ส่องสไตล์การเลี้ยงลูก ของซิงเกิ้ลมัมสุดแกร่ง “นุ่น ดารัณ”
หายหน้าหายตาไปทุ่มเทเวลาให้ลูกรักทั้ง 2 อยู่พักใหญ่สำหรับนักแสดงรุ่นใหญ่เก๋าเกมส์อย่าง “นุ่น ดารัณ ฐิตะกวิน” มีโอกาสได้เจอ เลยต้องขอชวนคุณแม่คนเก่งมาอัพเดตกันสักหน่อย ว่าตอนนี้ชีวิตคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวคนนี้และลูกๆเป็นยังไงบ้าง ซึ่งพี่ “นุ่น” เปิดเผยว่า
อ่านข่าวต่อ :
“นุ่น” ผ่าตัดเต้านมที่เป็นมะเร็งออกแล้ว ยันสู้เต็มที่
ตามรอยแม่! “นุ่น” ส่งลูกสาว “น้องมุก” ประเดิม “สมเด็จพระนเรศวร
“สำหรับลูกก็เริ่มเป็นวัยรุ่นแล้วก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนวิธีการเลี้ยงดูกันใหม่ วิธีการที่จะใช้ในการทำความเข้าใจก็ต้องเปลี่ยนใหม่หมดเลย รู้สึกว่าจริงๆเป็นเพื่อน เป็นแม่ เป็นทุกอย่างของเค้าอยู่แล้ว แต่ว่าตอนนี้อาจจะต้องเพิ่มความเข้มข้นในการเป็นเพื่อนมากขึ้น ลดความเป็นแม่น้อยลง ซึ่งยากมากในความรู้สึกเรา เพราะเราเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวด้วยมันก็ต้องบาลานซ์ เหมือนกับว่าถ้าหากอยู่กันแบบคุณพ่อคุณแม่ก็จะแบ่งหน้าที่กันไปว่าคุณพ่อเฮี๊ยบ คุณแม่คอยยืดหยุ่น แต่ว่าสำหรับเรามันต้องมีทั้ง 2 อย่างอยู่ในคนๆเดียวกัน มันก็จะค่อนข้างยาก
.jpg "http://www.silkmine2017.com/index.php")
ถ้าถามถึงความยากง่ายในช่วงวัยแต่ละวัยมันก็จะมีความยากและความง่ายปะปนกันไป แต่มันก็คนละแบบ ตอนเด็กอาจจะยากตรงที่เราต้องคอยบอกทุกสิ่งทุกอย่างทุกฝีก้าว ต้องคอยดูแล ประคบประหงมต่างๆ เพราะว่าเค้ายังไม่สามารถที่จะดูแลตัวเองได้ ยังไม่รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด แต่พอริ่มโตขึ้นมาแล้ว เค้าเริ่มมีความเป็นตัวเองมากขึ้น แต่ถามว่าอะไรถูกอะไรผิดเค้าพอรู้ แต่ก็ยังไม่รู้ทั้งหมด เหมือนกับเด็กอยากจะโต แต่ไม่โตสักที ยิ่งโดยเฉพาะวัยรุ่น ในเรื่องของสภาวะอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เรื่องฮอร์โมนที่ปรับเปลี่ยน มันก็จะยิ่งมีการใช้อารมณ์ซึ่งกันและกันมากขึ้น มีทั้งอารมณ์รัก อารมณ์โกรธ อารมณ์โมโห อารมณ์น้อยใจ อารมณ์เสียใจ สำหรับวัยรุ่น ตอนเราโตมา เราก็รู้สึกเหมือนกันว่าทำไมตอนนั้นเรามีภาวะอารมณ์อะไรแบบนี้เยอะแยะไปหมดเลย บวกกับว่าเค้าต้องเดินออกไปในสังคมมากขึ้น เจอคนมากขึ้น เจอสถานการณ์ต่างๆมากขึ้น ต้องแก้ปัญหามากขึ้น มันก็เลยกลายเป็นว่า เราจะไปสั่งเค้าไม่ได้ เพราะเราไม่ได้พาเค้าเดินไปทุกฝีก้าว เราต้องแนะว่ามันเป็นแบบไหน มีแบบไหนบ้าง แล้วให้เลือก เราต้องฟังเค้ามากขึ้น แทนที่เราจะบอกว่าฟังแม่นะ มันก็ต้องบอกว่า ไหนพูดมาสิ แม่อยากฟัง
