายที่สุดลูกจะเป็นคนสอนด้วยซ้ำ ก็บอกว่าเขาโตมามีเราเป็นกระจก คงได้เห็นสิ่งที่ทำให้คุณยาย
พอเขาทำให้ก็รู้สึกชื่นใจ เราเลี้ยงแบบไม่ไทยจ๋า มีความทันสมัย ให้ตัดสินใจเอง แต่ความเป็นไทยยังไงต้องมีไว้ โดยสิ่งที่ได้รับอย่างตัวคุณยายก็บอกว่ามีความสุขมากตอนนั่งเครื่องบินกลับมา และ "น้องเพลง" เองเขาก็บอกว่ากลับไปคุณยายต้องแข็งแรง ดูแลตัวเองให้ดี รอหลานประสบความสำเร็จรับปริญญา รอพาไปเที่ยวอีก เหมือนตัวท่านมีความหวังจากที่เป็นโรคหัวใจ โรคเบาหวาน ตอนอยู่กทม.เดินได้นิดเดียวก็เหนื่อยแล้ว แต่ไปที่โน่นเดินเร็วมากแม้อากาศจะหนาว ทางน้องเขาก็มีเสื้อหนาๆ ใส่ให้
ทั้งนี้ตอนไปถึงอาทิตย์แรกเราไม่สบาย "น้องเพลง" ก็มาดูแลเป็นพยาบาลให้ พอหายป่วยได้ 2 วันก็พาไปช้อปปิ้ง เลยรู้สึกดี หายเลย เพราะเคยบอกลูกไว้ถ้าให้ทานยาแล้วพาไปช้อปปิ้งด้วย ซึ่งทริปนี้ก็ไปหาร้านอาหารอร่อยที่สวยๆ นอกเมือง และพาคุณยายไปดูละครเวที รวมทั้งพระราชวังวินด์เซอร์ ตอนไปควีนเอลิซาเบธประทับ และวันที่กลับมาได้ 1 อาทิตย์ท่านจะครบรอบ 93 พรรษาด้วย ซึ่งคุณยายก็อายุ 92 มีความสุขมาก และตัวท่านเองพอได้อยู่ต่างที่แล้วอยู่กับหลานก็ดี ทานอะไรได้เยอะ หลานก็ทั้งทำ ทั้งสั่ง และตักอาหารให้ทาน
ส่วนทริปที่ไปนี้ก็ได้เจอกับ "เป๊ก เศรณี" ด้วย มีเวลาอยู่ด้วยกัน เขาทำหน้าที่ได้น่ารักมาก คุยแล้วเขาจะสนิทกับคุณยายเร็ว เพราะเขาถูกเลี้ยงมาแบบใกล้ชิดกับคุณยาย และคุณพ่อคุณแม่พอเจอคุณยายเราจะดูแลดี ทำให้รู้สึกว่าเกิดจากการเลี้ยงดูด้วย ซึ่งเขาทั้งสองคนจะคอยถามตลอด และอย่างตัว "เป๊ก" เองจะทำหน้าที่เป็นตากล้องถ่ายรูปให้ตลอด ถามว่าผ่านด่านไฟเขียวไหม ก็อยู่ที่ตัว "น้องเพลง" เองมากกว่า สิ่งสำคัญถ้าลูกมีความสุขก็ไม่ต้องพูดอะไรเยอะ แต่มองที่ดวงตาก็รู้คนเป็นแม่หากลูกจะรักใครก็รักด้วยแม้เราจะอยู่ใกล้ รักลูกมาก แต่ไม่ได้เอาตัวเองเข้าไปยุ่งวุ่นวายเรื่องความรัก และเป็นสิ่งที่เราทำมาตลอด ฉะนั้นไฟเขียวหรือเปล่าก็ดูแล้ว "น้องเพลง" สบายใจ
การที่เขาไปเรียนที่โน่นก็หนัก เราสบายใจที่มี "เป๊ก เศรณี" ไปเรียนด้วย เหมือนได้ดูแลกัน ซึ่งเราก็เป็นห่วงตลอด แต่ "น้องเพลง" ก็จะคอยรายงานเวลาไปไหนมาไหน ทาง "เป๊ก เศรณี" เองจะรับ-ส่งตลอดเวลา น้องนั่งรถไฟฟ้าก็ขอบคุณที่ต่างคนต่างดูแล และตั้งใจเรียนทั้งคู่ ซึ่งการเรียนของ "น้องเพลง" บางทีเขาไม่เข้าใจ ทาง "เป๊ก" ก็จะช่วย เพราะเขาเรียนจบป.ตรีด้านธุรกิจมา แต่ทั้งคู่จะคอยซัพพอร์ตกันและกันแม้กระทั่งเวลาเครียด เพราะเขาเรียนค่อนข้างจะหนัก
สำหรับที่มีภาพไปเจอครอบครัวของฝ่ายชายด้วย ก็ไม่มีแพลน และรู้มาก่อน ตัว "เป๊ก เศรณี" เองก็ไม่ทราบว่าคุณพ่อเขาอย่าง "อนุทิน ชาญวีรกูล" จะไป เป็นความบังเอิญ และอีก 2-3 วันเราจะกลับ เป็นช่วงใกล้เทศกาลสงกรานต์ ก็มีคุณยายไปด้วยเลยได้มีโอกาสไปทานข้าวกัน ยันไม่ได้คุยเรื่องแต่งงาน ที่คุยเป็นเรื่องเรียนของลูกกันมากกว่า