Whal & Dolph เปิดใจ มีคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรก
เตรียมจะมีคอนเสิร์ตครั้งใหญ่ครั้งแรกของพวกเขาแล้ว สำหรับ 2 ดูโอ Whal & Dolph กับคอนเสิร์ต Whal & Dolph Fish Market ซึ่งบัตรหมดเกลี้ยงจนต้องเพิ่มรอบกันเลยทีเดียว งานนี้ทาง “ดาราเดลี่” ได้เจาะลึกเบื้องหลังความเป็นไปเป็นมากว่าจะมาเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งนี้ รวมไปถึงเส้นทางในสายงานเพลงและมิตรภาพของเขาจนกลายมาเป็นศิลปินที่แฟนๆ ชื่นชอบ ตลอดเวลา 3 ปี
อ่านข่าวต่อ:
วงอินดี้น้องใหม่ “Whal&Dolph” กับซิงเกิ้ล “หากมันจะสายเกินไป”
Q:นิยามความเป็น Whal & Dolph
ปอ : ความเป็น Whal & Dolph มันคงนิยามยากอยู่ครับ เพราะว่าผมไม่เคยนิยามตัวเองเลย แต่ถ้าจะให้นิยามจริงๆ เลยก็คือ Whal & Dolph มันคือ ปอและน้ำวนนี่แหละครับ ผมเป็นยังไงตอนไหน ตอนนั้นผมชอบเพลงแบบไหน ก็แบบนั้น ก็เป็นปอ น้ำวนครับ Whal & Dolph
Q:3 ปีที่ผ่านมาของ Whal & Dolph เคยรู้สึกท้อบ้างไหม
ปอ : จริงๆ พวกเราไม่ค่อยรู้สึกท้อนะครับ เราทำสิ่งที่แบบ เราคิดว่าแบบมันเจ๋ง มันเจ๋งสำหรับเราเอง เราทำเพลงเพื่อให้เราเองได้ฟังแล้วก็รู้สึกว่าเออเพราะดีวะ มันก็เลยเป็นความสนุก พอมันมีความสนุกเนี่ย เราก็เลยไม่ค่อยท้อฮะ แล้วยิ่งโชคดีที่แบบว่า พอเราคิดว่าสิ่งนี้มันเจ๋ง คนอื่นก็คิดว่ามันเจ๋งด้วย
น้ำวน : ผมคิดว่ามันเป็นความคาดหวังแบบลึกๆ เลยครับ มันเลยไม่ได้ส่งผลต่อการทำงานเท่าไร แบบว่างานนี้มาสำเร็จไม่สำเร็จ เราไม่ได้แคร์เท่าไร ถ้าเราคิดว่างานนั้นมันดีที่สุดสำหรับเราแล้ว เราค่อนข้างพอใจแล้ว
Q:เพลงที่ทำให้คนรู้จักวงเรา
ปอ : จริงๆ วงเรานี่ยากอยู่นะ
น้ำวน : มันมีความแปลกอยู่ ไอคอนดิชั่นนี้ มันมีเพลงที่ติดชาร์ตได้ที่ 1 เลย แต่ว่าเพลงนั้นไม่ได้ทำให้เรามีชื่อเสียงหรือมีคนรู้จัก มันเป็นคนอีกกลุ่มหนึ่งมากกว่า แต่ว่าผมว่าถ้าคนวงกว้างรู้จักน่าจะเป็นเพลง “รอให้เธอบอก” กับ “ฉันยังเก็บไว้” 2 เพลงนี้คือช่วยพวกเราเอาไว้ได้เยอะ
ปอ : ใช่ๆ เอาจริงๆ พูดจริงๆ คือ วงเราถ้าแบบมีคนมาถามว่าเพลงฮิตของเราคือเพลงอะไร เราตอบไม่ได้จริงๆ ฮะ มันแบบมันเหมือนเป็นมวลรวม เพราะทุกๆ เพลงเรามีความแบบใกล้ๆ กันหมด ความฮิตหรืออะไรแบบนี้ ก็เลยตอบไม่ได้ว่าเพลงนี้คือเพลงที่แบบโห โคตรฮิต
น้ำวน : ทุกวันนี้เราแบบเข้าทวิตเตอร์ไปอ่านก็จะเจอแบบ เจอทุกเพลงอะครับที่คนพูดถึง เพลงนี้ เพลงนี้ ที่คิดว่าแบบจริงๆ เพลงมันแบบอันเดอร์ด็อกมากเลยนะ ก็ยังมีคนชอบอะไรงี้ มันแบบหลากหลายมาก
