“ซาร่า นลิน” เผยสาเหตุ ยังไม่พร้อมจูงมือ “เต้ย” แต่งงาน
ถูกฝ่ายชายอย่าง “เต้ย ธโนทัย เอื้ออมรรัตน์” ทำเซอร์ไพรส์คุกเข่าขอแต่งงานกลางเวทีคอนเสิร์ตมาพักใหญ่ แต่ดูเหมือนยังไม่มีวี่แววที่จะจูงมือแต่งงานกันสักที สำหรับ “ซาร่า นลิน โฮเลอร์” ล่าสุดเจ้าตัวก็ออกมาเผยสาเหตุให้ฟังว่า
อ่านข่าวต่อ:
“ซาร่า” เตรียมสละโสด แฟนหนุ่ม “เต้ย” ขอแต่งงาน
ตอนนี้คือเอาจริงๆ ก็มีการคุยกัน ยังรู้สึกว่าอยากจะมีความพร้อมให้มากกว่านี้ก่อน เพราะตอนนี้ติดเรื่องของการสร้างบ้านให้คุณแม่อยู่ น่าจะเสร็จคร่าวๆ ประมาณปีหน้า ตอนนี้รอให้ทุกอย่างมันเสร็จเรียบร้อยก่อน ที่ใครหลายคนแซวก็เป็นเรื่องที่ต้องพร้อม ตอนนี้ยังไม่พร้อมทั้งคู่ คบกันมาตั้งแต่เด็กเลย เหมือนยังเจอกันในรูปแบบของความเป็นเด็กอยู่ แล้วพอจะก้าวไปอีกระดับหนึ่งเราก็ต้องคุยกันเยอะ หลายอย่าง ทั้งคุณพ่อคุณแม่ด้วย ก็เลยตัดสินใจว่าตอนนี้ทั้งคู่ก็มีโปรเจ็คท์ทำด้วยกันอยู่ พอมันประสบความสำเร็จแล้วเรื่องแต่งงานเดี๋ยวมาคุยกันอีกที ซึ่งก็ยังไม่ได้เจอปัญหา เรากำลังอยู่ในช่วงการทำงานหลายอย่าง และรู้สึกว่าต้องรับผิดชอบเยอะ ทั้งครอบครัว ต้องดูแลคุณพ่อคุณแม่ รวมถึงบ้านที่กำลังจะสร้างด้วย เลยอยากให้ทุกอย่างพร้อมก่อน ซึ่งความพร้อมเรื่องบ้านด้วย และความมั่นคงของตัวเองด้วย ณ ตอนนี้ยังทำงานและรับงานเรื่อยๆ แต่ยังไม่มีอะไรที่เป็นของตัวเองเลย ตัดสินใจว่าขอให้เราได้ทำในสิ่งที่อยากทำก่อน
ส่วนที่เพื่อนๆ แต่งงานกันไปหลายคู่แล้ว ก็ใช่ ส่วนตัวไม่ได้ซีเรียสตรงนั้นเลย การที่มีชีวิตอยู่มันเป็นเรื่องง่าย ฉะนั้นการจะอยู่ยังไงให้มันมีความสุขก็ต้องมีความสุขในทุกๆ วันที่ทำงาน ไม่ได้โฟกัสหรือเอาเรื่องแต่งงานมากดดันตัวเอง ซึ่งทั้งคู่ยังมีความสุข ยังคุยกัน และยังต้องการทำงานให้มั่นคงกว่านี้ก่อน ซึ่งฝ่ายชายเองก็บอกว่าขอแล้ว ก็ไม่ได้ซีเรียสว่าต้องรีบแต่งเมื่อไร ทั้งคู่ก็ไม่รีบ ตอนนี้ก็แล้วแต่ทั้งคู่ อย่างที่บอก คุณแม่กำลังมีความสุขกับการได้เห็นบ้านงอกงามอยู่ เราอยากให้ทุกอย่างมันลงตัว พอบ้านเสร็จคาดอะไรมันก็จะดีขึ้น รับไม่กลัวเรื่องงานเลทออกไป ไม่กลัว แต่กลัวงบบ้านบานปลายมากกว่า
กับเรื่องวัฒนธรรมของแต่ละบ้านที่ไม่เหมือนกันหวั่นไหม ทุกอย่างมันอยู่ที่การคุย ทุกอย่างมันเคลียร์ได้ ณ ตอนนี้ไม่ได้มองว่าต้องรีบเคลียร์ทุกอย่างเพื่อรีบแต่ง ตอนนี้ยังไม่ได้มีการคุย เรื่องที่ฝ่ายชายมีเชื้อจีน เรานับถือศาสนาอิสลาม และด้วยความที่ยังไม่ได้เจอกัน คุณพ่อคุณแม่ก็อยู่ต่างจังหวัด ยังไม่ได้มีโอกาสมาคุยกันตั้งโต๊ะจีน ยังไม่ได้มีตรงนั้น แต่ทั้งสองฝ่ายก็รับรู้อยู่แล้ว ก็รอนี่แหละว่าจะพร้อมเมื่อไร และไม่มีการเร่งเลย ชิวมาก ตอนนี้กำลังทำงาน และมีโปรเจ็คท์ด้วยกัน ถ้าเกิดว่ามันไปได้ดีทุกอย่างมันจะโอเค
กับเรื่องศาสนาจะต้องมีการปรับเปลี่ยนหรือเปล่า จริงๆ แล้วครอบครัวค่อนข้างที่จะเปิดกว้าง และครอบครัวฝ่ายชายก็เป็นคนสมัยใหม่ ไม่ได้หัวโบราณ ทุกอย่างคุยง่ายมาก และไม่ได้กังวลเพราะไม่เคยคิดว่าจะมีเรื่องนี้ ไม่ได้ซีเรียส และไม่ได้ถึงขั้นจะต้องรีบอะไร ด้านฝ่ายชายที่เขาต้องเปลี่ยนศาสนาอันนี้ต้องคุยกันอีกที แต่ยังไม่ได้มีโอกาสคุยลึกขนาดนั้น ซึ่งทางคุณพ่อเราชิวมาก ก็แล้วแต่เราเลย ถ้ามีโอกาสคงได้คุยกันกับทางครอบครัวด้วย ความที่อยู่ไกลกันก็เลยสื่อสารกันลำบากนิดหน่อย