“ขันเงิน” ลั่นสายตามีปัญหา วอนอย่ามีดราม่า หลัง “มิกซ์” ลูก “หม่ำ” แร็ปถามทำไมไม่รับไหว้
เกิดดราม่าขึ้นจนได้เมื่อ “น้องมิกซ์” ลูกชายตลกชื่อดังอย่าง “หม่ำ จ๊กมก” ได้ร้องเพลงที่ตัวเองแต่งแซว โดยท่อนหนึ่งระบุว่า “ผมยกมือไหว้ไป 3 ที แต่พี่ขันกลับไม่รับไหว้ผม” จนทำให้แฟนๆ อดสงสัยไม่ได้ว่าทั้งคู่มีปัญหากันหรือเปล่า ล่าสุดมีโอกาสเจอตัว “ขันเงิน เนื้อนวล” หรือ “ขันเงิน ไทเทเนี่ยม” เจ้าตัวก็ชี้แจงว่า
อ่านข่าวต่อ :
“The Rapper” กระแสแรง “ขันเงิน” ปลื้มแฟนคลับเพิ่มขึ้น
สำหรับดราม่าที่เกิดขึ้นอันนี้ผมขำมาก เพราะจริงๆ แล้วผมเป็นคนง่ายมากๆ เจอใครผมก็สนุกสนานเฮฮา ข้อเสียของผมคือสายตาไม่ค่อยดี ถ้าใครอยู่ไกลๆ ผมจะไม่ค่อยกล้าทัก ผมทักผิดบ่อย มันดูเสร่อ ผมก็เลยพยายามนิ่งๆ ไว้ ตอนกลางคืนผมจะมองไม่เห็นเท่าไร จริงๆ ผมไม่รู้ว่าน้องมาไหว้ผม ถ้าผมรู้ตัวผมก็ต้องตอบกลับแล้ว เพราะลูกพี่หม่ำยังไงผมก็ต้องคุย แต่ผมไม่รู้ตัว ถ้าเกิดน้องบอกเคยมาทักทายผม 3 ทีผมคิดว่าอาจจะเป็นความผิดของผมที่มองไม่เห็น แล้วไม่รู้ว่าอยู่ในจุดไหน ถ้าอยู่ในคอนเสิร์ตไม่ได้มีสมาธิที่จะคุย ไม่มีอะไรครับ จริงๆ เราอยู่ในสถานะรุ่นพี่ เราต้องเป็นที่เคารพที่ถูกต้อง
ไม่ได้บาดหมางใจกัน ผมไม่ได้คิดอะไรมากอยู่แล้ว กับน้องก็ไม่ได้คุยเลยเพราะไม่ได้เจอกัน ผมไม่มีอะไร ฝากบอกไปด้วยว่าไม่มีอะไรเลย ไม่รู้ตัวจริงๆ เขารู้สึกไปอย่างนี้ผมก็แค่ขอโทษที่มองไม่เห็น วันหลังมาทักจับตัวเลยนะ แค่นั้นเลย เดี๋ยวเราคุยกัน ไม่มีอะไรอยู่แล้ว ยอมรับเห็นข่าวเพราะมีแฟนๆ เข้ามาทัก ทราบตอนที่เป็นข่าวอยู่แล้ว คือตอนแรกคนส่งเพลงแร็ปมาให้ฟัง ผมก็เลยขำ เพราะความผิดนี้เกิดขึ้นกับผมบ่อย บางทีมันมองไม่เห็นแล้วไม่กล้าทัก ผมใส่แว่นดำตลอดเวลา
ส่วนที่มีบางคนมอง “น้องมิกซ์” ปีนเกลียวและมาเกาะกระแสเรา อันนี้มันเป็นความรู้สึกของคน ถ้าเขายกมือไหว้ใครสักคน เขามองไม่เห็นผม 3 ครั้ง ผมก็มีสิทธิ์จะโกรธ ผมก็ให้อภัยน้อง ถือว่าคราวหน้าคุยกันแล้วกัน ไม่ต้องทำเพลงด่าพี่ก็ได้ เดี๋ยวคราวหน้าคุยกัน ไม่มีอะไรอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้เคยเจอน้องในรายการ เราก็ทักทายทุกคน แบบเราทำรายการเดอะแร็ปเปอร์ เราสนับสนุนคนรุ่นใหม่ แล้วเราจะไม่ทักคนรุ่นใหม่ได้ไง เราต้องทักทุกคน เราต้องให้ความสนใจทุกคน เพราะทุกคนมีความหมายกับสิ่งที่เราทำ มันคือวัฒนธรรมที่เราสร้างมาตั้งแต่เด็ก เราอยากให้ทุกคนมาอยู่ในจุดนี้ แล้วเราจะมาแบ่งพรรคแบ่งพวก เราถึงมารวมกันใหม่หมด มารวมใหม่เพื่อวัฒนธรรมของเรา เพราะฉะนั้นมันไม่มีการที่ไม่ชอบใครในหัว ไม่มีในหัวผมอยู่แล้ว
เพลงแร็ปที่น้องเขาแต่งผมรู้สึกเฉยๆ เพราะเราต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าเป็นเราเราจะรู้สึกยังไง แต่เขาเป็นแร็ปเปอร์เขาก็ระบายในจุดที่เขาทำได้ ผมเข้าใจ ไม่ว่าอะไร เดี๋ยวเจอกันครั้งหน้า เราไม่ได้ถือเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ถามว่าจะเเต่งเพลงกลับไหม ผมก็มีเพลงใหม่ๆ แต่ไม่ได้ตอบกลับน้องเขาหรอก เพราะเรายังมีโหมด เราเป็นรุ่นพี่จะนิ่งมากไม่ได้ แต่ไม่ได้ตอบน้องเขาหรอก มีเพลงกำลังจะออกมา ใกล้เคียง แต่ไม่อยากทะเลาะกับใคร แต่ก็มีโหมดที่เป็นแร็ปเปอร์ มันจะเรียบร้อยอย่างเดียวไม่ได้ มีโหมดคุยโน่นนี่อะไรหน่อย ผมทำกับ “โต้ง” เพลง “เอาที่สบายใจ” มันก็เลยไปเข้ากับเรื่องราวพอดี ผมรู้ว่าถ้าผมปล่อยออกไปคนต้องคิดว่าผมไปตอบโต้ แต่มันทำเพลงไว้ก่อนแล้ว พอดีกัน
ถามว่าสายตาผมหนักแค่ไหนเหรอ มันเอียงมันเบลอ อย่างตอนนี้ผมอ่านตัวหนังสือไม่ได้ ผมใส่แว่นตอนถ่ายรายการ เพราะไม่งั้นจะไม่เห็นน้องๆ บางทีไม่ใส่ก็ไม่เห็น จะไปทำเลสิกก็ไม่ได้เพราะตาแห้งมาก คือตอนนี้เป็นปัญหาของชีวิต อยากสายตาดีมาก ผมใส่คอนแทคก็ไม่ได้ ตามันแห้ง ถ้าขับรถต้องใส่แว่นไม่งั้นมองไม่เห็น