ปอ : ผมคิดว่ามันเป็นแบบเราทำเพลงเป็นอัลบั้มมีหลายเพลงอะไรแบบนี้ มันก็เลยแบบว่าน่าจะต้องเลือกๆ ฟัง ขอเลยตอบไม่ได้ว่าเพลงไหนมันเป็นเพลงฮิตจริงๆ แต่ถ้าแบบฮิตขึ้นมาหน่อยก็ (หัวเราะ) พูดจริงๆ นะเนี่ย
น้ำวน : เราตอบอะไรเขาไม่ได้เลย
ปอ : เอออย่าง ฉันยังเก็บไว้, รอให้เธอบอก, ไม่รู้ทำไม, ฝากไว้กับดาว อะไรพวกนี้มันก็คือแบบเลเวลใกล้ๆ กัน
น้ำวน : Mood ใกล้ๆ กัน
ปอ : เพลงเราไม่ได้มีเพลงไหนฮิตแบบฮิตไปเลย หรือแบบทำให้ชีวิตแบบเปลี่ยน มันไม่มีเลย กำลังตามหาเพลงฮิตอยู่ฮะ
Q:ความประทับใจ ระหว่าง Whal & Dolph
น้ำวน : ผมชอบความคิดเร็วทำเร็วของเขาฮะ แบบในแง่ของการทำงาน มันช่วยได้เยอะ มันจะมีไอเดียโน้นไอเดียนี้มา ถึงแม้ไอเดียนั้นมันจะยังไม่ได้แบบดีที่สุด แต่ว่าเราสามารถเอาไปต่อยอดกันได้ กับการทำงาน เราจะทำงานได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น
ปอ : ของผมก็คือ ความเชื่อมั่นในตัวเพื่อนฮะ เหมือนที่น้ำวนเชื่อมั่นในตัวผม ผมก็เชื่อมั่นในตัวน้ำวนครับ ก็เลยเป็นความประทับใจฮะ เขาเรียกว่า ถ้าเราไม่เชื่อมั่นกันเราก็คงทำงานร่วมกันไม่ได้ แล้วก็เขาเรียกว่าอะไร โชคดีที่มีมันเป็นเพื่อนฮะ
Q:วัดคุณค่าของความสำเร็จยังไง
ปอ : ตอนนี้เราต้องบอกว่า ไอเรื่องความสำเร็จกับความฝันมันแยกกันนะสำหรับผม เราทำความฝันของเราสำเร็จแล้ว เป็นศิลปินที่มีอัลบั้ม ที่มีคอนเสิร์ต ที่มีแฟนเพลงอะไรงี้ ผมว่ามันสำเร็จไปละ แต่เรื่องความสำเร็จเนี่ย ถ้าความสำเร็จในด้านวงการเพลงเนี่ยมันก็สำเร็จแล้วนะ มั้ง ไม่รู้เหมือนกัน อาจจะสำเร็จแล้วแหละ
น้ำวน : ถ้าเรามองในเรื่องเงินอะครับ เราก็ยังแบบนู้ดๆ อยู่ ยังไม่ได้ขนาดนั้น แต่ยังเลี้ยงดูตัวเองได้ ถ้าคุณไม่ได้มองเรื่องเงินผมว่ามันก็ค่อนข้างสำเร็จไปแล้วด้วยซ้ำ
ปอ : แต่ถ้าเรามองเรื่องเงินละครับ
น้ำวน : ก็ยังครับ
ปอ : แต่เราคิดว่าตอนนี้ความยากของการทำงาน พอเราทำมาถึงจุดหนึ่ง มันคือ เขาเรียกว่าการรักษามาตรฐานแล้วก็ทำให้มันดีขึ้นไป เราจะทำอัลบั้ม 2 ของเรายังไงให้มันเจ๋ง ให้มันแบบว่ารู้สึกเหมือนเราทำอัลบั้มแรก เหมือนเรารู้สึกแบบ เฮ้ย มันเจ๋งวะเพลงนี้อะไรแบบนี้ คือ เราไม่อยากทำเพลงที่มันแบบทำออกมาแล้วต้องขายให้ได้นะหรืออะไรยังงี้ เราแค่แบบอยากให้มันขายได้ไหม ก็อยากแหละ แต่ก็อยากให้มันเจ๋งสำหรับเราด้วย
น้ำวน : ต้องเดินทางไปด้วยกันได้
