“พี่ฉอด” เคลียร์ชัดสยบดราม่า “ณเดชน์-ญาญ่า” สยิวบนเวทีคอนเสิร์ต
หลังจากที่มีดราม่าคอนเสิร์ตของนักแสดงชื่อดังอย่าง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” และนางเอกสาว “ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์” ที่มีเนื้อหาเซ็กซี่วาบหวิว จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ถึงความไม่เหมาะสม ไม่เหมาะกับภาพลักษณ์ใสๆ ของพระเอก-นางเอก ล่าสุดได้เจอกับ “พี่ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา” ได้ออกมาเปิดใจถึงคอนเสิร์ตดังกล่าวว่า
อ่านข่าวต่อ :
"ญาญ่า" เขินถูกเรียกที่รักกลางคอนเสิร์ต เมินกระแสโชว์ไม่เหมาะ มองเป็นการแสดง
ถามถึงคอนเสิร์ตที่เป็นกระแสอยู่ตอนนี้ ก็คอนเสิร์ตณเดชน์มีกระแสรุนแรงทีเดียว ต้องบอกก่อนว่า หลายคนบอกว่ามีแต่กระแสด้านลบ แต่ต้องบอกว่ากระแสด้านบวกก็มี แล้วมีเยอะมาก พี่เป็นคนเช็กฟีดแบ็คทุกๆ งานที่เราทำอยู่แล้ว ครั้งนี้ก็ได้เช็กทั้งทางบวกและทางลบ ทางบวกก็จะเป็นแฟนคลับของน้องทั้งสองคน เขาก็มีความสุขในสิ่งที่เกิดขึ้น อีกอันหนึ่งก็จะเป็นคนที่ไม่ได้เป็นแฟนคลับเขาโดยตรง ก็มาบอกว่าจากนี้จะเป็นแฟนคลับน้องแล้ว เพราะปลื้มใจมากกับสิ่งที่เขาได้เห็นความสามารถของน้องทั้งสองคน ที่น่าแปลกใจก็คือ มีคนดูอายุหลากหลายมาก ขนาดอายุ 80 ก็มา ได้คุยกับเขาก็บอกว่าปลื้ม ส่วนกระแสในทางลบก็มีเยอะ ซึ่งก็มีคนที่จิตใจดีที่มาแสดงความคิดเห็น เราก็ยินดีและน้อมรับ แล้วก็จะมีประเภทที่เข้ามาด่าทอ แต่พี่ก็จะไม่รับฟีดแบ็คของการพูดจาหยาบคาย อันหนึ่งที่อยากจะอธิบายต่อจากที่น้องญาญ่าพูดวันนั้น ทั้งหมดมันคือโชว์ คนที่เป็นกระแสทางลบ คือไม่ได้เป็นคนไปดูโชว์ แต่เห็นจากภาพที่แคปมา อาจจะเป็นภาพนิ่งหรือวิดีโอ เขาจะถ่ายแต่ตัวน้อง แต่จริงๆ ซีนนี้ใหญ่มาก คนที่อยู่ในซีนนี้ยังร้องไห้อยู่เลย ว่าไม่มีใครสนใจเลย และยังเป็นซีนที่ยากมาก เอาจริงๆ นะ คนที่แสดงหรือคนที่ดู ไม่มีใครคิดอกุศลจิตได้หรอกค่ะ
ได้คุยกับทั้งสองคน เราก็ไปทานข้าวกัน พี่ว่าน้อง 2 คนเขาแข็งแรงนะคะ หมายถึงความตั้งใจในการทำงาน เราไม่มีความตั้งใจในแง่ไม่ดีเลย ไม่ว่าจะเป็นซีนนี้หรือตลอดทั้งโชว์ก็ตาม น้องสองคนและพี่มั่นใจในความตั้งใจดีในการทำงาน
ตอนคิดโชว์เตรียมใจรับฟีดแบคไหม เราไม่ได้จะโฟกัสตรงนั้น เวลาคิดงานคือคิดทั้งโชว์ ไม่ได้คิดว่าตรงไหนคืออะไร ทั้งหมดคือความตั้งใจในการทำงานให้ทุกคนมีความสุขที่สุด แล้วพอมีกระแสลบทำให้เรานอยด์ไหม เราน้อมรับในฟีดแบ็คทุกอย่าง แต่มันมี 2 กระแส ไม่ใช่ลบทั้งหมด กระแสบวกก็มีมหาศาล ทุกคนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นของตัวเอง ก็ขอบคุณความคิดเห็นในหลายรูปแบบ เราเชื่อว่ามันคือความปรารถนาดีที่มีต่อตัวน้องและตัวพี่ด้วย ไม่นอยด์ เพราะเรารู้ว่าเราทำอะไรอยู่ จากนี้จะกล้าคิดโชว์แบบนี้อีกไหม มันก็ต้องคิด แต่ไม่ใช่แบบนี้ทุกโชว์ สมมติคอนเสิร์ต “พี่เจ เจตริน” พี่ก็คงไม่ได้คิดซีนแบบนี้ ขึ้นกับตัวศิลปินว่าเหมาะจะโชว์แบบไหน
ส่วนตัวน้องไม่ได้มาปรึกษาเรื่องห่วงภาพลักษณ์ พี่เองต่างหากที่เป็นห่วง แต่น้องสองคนบอกไม่เป็นไรเข้าใจทุกอย่าง น้องพูดมาคำหนึ่งว่า ถ้าไม่อยากจะทำเอง ก็ไม่มีใครบังคับได้ น้องมีความตั้งใจดีในทุกเรื่อง จากที่ทำงานด้วยกันสั้นๆ ทำให้รู้ว่าความดีของพวกเขา จึงไม่มีใครทำอะไรเขาได้ คือถ้าเราไม่มีเจตนาไม่ดี เราก็จะไม่รู้สึกอะไร
หลายคนบอกแฟนคลับก็เป็นเยาวชน ในแง่ที่เราจะปิดกั้นอะไรให้เด็กดู เอาง่ายๆ อย่างหนังอเวนเจอร์ส เราไม่กลัวเหรอว่าเด็กดูแล้วจะออกมาตีลังกา ฆ่าฟันกัน หรือแม้กระทั่งเปิดทีวีดูอยู่ตอนนี้ ข่าวมีทั้งฆ่ากัน ข่มขืน ทุกวันนี้เราอยู่ในโลกของความเป็นจริง เราควรทำยังไงก็ได้ให้เขาเรียนรู้และเติบโต ดีกว่ามานั่งปิดตา แล้วพี่เชื่อว่าซีนในคอนเสิร์ตแค่นี้ไม่ได้ทำให้เกิดอะไรขึ้นอย่างที่ว่ากัน