"เนม ปราการ" เล่าเหตุการณ์วันที่เจ็บปวดที่สุด "น้องเรน" ป่วยเข้า ICU

"เนม ปราการ" เล่าเหตุการณ์วันที่เจ็บปวดที่สุด "น้องเรน" ป่วยเข้า ICU

              เกิดอาการเครียดหนักสำหรับคุณพ่อป้ายแดงอย่าง "เนม ปราการ ไรวา" หลังลูกสาว "น้องเรน" วัยเพียง 1 เดือน ป่วยจนต้องเข้า ICU ล่าสุดมีโอกาสเจอตัวหนุ่ม "เนม" เลยไม่พลาดที่จะอัพเดทสักหน่อย ซึ่งเจ้าตัวก็เผยว่า

อ่านข่าวต่อ :

อัพเดตอาการล่าสุด “น้องเรน” ลูกสาว “เนม ปราการ” หลังเข้า ICU

              ก็ต้องขอบคุณทุกๆ คนเลยนะครับ ทั้งพี่ๆ สื่อมวลชน รวมถึงกำลังใจจากครอบครัวและแฟนคลับหรือทุกคนเลยที่ทราบข่าวว่าน้องไม่สบาย ตอนนี้น้องหายดีแล้วนะครับ หายดี 100% แล้วด้วย ตอนนี้น้องกลับมาอยู่บ้านปกติแล้ว หลังจากที่ไปอยู่ที่โรงพยาบาลมาเป็นอาทิตย์ ก็เป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัวและน่าเศร้าที่สุด ผมจิตตกที่สุด แต่ว่าได้รับกำลังใจดีๆ จากทุกๆ คน ขอบคุณมากๆ เลยนะ

              สาเหตุเกิดจากก็ด้วยความที่ผมก็เป็นคุณพ่อมือใหม่ บางทีเราอาจจะสังเกตุอาการลูกเราไม่ดีพอ อย่างเช่นเวลาให้นมลูกจากคุณแม่เสร็จแล้ว การให้ลูกเรอหรือให้ลูกได้ย่อยนมเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ ผมก็ฝากเตือนคุณพ่อคุณแม่ทุกๆ ท่านนะครับ คือบางทีเราไม่ทราบเลยว่าอาการที่ลูกเราท้องอืดนี่มันเกิดขึ้นได้ง่ายมาก เพราะลูกเราจะยังรู้จักแค่ดื่มแค่กินอย่างเดียว เขาไม่รู้หรอกว่าเขาอิ่มเมื่อไหร่ เขาก็ดูดนมไปเรื่อยๆ จนเสร็จเราก็ต้องตั้งเขาขึ้นมาให้เขาได้ย่อย ให้เขาได้เรอ เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ เลย เพราะสาเหตุที่ลูกผมเกิดอาการไม่สบายมากๆ เกิดขึ้นจากการที่ท้องอืดมาก ท้องโตออกมา อืดจนกลายเป็นไส้อักเสบ จนลามไปถึงปอด ลมในท้องเยอะมาก วันแรกที่ลูกผมเข้าโรงพยาบาลผมสังเกตุว่าเขาครางแปลกๆ ก็พาไปโรงพยาบาลเลย พอหมอเอ็กซเรย์นี่ไม่เห็นอะไรเลยนอกจากลม ลมพุ่งออกมาเต็มท้องเลย หมอเลยคิดว่าอาจจะเป็นเพราะไส้แตกหรือมีแผลในลำไส้ หมอบอกว่าต้องผ่าตัดทันที คือผมไม่สามารถช่วยลูกได้ ลูกเราคงปวดท้องมาก ขนาดเราผู้ใหญ่ท้องอืดเรายังเจ็บมาก ลูกเรานี่ร้องแบบ พูดแล้วผมน้ำตาจะไหล มันเป็นภาพที่ทรมานที่สุดในชีวิตแล้วการที่เห็นลูกเราไม่สบาย แต่เราก็ต้องเข้มแข็ง เพราะว่าภรรยาผมก็เศร้าอยู่แล้ว ผมต้องออกไปร้องไห้กับคุณพ่อคุณแม่ผมข้างนอกห้อง แบบร้องโฮเลยนะ แล้วก็ปาดน้ำตากลับเข้ามาบอกภรรยาว่าไม่เป็นไร เพราะกำลังใจที่พ่อแม่ส่งให้ลูกมันสำคัญที่สุดในเวลาแบบนี้