ปอ : ความตรงนั้นมันก็ยากที่จะเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 เพราะว่าครั้งแรกที่มันเริ่มต้น คือ เรามาจากศูนย์ ตอนนี้เรากลายเป็นแบบ 7 เราจะทำยังไงให้แบบว่าอยากทำอัลบั้ม 2 แล้วโหมันมันส์อะไรแบบนี้ เพราะฉะนั้นก็เป็นความยากที่จะรักษาผลงาน แล้วก็ทำผลงานให้ดีขึ้น ผมคิดว่าจุดนี้โคตรยากเลย คนที่อยู่มา 10 20 ปี เขายังมีเพลง ยังมีทัวร์ มีแฟนเพลง มีงานออกมา แล้วแบบ Success คือ เขาโคตรเจ๋งเลยครับ เราก็อยากเป็นแบบนั้นครับ อยากเป็นหนึ่งในบท หนึ่งในตำนานบทหนึ่งของแบบวงการเพลงไทย ก็ต้องดูกันต่อไปว่าจะทำมันสำเร็จหรือเปล่า
Q:กลัวไหมที่มีวงใหม่ๆ เกิดขึ้นทุกวัน
ปอ : จริงๆ มันก็เป็นมาตลอดนะ มันก็มีเด็กใหม่ๆ มีน้องวงใหม่ๆ มีแบบวงเจ๋งๆ ขึ้นมาทุกวันเลย แต่แค่ถามว่ารู้สึกกังวลไหม จริงๆ ก็มีความรู้สึกนิดๆ หน่อยๆ นะ ผมคิดว่าทุกคนที่เป็นมนุษย์มันมีความอิจฉา มีความกลัวที่ตัวเองจะแบบไม่ได้นี่แล้ว แต่แค่เราไม่ได้ยึดติดกับมันมากขนาดนั้น เพราะเราคิดว่าเรากำลังเดินในทางของเราอยู่ ถึงแม้ว่าเพลงเราปล่อยไปหลังจากนี้ ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงเหมือนกัน แต่เราไม่มีทางแบบว่า เราจะต้องทำเพลงแบบนี้เพื่อวงเราดังขึ้นไปอีก หรือแบบตามกระแสไป แบบว่าเขาทำกันแบบนี้นะอะไรอย่างงี้ เราแค่ดูแล้วก็มอง แล้วก็อิจฉานิดหน่อย แบบวงนี้แม่งเจ๋งวะ งานทัวร์เยอะอะไรเงี้ย แต่ถามว่าเราท้อไหม เราไม่ท้อ เราคิดว่าวันหนึ่งเราทำเพลงแบบนี้ออกมามันเป็นแบบที่เขาหาฟังได้ที่พวกเราสองคนเท่านั้น แล้วเราก็คิดว่าถ้ายังมีคนที่อยากฟังเพลงแบบเราอยู่ เราก็น่าจะไม่อดตายนะ อาจจะแบบไม่ได้ขึ้นไปจุดที่สูงที่สุดหรือต่ำที่สุด แต่เราก็จะแบบว่าอยู่ไปเรื่อยแบบนี้
น้ำวน : แต่ผมว่ามันเป็นเรื่องสนุกเหมือนกันนะครับ ที่แบบว่ามีคนที่สำเร็จกว่าเรา แล้วเรายังสามารถเห็นได้ว่า เฮ้ย เราทำแบบเขาได้นะอะไรเงี้ย ผมว่ามันเป็นการกดดันตัวเองเบาๆ ให้เราแบบ เฮ้ยต้องเข้มข้นกับงานที่เราทำนะ
ปอ : ถ้าเราทำไม่เจ๋งพอ เราก็สู้เขาไม่ได้ ผมว่ามันดีนะ
น้ำวน : ถ้าวันหนึ่งเราไปไม่ถึง ต้องทำงานให้หนักขึ้นกว่าเดิมครับ
Q:คิดยังไงกับการที่ศิลปินในปัจจุบันดึงศิลปิน Rapper เข้ามา Feat. ในเพลง
ปอ : จริงๆ แล้วต้องดูก่อนว่าศิลปินทั้งหลายมากมายที่เขาแบบเอาคนมา Featuring หรือมาแร็ป มาอะไรแบบนี้ เขาต้องการอะไรจากแร็ปเปอร์คนนั้น ถ้าเขาแบบมันเหมาะกับแร็ปเปอร์คนนั้น ผมคิดว่ามันก็เจ๋งนะ
