“เกรท” รับควง “หมออร” เที่ยวภูเก็ต แจงไม่ลงรูปคู่เหตุหวั่นเกิดดราม่า

“เกรท” รับควง “หมออร” เที่ยวภูเก็ต แจงไม่ลงรูปคู่เหตุหวั่นเกิดดราม่า

      หลังจากเกิดดราม่าแฟนคลับไม่ปลื้มแฟนสาว สำหรับพระเอกหนุ่ม “เกรท วรินทร ปัญหกาญจน์” กับแฟนนอกวงการอย่าง “คุณหมออร” ล่าสุดทั้งคู่ก็มีโอกาสควงกันไปเที่ยวแต่ไม่ได้โพสต์ภาพลงโซเชียล งานนี้มีโอกาสเจอหนุ่ม “เกรท” เลยคว้าตัวมาถามกันสักหน่อย ว่ามีโอกาสได้คุยเรื่องนี้กับทั้ง 2 ฝ่ายอย่างแฟนคลับและแฟนสาวบ้างหรือยัง โดยเจ้าตัวเผยว่า

อ่านข่าวต่อ:

แบ่ง 2 เสียงหลัง “หมออร” เผยภาพร่วมเฟรม “เกรท วรินทร”

       ล่าสุดเพื่อนๆ ไปภูเก็ต เราได้ไปด้วยแต่ยังไม่อยากปรากฏตัว มันเพิ่งมีข่าวดราม่ามานิดหนึ่งเลยไม่อยากปรากฏ จริงๆ แพลนไว้นานแล้ว มีภาพเราเก็บไว้บ้างเล็กน้อย คือผมเชื่อว่าเป็นการคุยตั้งแต่แรกแล้ว เพื่อนเข้าใจ การลงรูปไปมันทำให้เกิด อย่างที่เป็นข่าวมีดราม่า คนที่เห็นและรู้สึกไม่ชอบ หรืออาจจะรู้สึกเห็นด้วย อาจจะรู้สึกเฉยๆ มีหลากหลาย จนก่อนหน้านี้มีดราม่า เราเลยคิดว่าอย่าเพิ่ง อยู่ในจุดที่เหมาะสมก่อน เหมือนเราเซฟตัวเอง เรียกได้ว่าไม่ได้เซฟตัวเองอย่างเดียว เซฟทุกคนด้วย ผมพูดเลยว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด อย่างเดียวที่คิดมากคือเราแคร์ความรู้สึกของทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นแฟนคลับของผมเอง หรือจะเป็นตัวของคุณหมอ หรือตัวผมเองด้วย ทุกครั้งที่ตอบก็อยากอยู่ในจุดที่ทุกคนได้ยินแล้วสบายใจ และรู้สึกว่าเราตอบจากใจให้มากที่สุด

       หลายคนชื่นชมเราปกป้องแฟนคลับและหวานใจ คือเราคิดว่ามันออกมาจากความรู้สึกของเราจริงๆ บางทีเราต้องมีสติมากๆ นะในการเรียบเรียงคำพูด บางทีคนอาจจะตีความผิด อย่างที่บอกว่าหลากหลายคนก็หลากหลายความคิดเห็น ซึ่งผมอยากจะสื่อในความรู้สึกของเราให้ดีที่สุด

       ส่วนดราม่าทำให้เราใช้ชีวิตยาก แต่ถ้าเกิดพูดเรื่องลงรูป ทุกวันนี้โซเชียลเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตแล้ว มันก็อยู่ที่แต่ละคนอยากจะใช้โซเชียลในทิศทางไหน ผมเองชอบเล่นกีฬาผมก็ลงรูปทำงาน เรื่องบางอย่างเราไม่ได้ชอบที่จะลง อาจจะไม่ได้ลง สไตล์แต่ละคนแตกต่างกันไป ถามว่าใช้ชีวิตยากไหม ผมว่ามันก็มีส่วนหนึ่งนะ เราต้องบาลานซ์ให้ดี ภาพที่ออกมาถ้ามันไม่ได้เป็นอะไรที่ไม่ดีเราก็ไม่ได้ซีเรียส

