ฟังความรู้สึก “คอปเตอร์” หลังไม่ได้ไปต่อใน “เดือนเกี้ยวเดือน 2”
เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีส์สายวายที่แจ้งเกิดนักแสดงมาประดับวงการบันเทิงสำหรับ “เดือนเกี้ยวเดือน 2Moons The Series” ล่าสุดกลับมาเอาใจแฟนๆซีรีส์สายวายอีกครั้งกับ “เดือนเกี้ยวเดือน 2” แต่งานนี้กลับไม่มีนักแสดงนำในภาคแรกจนหลายคนเมาท์ว่าอาจจะมีดราม่ากันเกิดขึ้นรึเปล่า ล่าสุดได้เจอหนึ่งในนักแสดงนำของภาพแรกอย่าง “คอปเตอร์ ภานุวัฒน์ เกิดทองทวี” หรือ “หมอคิท” ก็ได้ออกมาเปิดใจหลังไปไม่ได้ไปต่อในภาคที่สองว่า
อ่านข่าวต่อ:
"คอปเตอร์" แฮปปี้ใกล้จบป.ตรี แย้มมีแพลนบินเรียนต่อด้านศิลปะที่อเมริกา
สำหรับ “เดือนเกี้ยวเดือน 2” ก็ได้ดูผ่านๆ เราไม่ได้ว่าในเรื่องของน้องๆนักแสดงอยู่แล้ว เพราะเรารู้แล้วว่า เราก็เป็นคนนึงที่หาโอกาสเพื่อมาทำงานในวงการบันเทิง น้องๆก็ไม่ผิดอยู่แล้ว ก็ถือว่าน้องๆทำเต็มที่ในทางที่น้องเลือกแล้ว แต่อย่างที่เรารู้กันถ้าให้พูดตามตรง เอาตามความรู้สึกก็โกรธ ซึ่งเรารู้อยู่แล้ว สิ่งที่เขาพูดมันไม่ใช่ เอาเป็นว่าให้ทุกคนไตร่ตรองเอาเองว่าอะไรเป็นอะไร
ส่วนกระแสก็ขอชมน้องๆ แต่ละคนก็เล่นได้ดี บางอย่างเรารู้สึกชื่นชมเลยว่าบางอย่างดีกว่าตอนที่เราได้ทำอีกแต่ก้อย่างที่บอกเราไม่ได้มีปัญหากับน้องๆ กระแสแฟนคลับโจมตีมีไหมก็ยังไม่ได้เห็นกับตาก็ไม่รู้ว่ามีหรือเปล่า ถ้ามีก็ถือว่าปล่อยผ่าน เพราะแต่ละคนมีความคิดเป็นของตัวเอง อยากคิดยังไงก็เป็นสิทธิ์ของทุกคนที่จะแสดงความคิดเห็นไอยู่แล้ว ถ้าไม่ชอบก็ต้องขออภัยจริงๆ ถ้าชื่นชอบก็ต้องขอบคุณ แต่ก็เป็นกำลังใจให้น้องๆนักแสดงเซ็ตใหม่ด้วย
เชื่อว่าทุกๆ คนคงจะเสียใจและเสียความรู้สึกไม่แพ้กันหลังจากที่ประกาศว่าไม่ให้พวกเราเล่น จริงๆเขาไม่ได้บอกเลก่าอะไรด้วยซ้ำ ท้ายที่สุดแล้วเราก็มารับรู้ว่าพวกเราไม่ไดเล่นทั้งที่จริงแล้ว เราเคยบอกไปนานแล้วว่า เราพร้อมเล่นเสมอขอแค่พี่ๆ ติดต่อมา ก็ไม้เขาใจกับสิ่งที่เขาพูดว่า จำเป็นต้องเปลี่ยนนักแสดงครับ แต่ก็ไม่เป็นไรเราถือว่าเรา Move on แล้วครับ แล้วก็ตอนนี้มีซีรีส์เรื่องให่มแล้ว ก็ให้แฟนๆติดตามได้ แล้วกมีผลงานอีกเยอะแยะมากมายในวงการบันเทิงที่พวกเรา SBFIVE ได้ทำกันเอง ยังไงก็ขอฝากทุกคนติดตามและเป็นกำลังใจให้พวกเราด้วย
ส่วนโปรเจ็คท์รับปริญญาเราก็อยากทำอะไรที่มันสามารถสร้างผลประโยชน์ต่อได้ ไม่ใช่แค่ว่าผมได้ดอกไม้มาเยอะ ซึ่งมันก็เป็นความดีใจแค่วันนั้น ท้ายสุดแล้วดอกไม้มันก็แห้งเหี่ยว ย่อยสลายไปตามกาลเวลา ทีนี่ก็เลยคิดไว้ว่าจะทำโปรเจ็กท์แบบพี่ “ธนพล จารุจิตรานนท์” ที่เขาทำกล่องรับบริจาคเข้ามูลนิธิต่างๆ หรือไปสร้างผลประโยชน์ให้กับสังคมต่อครับ ซึ่งเราจะดีใจมากถ้าเราเอาเงินที่ทุกคนสนับสนุนตรงนั้นมาไปสร้างประโยชน์อย่างอื่นต่อได้ครับส่วนรูปแบบของงานตอนนี้ก็ยังไม่ได้คิดแต่คิดว่าน่าจะคิดแบบง่ายๆให้ทุกคนสามารถทำมันได้ง่ายๆ แต่ตอนนี้มัวแต่ยุ่งกับงานทัวร์คอนเสิร์ตต่างๆ เลยยังไม่ได้เช่าชุดครุยเลย เรื่องถ่ายรูปกับชุดครุยก็ต้องหาเวลาไปถ่ายอีกที อาจจะชวนแฟนคลับไปถ่ายรูปกับชุดครุยผมก็ได้ แต่ต้องดูอีกทีครับ