น้ำวน : มันเป็นสิ่งที่สมควร
ปอ : ใช่ แต่ถ้าแบบว่า ให้เราเอาใครมาสักคนหนึ่ง เราก็คงจะแบบ ผมก็คงทำเพลงเสร็จแล้ว แบบเฮ้ยเพลงนี้มันแบบต้องมีคนนี้มาทำมาช่วย มาFeaturing ไม่ใช่แบบว่า เฮ้ยจะเอาคนนี้มา Feat. เพื่อให้แบบวงเราโตขึ้น สุดท้ายแล้วผมคิดว่าคนที่เข้ามาดูแล้วเขาก็ไม่ได้อาจจะอยากเข้ามาดูเราจริงๆ ไรงี้ ผมก็เลยคิดว่าแบบมันไม่สำคัญเลยครับ ผมคิดว่าการเติบโตมันต้องเติบโตแบบยั่งยืน ดีกว่าที่จะแบบฉาบฉวยแล้วหายไป เพราะเราอยากจะอยู่ในวงการนี้อีกสัก 10 20 ปี
น้ำวน : การทำงานฉาบฉวยมันเป็นเรื่องแบบว่าไม่จำเป็นเลย
ปอ : ฉะนั้นคนที่เขามาฟังเขาจะไม่ ถ้าแบบเพลงมันขึ้น 20 30 ล้านวิว อยากให้มันเป็นจากตัวเรามากกว่า ที่แบบเพราะมาดูคนนี้นะ แต่ถ้าแบบว่าวันหนึ่งเรามีเพลงที่มันเหมาะกับใครสักคนแบบว่าอยากมา Feat. กับเรา เราทำออกมาก็อยากชวนเขานะ
Q:จุดเริ่มต้นของคอนเสิร์ต Whal & Dolph Fish Market
ปอ : จริงๆ คุยกับน้ำวนว่า เราควรมีคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้มที่ 1 และ เอ้ย ปิดอัลบั้มที่ 1
น้ำวน : และเปิดอัลบั้มที่ 2 เป็น EP
ปอ : เพราะเรายังไม่เคยจัดเลย
น้ำวน : เหมือนพอคุยว่าสเกลประมาณนี้ 500 คนไรงี้ พอเรามานับเพลงของเรามันก็ได้ 20 เพลง อะไรงี้ ไปคุยกับค่ายคุยกับอะไรเหมือนเราจัดเป็นอันใหญ่ไปเลยไหม ตอนแรกผมก็เหมือนยังไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง ว่าแบบ เอ้ย จะจัด 1,000 หรือ 2,000 คนมันจะหมดไหมไรงี้ หลายคนก็บอกว่าเอ้ยไม่พอด้วยซ้ำ ผมก็เลยเอาวะลองดู ก็เลยเริ่มแผนมาตั้งแต่ตอนช่วงต้นปีเลย คุยกันมาแล้วก็เนี่ยครับ จนสุดสัปดาห์นี้ทุกคนจะได้ดูพวกเราแล้ว
Q:รู้สึกยังไงบ้าง ที่บัตรขายหมดจนต้องเพิ่มรอบ
ปอ : ผมก็รู้สึกดีนะ แต่ก็อีกอันหนึ่งก็คือรู้สึกว่าเหนื่อยมากเลย เพราะว่ารู้เลยว่าเราจะต้องทำให้ดี เนื่องจากมีคนแบบอยากมาดูเราเยอะ เราก็ต้องแบบ เราก็ต้องทำงานที่แบบ เขาซื้อบัตรมาเพื่อจะมาดูอะไรดีๆ จากเรา ถ้าเราเล่นออกมาแล้วแบบมันส์ หรือทำโชว์ หรือทำทุกอย่างออกมาไม่ดีพอสำหรับคนที่เขาอยากมาดู ผมคิดว่าเขาน่าจะผิดหวัง พอผิดหวังแล้วเนี่ย เราจัดครั้งต่อไปเขาคงไม่อยากมา
น้ำวน : แต่จุดประสงค์ของเราที่อยากจัดอีกรอบหนึ่ง ก็เพราะว่าเหมือนกลัวแฟนเพลงมาดูกันไม่ครบ
ปอ : อยากให้ทุกคนมาให้ครบ
น้ำวน : อยากให้ทุกคนมาดูมากกว่า ก็เลยเพิ่มอีกรอบ โดยมันก็มีความเสี่ยงกว่า เหมือนหนังภาคต่อที่ไม่รู้ว่ามันจะแบบฮิตเท่าภาคแรกไหม แต่ก็สองรอบก็ผ่านมาได้ด้วยดีครับ