              สงสารลูกขนาดไหน เพราะยังไม่ถึง 2 เดือนเกือบจะต้องผ่าตัดแล้ว จริงๆ แค่คำว่าผ่าตัดก็เป็นเรื่องที่น่ากลัวแล้วสำหรับผม เพราะผมเองยังไม่เคยโดนผ่าตัดเลย และเรื่องที่น่ากลัวที่สุดคือมันจะมีการให้ลูกดมยาสลบ ซึ่งมันไม่มีอะไรการันตี 100% ว่าการดมยา แม้กระทั่งผู้ใหญ่ว่าดมแล้วจะฟื้นขึ้นมา คือผมถึงขั้นตอนที่เซ็นเอกสารยินยอมว่าจะให้ผ่าตัด จะให้ดมยา เซ็นไปมือสั่นไป เป็นวันที่แย่ที่สุดจริงๆ คือตอนนั้นมันต้องทำเลย เพราะน้องก็คงรู้สึกเจ็บปวด คือการที่ไส้ทะลุมันก็เป็นปัญหาใหญ่สำหรับผู้ใหญ่หรือมนุษย์ทั่วไปอยู่แล้ว มันเป็นความเจ็บปวดที่อธิบายไม่ถูก มันไม่ใช่แค่ปวดท้อง มันคือปวดไปหมดเลย ร่างกายมันเจ็บปวดที่สุดแล้ว เชื่อว่าลูกผมคงต้องสตรองมากที่จะทนกับความเจ็บปวดเป็นวันๆ ได้ มันไม่ใช่ว่าแปบเดียว คือเขาปวดมานานแล้ว แต่เราไม่รู้ ก็ถึงขั้นที่เขาปวดมากๆ จนเราเริ่มสังเกตุอาการ

              ตอนนั้นโทษตัวเอง ก็คิดว่าเราไปทำอะไร หรือว่าเราไม่แข็งแรง หรือระหว่างที่คุณแม่ท้อง มาจากเราหรือเปล่า ก็ได้แต่ภาวนาว่าทำไมลูกเราตัวน้อยๆ เพิ่งเกิดมา แต่ต้องมาเจอความเจ็บปวดแบบนี้ด้วย ก็ไปไหว้พระ คือทำทุกอย่างที่พอจะทำให้เรารู้สึกดีขึ้นได้

              ทาง "ป้อ" ก็แย่เลย แต่ผมว่าผมแย่กว่า คุณป้อเขาก็ต้องสตรอง พอหมอเข้ามาบอกว่าต้องผ่าตัด เราก็น้ำตาร่วงเลยทั้งสองคน ตอนนั้นก็มีคุณพ่อคุณแม่ของทั้งสองฝ่ายอยู่ด้วย เขาก็ได้แต่ให้กำลังใจ ท่านก็สั่งสอนว่าพ่อแม่ต้องแข็งแรง เพราะลูกจะได้รับพลังดีๆ จากความแข็งแกร่งและแข็งแรงของเรา

              สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นไม่ต้องผ่าตัด คือโชคดีเลยที่มีคุณหมอท่านนึงที่เชี่ยวชาญเรื่องเอ็กซเรย์บอกว่าเอาไปเอ็กซเรย์อีกรอบนึงเอาให้ชัวร์ พลิกรูปอีกมุมนึงว่ามีการแตกหรือเปล่าไส้ทะลุหรือเปล่า สรุปไม่มีก็โล่งอกไป แต่ลูกผมติดเชื้อไปแล้วที่ลำไส้กับปอด ไข้ขึ้นสูงตลอดเวลา ต้องใช้ยารักษา ต้องเจาะเลือดให้น้ำเกลือ คือลูกผมต้องติดน้ำเกลือเป็นอาทิตย์ เห็นเขาร้องผมก็สงสาร ก็อยู่โรงพยาบาลให้ชัวร์หาย 100% เลยถึงได้กลับบ้าน

              ตอนนี้หายดีแล้วต้องระวังยังไงหรอ ช่วงนี้ก็ต้องระมัดระวังเรื่องเชื้อโรค เพราะเด็กอ่อนภูมิต้านทานของเขาน้อยอยู่แล้ว เราก็ต้องดูแลความสะอาดในห้อง แล้วก็ไม่ควรพาออกไปข้างนอก เพราะช่วงนี้อากาศเมืองไทยก็ไม่ใช่ว่าดีมาก ผมก็มีเครื่องกรองอากาศเลย คือต้องยอมลงทุน เพราะความสะอาดนี่สำคัญที่สุด อย่างลูกผมตอนเกิดก็มีคนมาเยี่ยมเต็มเลย แต่ตอนนี้ต้องระมัดระวังในการเข้าเยี่ยม ต้องมีขั้นตอนในการเยี่ยม ต้องล้างมือ ต้องเช็ดแอลกอฮอลล์ ต้องใส่หน้ากาก ยิ่งถ้าเป็นผู้ชายผมอาจจะไม่ให้จับด้วยซ้ำ

              ยอมรับเหตุการณ์ค่อนข้างหนักเนมต้องพยายามบอกตัวเองว่าต้องมองทุกอย่างในแง่ดี คุณพ่อคุณแม่ก็พยายามเรียกคุณหมอมาจากหลายๆ โรงพยาบาลที่เชี่ยวชาญด้านผ่าตัด ด้านศัลยกรรม หมอผ่าตัดเด็ก รู้จักใครคือโทรหาตอนนั้นเลย คือมันเป็นเรื่องใหม่และเป็นเรื่องน่าตกใจจริงๆ คุณหมอบางท่านอาจจะวินิจฉัยแบบนี้ แต่เราก็ต้องมีปรึกษาคนที่ 2 3 ท่านอื่นๆ ว่าเขาควรจะรักษายังไง แล้วคุณหมอเขาพูดเลยว่าการไม่สบายของลูกสาวผมมันเป็นกรณีศึกษาอันนึงเลยในเด็กเกิดใหม่ เพราะเขาก็ไม่เคยเจออะไรแบบนี้ มันอาจจะมาจากหลายสาเหตุ ซึ่งเราไม่สามารถไปเจาะจงได้ว่าคืออะไรครับ ก็ต้องระวังอย่างเดียว จากคนที่ไม่เคยเชื่อเรื่องขอพรไหว้พระ แต่ครั้งนี้ยอมทำทุกอย่างเลย ก็มีการสวดบทหลายๆ บทในห้องไอซียู เป็นภาพที่ผมจำได้เลย คุณพ่อ คุณแม่ ผู้ใหญ่หลายๆ ท่าน ถือบทสวดแล้วก็สวดตรงนั้นเลยให้ลูกผมที่นอนอยู่บนเตียง พูดไปก็จะร้องไห้ แต่ก็ดีใจมากๆ ที่ผ่านพ้นมาได้ด้วยดี มันเป็นบทเรียนจริงๆ นะว่าถ้าลูกเราเป็นอะไรขึ้นมามันทำลายจิตใจชีวิตเราจริงๆ อยากจะบอกเลยว่าใครที่ได้เป็นพ่อแม่จะรู้เลยว่าเรารักลูกมากๆ แค่ไหน