ตอนนี้ลูกสาวน้อง “มุก” ก็เข้ามาเล่นละครเต็มตัวแล้ว ก็ถือว่าเป็นอาชีพ นั่นหมายถึงว่า ชีวิตก็จะมีทั้งเรียนหนังสือ ซึ่งเพิ่งจะขึ้น ม.4 ก็อาจจะเข้ามาเร็ว แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเสียดายเวลา เพราะเราให้เค้าใช้ชีวิตกับเพื่อนเต็มที่แล้ว มีเพื่อนสนิท เรียนรู้เพื่อน มีปัญหา แก้ปัญหา มีการเลิกคบ คบใหม่ ก็เรียนรู้มาระยะนึงแล้ว นั่นหมายความว่าตอนนี้อาจจะต้องมีการเรียนรู้ควบคู่ในเรื่องวิชาชีพด้วย ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี ซึ่งเรายังมีเรี่ยวมีแรงที่จะได้ดูแลเค้า ไปรับไปส่ง ช่วยดูสิ่งแวดล้อมต่างๆ มันยังมีเวลาและแรงที่จะช่วยเค้าได้ทุกๆส่วน เราก็รู้สึกว่าน่าจะเป็นเวลาที่ดี แต่อาจจะค่อนข้างหนัก เพราะว่าเราอาจจะต้องคอยบอกว่า ลูกอาจจะไม่เหมือนเพื่อนนะ ในวันเสาร์ อาทิตย์ เพราะต้องไปถ่ายละคร หรือแม้กระทั่งเพื่อนปิดเทอม อยากจะไปเที่ยว บางทีเราอาจจะต้องถนอมตัวเอง อาจจะไปได้บ้าง แต่เราอาจจะอิสระเท่าเพื่อนทั้งหมดไม่ได้ เพราะเรามีหน้าที่ ลุกอาจจนอนดึก คุยโทรศัพท์กับเพื่อนไม่ได้ทุกวัน เพราะว่าลูกต้องถ่ายละครตอนเช้า มันจะยากตรงที่เราต้องบอกว่านี่ไม่ใช่การเสียอะไรไป แต่ต้องบอกว่าเราได้อะไรมามากกว่าง
เรื่องการคายตะขาบ แม่พร้อมคาย แต่ลูกไม่พร้อมรับ เพราะลูกคงไม่ได้อยากได้เทคนิคนั้น แต่ลูกอยากสร้างเทคนิคใหม่ และรสชาติใหม่ เพื่อให้มันสมยุคสมวัยสมสมันที่มันเปลี่ยนแปลง การแสดงทุกวันนี้ มันอาจจะใช้กลยุทธ์ต่างๆ คืออาจจะมีศาสตร์เล่มเดิม วิชาเหมือนเดิม แต่มันต้องแตกแขนงออกไปตามยุคสมัย เพราะฉะนั้นลูกจะให้ลูกเรียนรู้เต็มที่ อย่างน้อยที่เราสบายใจก็คือ ถ้าเค้ามีปัญหาอะไร กลับมาถาม เราก็ยังมีศาสตร์ทีคลาสสิคให้เค้าเหมือนเดิม รากของมันเราสามารถที่จะขุดขึ้นมาให้เค้าดูได้ว่ารากมันคืออะไร สุดท้ายก็อยากฝากละครเรื่องแรกของน้อง “มุก” ด้วย น่าจะได้ชมกันเร็วๆนี้ และลูกชายอย่างน้อง “ไม้” ที่ตอนนี้ก็มีงานเดินแบบ รวมถึงอยู่ในทีมโขนด้วย ฝากติดตามผลงานของทั้งคู่ด้วยค่ะ” และมาพบกับ “นุ่น ดารัณ” ในรายการ 40up ทางช่อง daradaily TV วันที่ 21 พฤษภาคม เวลา 13.00 - 13.30 น.
