"ยิปโซ" รับโป๊ะแตกโพสต์แสดงความยินดี "ยิปซี" ถูกแฟนขอหมั้น
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งข่าวดีหลังน้องสาวของ "ยิปซี คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์" อย่าง "ยิปโซ อริย์กันตา มหาพฤกษ์พงศ์" ประกาศกลางไอจีว่าแฟนหนุ่มตาน้ำข้าวของพี่สาว "นิโคลัส" ขอหมั้นพี่สาวตัวเองแล้ว งานนี้เมื่อมีโอกาสเจอตัวสาว “ยิปโซ” เลยไม่พลาดที่จะถามเรื่องนี้สักหน่อย ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า
อ่านข่าวต่อ:
สละโสดอีกราย “ยิปโซ” ประกาศข่าวดี “ยิปซี” เตรียมวิวาห์
สำหรับเรื่องพี่สาวที่ถูกขอหมั้น จริงๆ ตอนนี้พี่สาวเราเขาก็หมั้นกันแล้วเรียบร้อย เราก็กลายเป็นคนที่ประกาศข่าวคนแรกโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ตอนแรกเราคิดว่าเขาลงรูปเรียบร้อยแล้ว แต่เขายังไม่ได้ลง ถามว่าเราโป๊ะแตกไหม มัน ก็ไม่ถึงขนาดนั้นเพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดี แต่ตอนนั้นที่ลงคือเราเข้าใจผิด คือพี่เขาส่งรูปให้กับสมาชิกในครอบครัวได้ดูกัน เป็นรูปตัวเองใส่แหวน เราเลยโทรกลับไปหาเขาหน่อย คุยกันจบแล้วก็เลยบอกเขาว่าเราจะลงรูป เขาก็บอกเราว่าลงได้เลยๆ เราอธิบายความรู้สึกใจอย่างสุดซึ้ง สักแป๊บหนึ่งเพื่อนสนิทของพี่สาวเราเขาก็ทักมาแสดงความยินดี ก็เลยลองกดเข้าไปดูไอจีของเขา ก็อ้าว รูปไหนแสดงความยินดีกับพี่สาวเรา ปรากฏว่าไม่มี สรุปกลายเป็นเราคนแรกที่เอารูปมาลง เราก็เลยรีบทักกลับไปหาพี่ แล้วเขาก็ไม่อ่านไม่ตอบไลน์เราด้วย แต่เราดันเผลอลงรูปไปแล้ว กลัวถ้าเกิดว่าเราลงรูปไปแล้ว แล้วกดลบคนที่เขาตามไลค์อยู่ตั้งหมื่นกว่าคนเขาก็คิดว่าเราลงเล่นๆ หรือเปล่า แต่พี่เขาตอบกลับมาว่าลงไปเถอะ ไม่มีปัญหาอะไร หลังจากนั้นไม่นานก็มีข่าวมาว่าเราประกาศข่าวดีของพี่สาวไปแล้ว
จริงๆ ถามว่าตื่นเต้นไหมที่พี่สาวจะแต่งงาน ซึ่งถ้าเทียบกับความสัมพันธ์แล้วเราก็ไม่แปลกใจ เขารักกันมาก ก็ไม่เห็นคนที่เขาเข้ามาแล้วเป็นจิ๊กซอว์ให้พี่เรา แล้วก็เติมเต็มให้กัน เราเลยไม่รู้สึกแปลกใจอะไร แล้วเขาก็พูดอยู่ตลอดว่าเขาไม่อยากแต่งงาน แต่เราก็คิดในใจเลยว่าส่วนใหญ่คนที่พูดแบบนี้เขาก็จะแต่งก่อน
ส่วนทางคุณพ่อคุณแม่ จริงๆ แล้วไม่ได้อยู่กับคุณพ่อคุณแม่ เขาก็เลยไม่ได้เห็นทีท่าทางของแม่เท่าไร แม่เขาก็คิดเหมือนเรา ว่าถ้าเกิด "ยิปซี" มีความสุขเราก็มีความสุข และหลังจากที่ลงรูปไปทางผู้ใหญ่ก็มีการนัดกินข้าวกัน แต่ว่าทางพ่อแม่ของฝ่ายชายเขาไม่ได้อยู่ที่เมืองไทย ซึ่งถ้าเกิดว่าจังหวะแล้วแต่ว่าวันไหนว่างที่เขาได้มาอยู่ที่ประเทศไทยพอดีก็จะเป็นโอกาสให้เราได้เจอกันมากกว่า ในสายตาเรามองว่าเขาดูแลกันและกันดี คือท้ายที่สุดแล้วต่อให้เป็นคนในครอบครัวหรือเป็นใครก็แล้วแต่ พอมันเกิดความรักขึ้น เราไม่ได้มองหาคนที่ดูแลพี่สาวเรา แต่เรามองหาคนที่เขาดูแลกันทั้งคู่ พี่สาวเราก็ต้องดูแลเขาด้วย อย่างตอนที่้ฝ่ายชายป่วยแล้วพี่สาวเราดูแล เรามองว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ เพราะถ้าเกิดว่าคนที่เรารักเป็นอะไรไปยังไงใจเราก็ไปอยู่แล้ว
ส่วนเรื่องงานแต่งงานตอนนี้ยังไม่มีการเตรียมการอะไรเลย เพราะยังอยู่ในขั้นตอนของการหมั้น แต่ก็มีความตั้งใจที่จะแต่งงานกัน คิดไว้ว่าน่าจะอีกประมาณ 1 ปีได้ ถามต่อว่าเรามีการคุยเล่นๆ กับพี่สาวบ้างไหมเรื่องงานแต่งว่าอยากได้แบบไหน อะไรยังไง ไม่เลย ขนาดเรื่องแหวนแต่งงานเรายังไม่ถามเลย แต่ถ้าถึงเวลาเราก็พร้อมช่วยเสมอ