“ยิ่งยศ ปัญญา” แจงเหตุ ทำไมบท “กรงกรรม” ถึงโดนใจแฟนๆ
“ยิ่งยศ ปัญญา” เผยแก่ “ดาราเดลี่” ที่งานเสวนา ถอดบทเรียนวัยแสบสาแหรกขาด 2 และ กรงกรรม จัดโดย กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัย ที่คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่า บทที่ดีนั้นคือบทต้องอ่านแล้วสนุก ก่อนที่จะสนุกต้องผ่านกระบวนการความคิด ตกตะกอน จัดระเบียบให้เรียบร้อย วางแผนกลยุทธ์ที่จะเสนอบอกเล่ากับคนดู แต่ทุกสิ่งต้องอยู่บนโครงสร้างและทฤษฎีละคร ซึ่งเอาทฤษฎีมานำการทำงานก็ไม่ได้ ทิ้งทฤษฎีแล้วหลวมการเล่าเรื่องให้คนดูได้ชม แต่ละเรื่องไม่เหมือนกัน อยู่ที่ว่าเราจะใช้กลยุทธ์ไหน คนสิบคนก็เล่าเรื่อง “แม่นาค” ไม่เหมือนกัน ฉะนั้นแต่ละคนมีกลยุทธ์ในการเล่าเรื่อง “แม่นาค” แตกต่างกันไป อยู่ที่ว่ากลยุทธ์ไหนจะถูกใจคนดู
อ่านข่าวต่อ :
เช็กด่วน! เรตติ้งตอนจบ “กรงกรรม” แต่ไม่สามารถแซง “สารวัตรใหญ่” ได้
เขาเผยอีกว่า สำหรับบทละครโทรทัศน์เรื่อง “กรงกรรม” โดยตัวตนมีความน่าสนใจ พอละครเป็นงานบูรณาการ ไม่ใช่ว่าบทสนุกแล้วละครจะสนุกด้วย ถ้าผู้กำกับฯ มองไม่เห็นไดเรคชั่นเดียวกับคนเขียนบทก็ไม่ออกเป็นแบบนี้ก็ได้ จากการเริ่มต้นมองว่าทุกอย่างต้องเป็นละครสมจริง เรียลลิสติก จากตัวบทไปสู่การผลิต
เขาเล่าว่าบทละครใน “กรงกรรม” เราน่าจะชูความเป็นเฟมินิสต์ ก็มีส่วน แต่เราไม่ได้ชูจนคนดูจับได้ แต่ต้องทำอย่างแนบเนียน แต่ตัวเรื่องก็เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ละครตัวหลักคือ “แม่ย้อย” ตีความจากนิยาย ตัวหลัก “แม่ย้อย” รองลงมาคือ “เรณู” รองมา “พิไล” หมายความว่า 3 ตัวนี้ขับเคลื่อนความขัดแย้ง และนำพาตัวละคร เรื่อง ไปถึงจุดจบจนได้
สำหรับเรื่องใหม่ที่กำลังเขียนคือ ละคร “มิติที่สาม” การนำเสนอเรื่องสิ่งลี้ลับ ทำยังไงให้สิ่งที่ไม่คิดว่ามีอยู่จริงมันมีอยู่จริง ทำให้ไสยศาสตร์มันเป็นวิทยาศาสตร์ ทำให้คนดูตระหนักว่าบุญ-บาปคือพลังงานอย่างไหน ก่อบุญ บุญก็เป็นพลังงานอย่างหนึ่ง ก่อบาป บาปก็ตามติดเรามา
เขายังเผยถึง “บีบี เอกนรี” ลูกสาวของพงษ์พัฒน์ ที่ต้องมาสานต่องานของพ่อ ว่า กับ “บีบี” แน่นอนเป็นรุ่นใหม่ พ่อแม่วางฐานเอาไว้ให้ ไม่ใช่ “บีบี” มีไรเฟิลด้วย กอดคอกันไปในนามของแอค-อาร์ต ติดต่อคนดู นำเสนอให้คนดูต่อไป ทั้งสองคนต้องเรียนรู้ที่จะทำธุรกิจละครต่อไป