Q:เสียงเพลงให้อะไรกับเราบ้าง
ปอ : ให้ทุกอย่างเลยครับ จริงๆ แล้วถ้าเปรียบแบบว่าเพลงคืออะไร ดนตรีคืออะไร ก็คือเรียกได้ว่าเป็นทุกอย่างในชีวิตเลยดีกว่า ตั้งแต่แบบสิ่งที่ชอบ เมื่อก่อนเป็นสิ่งที่ชอบเป็นสิ่งที่ทำแล้วสบายใจ ทำแล้วสนุก ทำให้เจอเพื่อน แล้วทุกวันนี้สำหรับพวกผม เป็นผู้เลี้ยงชีพพวกผม
ปอ : ใช่เป็นอาชีพ โห เป็นทุกอย่างเลย เรียกได้ว่าเป็นชีวิตของพวกเราเลยครับ เป็นลมหายใจเลยดีกว่า ไม่มีไม่ได้
น้ำวน : ก็เสริมจากปออีกอย่างหนึ่ง มีความเครียดอีกอย่างหนึ่งด้วย คือมันพอทำเป็นอาชีพแล้วมันมีความแบบมีความคาดหวัง ผมว่าสุดท้ายแล้วคือตัวเพลงเราใช่ไหม อย่างหนึ่งที่สำคุญที่สุดกับการไปเล่นสดเราก็ต้องคอยรักษามาตรฐานของเราเอาไว้ไม่ให้มันตก เพราะอาชีพนี้มันสามารถย้อนมาทำร้ายคุณเมื่อไรก็ได้ครับ ถ้าคุณเกิดทำมันได้ไม่ดีพออะไรแบบนี้ครับ แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาทำกันต่อไปครับ
ปอ : ขอฝากคอนเสิร์ต Whal & Dolph Fish Market นะครับ วันที่ 7-8 กันยายน ที่ Voice Space วิภาวดี-รังสิต ก็เรียกว่ายังไงดี บัตรมันหมดไปแล้วเนาะทั้ง 2 รอบ แต่ถ้าใครที่มีบัตรหรือไม่มีบัตรก็ลองไปดูแล้วกันมันมีคนไม่ว่าง เผื่อมีคนไม่ว่างไปซื้อต่อเขา เราก็ไม่สนับสนุนเท่าไรกลัวโดนโกง ใครที่มีบัตรดีกว่าครับ ก็ไปเจอกันที่งาน ประตูเปิดประมาณบ่าย 2 โมง มาลงทะเบียนนะครับ 4 โมงเย็นขายของที่ระลึก ส่วนเวลาเปิดฮอลล์ 6 โมง ทุ่มหนึ่งปุ๊บเราเริ่มเล่นเลย เราจะเล่นประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ เกือบ 3 ก็ผมคิดว่าถ้าคุณมาคนเดียวก็มาได้ หรือมากับเพื่อนก็มาได้ วันนั้นทุกๆ คนจะกลายเป็นเพื่อนกันแล้วก็ได้ เพราะว่ามันเหมือนเป็นการรวม เพราะมันเป็นวงเราวงเดียวไม่ได้มีแฟนเพลงวงอื่นมาแน่นอน ก็มากันดีกว่าฮะ อยากให้ทุกคนมาดูสิ่งที่เราแบบว่า ทำมาทั้งหมดเราใส่ทุกอย่างที่พวกเราแบบว่าคิดได้ ทำได้ เล่นได้ พูดได้ ไปในคอนเสิร์ตนี้ ก็ฝากเพื่อนๆ ทุกคนด้วย มาเจอกันนะครับ
สุดท้ายก็พวกเราวง Whal & Dolph มี 2 คนครับ ยังไงก็มี 1 อัลบั้ม กับอีก 2 EP นะฮะ แล้วก็จะมีอัลบั้มต่อไป ก็อยากจะฝากอัลบั้มต่อไปด้วยนะครับ ปลายปีหน้า Whal & Dolph อัลบั้มเต็มชุดที่ 2 กำลังจะวางแผงแล้วนะครับ ติดตามความเคลื่อนไหวได้เรื่อยๆ เลยนะฮะ ที่ facebook ของพวกเรานะฮะ IG, Twitter Whal&Dolph และ What the Duck ครับ