"นนท์" ปัดอัพค่าตัวงานพรีเซนเตอร์ พร้อมแจงเหตุยังใส่แว่นแม้ทำเลสิกแล้ว
ยังคงรับเรตเท่าเดิม ไม่ได้มีการอัพขึ้นตามที่ถูกเมาท์อะไรเลยกับค่าตัวงานพรีเซนเตอร์ที่มีให้เห็นกันหลายผลิตภัณฑ์อยู่ในตอนนี้ สำหรับศิลปินมากความสามารถ อย่าง "นนท์ ธนนท์ จำเริญ" ล่าสุดเจ้าตัวก็ออกมาเผยเรื่องนี้ พร้อมแจงเหตุยังใส่แว่นอยู่แม้จะไปทำเลสิกมาแล้วก็ตาม ให้ฟังด้วยว่า
อ่านข่าวต่อ :
นนท์ ธนนท์" รวมพลแฟนคลับจัดงานบุญฉลอง 23 ปี
ตอนนี้งานพรีเซนเตอร์ก็ไม่ได้เยอะมาก มีที่ถ่ายทำกันไปก็จะเป็นแอปพลิเคชั่นมือถือ และผลิตภัณฑ์ไส้กรอก ที่ตอนนี้กำลังมีกิจกรรมที่กำลังจะเดินหน้าทำกันอยู่ด้วย ก็ไม่ได้จะรับอะไรมากขนาดนั้น ส่วนตัวขอขอบคุณผู้ใหญ่ที่ไว้ใจ และต้องขอขอบคุณแฟนคลับด้วยที่ไม่ว่าจะไปร่วมงานกับแบรนด์ไหน หรือทำงานกับคนไหน ก็จะได้รับฟีดแบ็คที่ดีกลับมาตลอด โดยพรีเซนเตอร์ที่รับก็จะใช้เองทั้งหมดด้วย
ส่วนเรื่องอัพค่าตัวก็ไม่มีเลย และไม่รู้ด้วยซ้ำ หลักๆ ก็จะเป็นเรื่องของทางค่าย ผู้จัดการฯ และคุณแม่ ที่คุยกัน เราจะมีหน้าที่แค่ไปถึงงานแล้วทำออกมาให้ดีที่สุด ซึ่งตอนนี้จะมีคนคอยช่วยทุกอย่าง ทั้งคุณแม่และผู้จัดการฯ เลยรู้สึกว่าไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว อีกอย่าง ก็ไว้ใจคนที่ทำงานด้วย และทำแบบให้ใจเขาไป ถามว่าพอจะรู้ตัวเลขเรตที่รับไหม จริงๆ ก็รู้บ้าง อย่างเวลาไปเล่นตามงาน ซึ่งตอนนี้ก็มีปัญหาเรื่องสุขภาพเสียง แต่ไม่ได้ป่วยอะไรมากมาย ด้วยอายุที่เพิ่มขึ้นเสียงก็ใช้มากขึ้น เจ้าของงานเขาจ้างเราร้อยเดียวแต่จะเล่นเกินร้อยตลอด พอไปหาคุณหมอที่โรงพยาบาลก็บ่นว่าทำไมต้องดื้ออีกแล้ว ก็อาจจะลดลง หรือมองว่าถ้าเกิดลงแรงเยอะเกินไปแล้วจะคุ้มไหม
ทั้งนี้เมื่อวานผมไปทำกิจกรรม CSR มา โดยไปลอกคลองแถวลาดพร้าว ก็มีชวนแฟนคลับไปช่วยกันทำด้วย และพวกเขาก็ตั้งใจทำมาก ตากแดดกันทุกคน และยังตามมาให้กำลังใจที่งานอีเว้นท์ต่ออีก ก็ต้องขอขอบคุณมาก ซึ่งที่ไปทำกิจกรรมนี้เพราะเราเป็นคนที่คิดว่าจะทำอะไรแล้วต้องทำเลย ต้องทำไปก่อน ทำให้เห็น และต้องขอขอบคุณแฟนคลับอีกครั้ง เพราะถือเป็นครั้งแรกเลยที่ไปแล้วไม่มีงานจัดคอนเสิร์ตให้ ยิ่งรู้สึกประทับใจมากเลย อยากจะจัดคอนเสิร์ตย้อนหลังให้เลย
สำหรับเรื่องที่ไปทำเลสิกมาก็จะถอดแว่นบ่อย อย่างบางงานที่ต้องใส่อยู่เพราะว่าชิน และมีปัญหาเกี่ยวกับทางกรรมพันธุ์ด้วย คือตาจะแพ้แสง อย่างวันหนึ่งออกงาน 3-4 งานก็มีอาการตาล้าอยู่บ้าง แต่กับการทำเลสิกถือว่าเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง
ด้านผลงานเพลงก็ปล่อยไปแล้ว ทำอยู่ตลอดเพราะอยู่กับสิ่งนี้ อย่างตอนนี้ก็มีเพลงประกอบละครที่ปล่อยให้ฟังกันไปแล้ว 2 เรื่อง เหลืออีก 1 เรื่อง เป็นละครของ "พี่หน่อง อรุโณชา ภาณุพันธุ์" ก็ดีใจที่ได้รับความเชื่อใจจากพี่เขา แต่รู้สึกตื่นเต้นมาก และกดดันด้วย เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ "พี่ณเดชน์ คูกิมิยะ" เล่นคู่กับ "พี่แมท ภีรนีย์ คงไทย" เขาก็มีทีมทำเพลงอยู่ 3 ทีม ซึ่ง 2 ทีมก็เป็นทีมที่มาจากประเทศเกาหลี ก็กลายเป็นว่าเป็นเราคนเดียวที่ร้อง 1 เพลงกับทีมคนไทยเลยค่อนข้างจะกดดัน ยังไงต้องขอขอบคุณคนฟังด้วย อย่างบางคนอาจจะไม่รู้หรอกว่าเป็นเพลงอะไร แต่พอเปิดมาแล้วได้ยินเสียงเราจะจำได้ เขาก็ฟังต่อ มองว่าการฟังเพลงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะว่าในยุคปัจจุบันสามารถกดเลื่อนผ่านไปได้ตลอด ไม่เหมือนยุคเทปอย่างเมื่อก่อน ฉะนั้นการที่จะทำให้คนฟังเชื่อถือในเสียงได้มันเป็นเรื่องที่ยากมาก