“เชน ธนา” แจงตั้งไอจีไพรเวทเหตุหวั่นดราม่า รับเรือนหอบานปลายจริง

“เชน ธนา” แจงตั้งไอจีไพรเวทเหตุหวั่นดราม่า รับเรือนหอบานปลายจริง

       ควงภรรยา “เจมส์ กณิการ์” และลูกชายวัย 8 เดือนอย่าง “น้องสเปซ” ออกงาน สำหรับนักธุรกิจหนุ่ม “เชน ธนา ลิมปยารยะ” งานนี้ทีมงาน “ดาราเดลี่” เลยไม่พลาดที่จะเข้าไปอัพเดทพัฒนาการของลูกชายสักหน่อย รวมถึงอีกหนึ่งประเด็นหลังมีข่าวเรือนหอที่สร้างงบบานปลายด้วย ซึ่งเจ้าตัวเผยให้ฟังว่า

อ่านข่าวต่อ :

"เชน ธนา" ควงแฟนสาว "เจมส์ กณิการ์" เปิดตัว

      สำหรับช่วงนี้ก็ทำงานตลอดเลยก็ไม่ค่อยได้เจอพี่ๆ วันนี้จังหวะดีพอเรามีครอบครัวก็จะพยายามปรับตัว คือทำงานไปด้วย ดูแลครอบครัวไปด้วย น้องตอนนี้ก็เลี้ยงง่ายนะ ก็พยายามให้เขาได้เจอคนเยอะๆจะได้ไม่ร้อง หลายคนชมว่าหน้าเหมือนเรา ก็คล้ายๆครับ ตอนนี้ก็ใกล้จะ 8 เดือนแล้ว เลี้ยงไม่ยาก ตอนนี้มีของที่เสริมสร้างพัฒนาการเด็กเยอะ คุณหมอก็ชมว่าน้องมีพัฒนาการที่ดีและค่อนข้างไว ส่วนจะเอาอีกคนไหมก็ตอนนี้ยังเชื่อเรื่องดวงอยู่ ซินแสเขาบอกว่าให้มีในปี 2565 เราเองก็คำนวนแล้วว่า ธุรกิจจะเข้าที่ วางแผนเข้าตลาดแล้ว ถึงจุดนั้นก็คงจะพร้อม ในปี 2565 พอดี แล้วก็ขอเลี้ยง “สเปซ” ให้ได้ 2-3 ขวบก่อน  

      การปรับตัวตอนนี้ก็จริงๆยังหนักในเรื่องของงานแล้วก็บ้านเรือนหอยังไม่เสร็จ ทุกวันนี้ก็ยังนอนอยู่ในออฟฟิศก็เลยทำงานไปด้วย ลงมาอุ้มไปด้วย ตอนนี้ก็ส่วนมากจะติดที่พ่อมากกว่า เขาจะพาอ่านนิทาน ฝึกพูดตามจังหวะชีวิตของเขา 

      ส่วนที่ดาราหลายท่านเจอดราม่าเรื่องการเลี้ยงลูก คู่เรามีไหมก็จริงๆอันนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ไม่อยากเอาลูกออกสื่อด้วย ซึ่งมองว่าเด็กเป็นอะไรที่ใสสะอาดมาก ซึ่งบางทีการที่เราโพสต์รูปแล้วให้คนมาบอกว่าชอบ หรือไม่ชอบ เด็กบางทีเขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิดกพยายามจะเลี่ยง ซึ่งมีช่วงนึงก็ตั้งไพรเวทเลย ช่วงที่ลูกยังเล็กเพราะเรากังวล เพราะการสอนก็เป็นสมัยใหม่คนบางคนก็ยังไม่เข้าใจ ช่วง 8 เดือนแรกตั้งไพรเวทเลย เราทั้งสอบคนก็เตรียมรับมืออยู่แล้ว หลังจากนั้นก็ไม่มีนักเลงคียบอร์ดมาช่วยเลี้ยงเลย  ส่วนฉายแววตามคุณพ่อไหม ก็ส่งเสียงอย่างเดียว ชอบมองกล้อง ชอบชวนไปเที่ยว

      ส่วนเรื่องประเด็นเรือนหอที่ยังไม่เสร็จก็คือมีช่วงที่แล้ว ธุรกิจค่อนข้างวิกฤตทั้งอุตสาหกรรม เราก็เหมือนเป็นนักวางแผนก็พยายามดูในเรื่องของค่าใช้จ่าย พยายามดูแลตัวเองก่อน พอตอนหลังที่พื้นตัวเองได้ก็เริ่มลุยต่อ ผลกระทบก็ยอดขายหายไปครึ่งนึงทั้งปี แต่ว่าด้วยความที่เราทำธุรกิจมานานมีกำไรสะสมอยู่เยอะก็พออยู่ได้แต่ตอนแรกก็มีท้อใจ ก็คิดว่าจะต้องทำอะไรสักอย่าง แต่ท้ายที่สุดครึ่งปี 62 ดีมากก็เลยทำให้ทุกอย่างลงตัวมาก ทุกๆอย่างเราเซ็นสัญญากับทางอินทรีเรียไปแล้วทุกอย่าง ก็ค่อยๆคุยอีกส่วนหนึ่งก็เก็บเงินไว้ผ่อนด้วย ก็ค่อยๆเจรจากัน งบเกินไหมก็ไม่ได้เกิน เพราะไม่ได้ทำแบบหนักมาก ค่อยๆทำไปทีละส่วน ตอนนี้ก็ 70 เปอร์เซ็นต์แล้ว ก็ลงไปเยอะแล้ว  ตอนนี้ก็จะเหลือเฟอร์นิเจอร์แล้วก็เหลืออะไรนิดหน่อย  คาดว่าสิ้นปีนี้ที่ผู้รับเหมาต้องส่งงาน ก็จะฉลองปีใหม่ ก็จะพาลูกไปฉลองที่บ้านใหม่