        ในทริปความสนุกลดน้อยลงไหม สำหรับผมจะมีมาตรฐานส่วนตัว ถ้ามันมีจนเซ็งมาก ซีเรียสเครียดมาก เราก็จะต้องถามตัวเองแล้วว่ามันเป็นยังไง มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ก็ต้องคุยกับตัวเอง ถ้ามีแอบแชร์ภาพเราในโซเชียลแต่มันเป็นสถานที่ที่กินข้าวผมก็ไม่ได้ซีเรียสมาก เดี๋ยวนี้ทุกคนมีโทรศัพท์หมด มันก็มีสิทธิ์เป็นไปได้ แต่ไม่อยากเกิดดราม่าเท่านั้นเอง

        ทางด้าน “คุณหมออร” โอเคที่มีรูปกับเราไม่ได้ คือผมว่าส่วนหนึ่งมีความเข้าใจ เป็นการให้เกียรติกันด้วย ผมก็จะเข้าใจเขาในส่วนหนึ่ง เขาก็ต้องเข้าใจผมในส่วนหนึ่ง อันนี้เป็นเรื่องของคนสองคนที่ต้องปรับและจูนกัน และเราก็เพิ่งมีโอกาสไปเที่ยวด้วยกันสองคนครั้งแรก

        หลังเกิดดราม่าได้พูดคุยกับแฟนคลับ อย่างที่บอกไม่อยากให้เกิดดราม่า ก็ต้องพูดก่อนว่าผมเข้าใจทุกฝ่าย อย่างที่เกิดดราม่าบางทีมันมีแอ็คหลุม เราไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ถามว่าถ้าเราจะมาคิดต่อว่าเขาเป็นใคร เป็นคนที่ไม่รู้จักเรา แต่ติดตามผลงานเรา อยู่ๆ เขามาพูดแบบนี้ อันนี้ที่เคยคุยกับน้องๆ แฟนคลับที่สนิทมันก็ทำร้ายความรู้สึกพวกเขาเพราะพวกเขาไม่ได้ทำ แต่ภาพที่ออกไปกลับกลายว่ามีคนมาว่าติ่งเป็นแบบนั้นแบบนี้ อันนี้ผมพูดแทนในส่วนของความรู้สึกทุกๆ คน ไม่มีใครรู้นะว่าแฟนคลับทำอะไรให้ผมบ้าง อย่างงานฟุตบอลช่อง 3 ต้องมาตากแดดร้อนๆ อันนี้พูดกลางๆ คนภายนอกไม่รู้หรอกว่าเนเจอร์ของแฟนคลับที่มีความรักและติดตามดารา เขาทุ่มเทขนาดไหน ผมเห็นในส่วนนี้ของทุกคนก็เลยแคร์เขา จึงอยากจะบอกคนที่ไม่รู้แต่มาพิมพ์ดราม่าอยากให้นึก บางทีคุณอาจจะเห็นด้วยในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ไม่อยากให้คุณไปว่าคนอื่นเขาไม่ดี

         กับแฟนคลับจริงๆ ของเราก็ได้พูดคุยกับแฟนคลับจริงๆ เพราะเป็นกลุ่มคนที่เราแคร์ อันนี้พูดถึงคนที่มาเจอกันบ่อยๆ บางคนอาจจะเข้าใจผิดเราบ้าง บางคนอาจจะรู้สึกน้อยใจที่ใครมาว่าเขา เพราะอย่างที่บอกโซเชียลมันควบคุมไม่ได้ แอ็คหลุมบ้าง เราไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ถ้าบางอย่างทิ้งได้เร็วมันก็จะดี

        ตอนนี้เราปรับความเข้าใจได้ทั้งสองฝ่ายแล้ว ก็ต้องเข้าใจกันทุกฝ่าย เข้าใจมากขึ้น อยู่ที่ว่าเราได้พูดแหละ แต่สุดท้ายถ้าไม่มีดราม่ามันน่าจะดีที่สุด หลังจากนี้จะลงรูปบ่อยไหม คิดว่าเป็นเคสๆ ไป สุดท้ายแล้วมันอยู่ที่เราว่าถ้าทำไปแล้วแฮปปี้ก็ทำ ถ้าทำไปแล้วไม่แฮปปี้ผมว่ามันก็เป็นแบบเดิม