"อั๋น ภูวนาท" เล่าวินาทีเกือบอุ้ม "น้องพอล" หกล้ม แย้มแพลนมีลูกคนที่ 2
ได้เจอเหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดคิดหลังจากที่ได้อุ้มลูกชายสุดเลิฟอย่าง "น้องพอล" วิ่งที่เมืองนอกแต่กลับดันเกือบจะพาหกล้มไปซะงั้น สำหรับ "อั๋น ภูวนาท คุนผลิน" ล่าสุดเจ้าตัวก็ได้ออกมาเผยเรื่องนี้พร้อมแย้มแพลนการมีลูกคนที่ 2 ให้ฟังว่า
ลูกชายอย่าง "น้องพอล" ตอนนี้ก็ 1 ขวบ 1 เดือน ก็ปกติเหมือนเด็กทั่วไปไม่เจ็บไม่ป่วยรู้สึกแฮปปี้ ก็มีคุยกับเพื่อนๆ ที่มีลูกบ้าง อย่างล่าสุดเพิ่งคุยกับ “หมอโอ๊ค สมิทธิ์ อารยะสกุล" ว่าลูกพูดได้ตั้งแต่ 7 เดือนตนมีแอบเศร้าใจ เพราะลูก 1 ขวบกว่าแล้วแต่ยังไม่พูด เขาก็บอกว่าไม่เป็นไรเด็กผู้ชายจะพูดช้ากว่าเด็กผู้หญิง โดยทาง "น้องพอล" จะเข้ากับคนง่ายก็ดีที่ผ่านมามีทฤษฎีเยอะมาก เช่น ไม่ต้องพาไปไหนให้อยู่บ้านจะได้ไม่ป่วย คิดว่าที่บ้านมีคนเยอะมีบริเวณให้เขาเล่นแล้ว แต่พอพาไปทำให้รู้ว่าเขากลัวอะไร รู้ว่าเขาเก่งแต่ในบ้าน และกลัวบางเรื่องจะร้องไห้ ในเรื่องที่คิดว่าไม่น่าจะร้องหรือกล้าหาญเวลาอยู่กับตน แต่พอออกไปนอกบ้านกลับไม่กล้าเลย ทำให้ต้องมาคิดว่าต้องปรับต้องพาเขาออกไป และส่วนตัวไม่เคยอ่านตำราการเลี้ยงลูกมีแต่ทางคุณแม่เขาที่จะอ่าน และแม่เขาจะอยู่กับลูกมากกว่า วันนี้เป็นวันแรกที่ตนขอมา และ"น้องพอล" ไม่ได้นอนกับแม่เขาด้วย เป็นวันแรกตั้งแต่เกิดมา รับตอนนี้ทางคุณย่าก็จะเห่อหนักมาก บางครอบครัวแม่กับย่าหรือยายจะทะเลาะกันได้แต่บ้านตนไม่มีแนวโน้มแบบนั้น เวลาบอกว่าห้ามโน่นห้ามนี่ให้ลูกตนคุณย่าจะทรมานใจมาก เขาต้องเดินออกไปจะทนหลานร้องไห้ไม่ได้เลย และยอมรับว่ารักหลานมากกว่าลูก
ส่วนที่พา "น้องพอล" ไปเมืองนอกแล้วเกือบหกล้ม ก็ไม่ได้ล้มแต่มีคนเตือนแล้วว่าอย่าอุ้มแล้ววิ่ง พอดีเขาชอบวิ่งตนเป็นคนเดียวที่อุ้มแล้วพาวิ่งได้ ก็เลยต้องเล่นแรงเร็วอยู่คนเดียว ก็มั่นใจมากพอดีสะดุดตัวเองก็กำลังจะคว่ำแล้วมีทางพี่เลี้ยงมาดึงน้องออกไปจากมือได้ทันก็รอดจากเหตุการณ์ครั้งนั้น คิดว่าคนเราเคยเดินสะดุดขาหรือตกบันไดแต่พอเกิดขึ้นตอนที่ลูกอยู่ในมือด้วยรู้สึกตกใจ ซึ่งตอนนั้นไม่มีใครสนใจตนเลยว่าขาพลิกบาดเจ็บแค่ไหน ทั้งหมดไปที่หลานหมด และพอผ่านไปครึ่งชั่วโมงค่อยมาถาม โดยทางคุณย่าร้องกรี๊ดมาก ตอนนี้การเลี้ยง "น้องพอล" จะมีพี่เลี้ยงคอยเลี้ยงดูด้วย ซึ่งมองว่าใครที่เป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวแม่เลี้ยงเดี่ยวควรให้กำลังใจเขาเป็นอย่างมาก เพราะการเลี้ยงเด็กเป็นงานยาก และเป็นอะไรที่มีคุณค่าที่สุด ตนก็ทุ่มเทเวลาให้ลูก เพราะไม่มีเรียนแล้วทำงานอย่างเดียวกับเลี้ยงลูก สำหรับแพลนมีคนที่ 2 ก็พยายามอยู่แบบไม่กดดัน ก็มีปรึกษาคุณหมอ ก็ใช้วิธีธรรมชาติแต่คุณหมอจะช่วยแนะนำทำให้ง่ายขึ้นว่าวันไหนเมื่อไรกี่โมง ไม่ได้ใช้วิทยาศาสตร์อย่างอื่นช่วย เช่น ฝังตัวอ่อนตอนนี้อายุเยอะแล้วก็ใช้วิธีธรรมชาติ หากภายในปีนี้ไม่มีก็คงจะไม่มีแล้ว เพราะรู้สึกแก่และเหนื่อยไม่น่าจะไหวแล้ว