"เปิ้ล-จูน" ขอบคุณแฟนคลับห่วง "ออกู๊ด" หลังขี่เจ็ทสกีดูดขวดนม
เรียกได้ว่ามันอยู่ในสายเลือดจริงๆ สำหรับ "น้องออกู๊ด" ลูกชายวัย 3 ขวบของ "เปิ้ล นาคร ศิลาชัย" กับ “แม่จูน กษมา มยุมาศ” ที่ล่าสุดครอบครัวนี้ก็มีการลงคลิป "น้องออกู๊ด" ขี่เจ็ทสกี แถมในปากยังคาบขวดนมไว้ไม่หลุด ทำเอาแฟนๆ อดเป็นห่วงเรื่องอันตรายไม่ได้ งานนี้มีโอกาสเจอทั้งครอบครัว เลยไม่พลาดที่จะเข้าไปถามเรื่องนี้กันสักหน่อย
อ่านข่าวต่อ :
ผ่านไปด้วยดี “น้องออกู๊ด” ผ่าตัดแก้ Lazy Eyes ครั้งที่สอง
สำหรับ “จูน” วันที่เราเห็นก็เห็นพร้อมพี่ๆ นักข่าว ถามว่าตกใจไหม ก็เสียว แต่เรารู้ว่า “พี่เปิ้ล” ต้องเซฟให้ลูกอยู่แล้ว มันจะเหมือนภาพซ้อนซะมากกว่าสำหรับเรา เพราะว่าก่อนหน้า “ออกู๊ด-ออก้า” เขาก็ขี่มาแล้ว
ส่วนเรื่องคาบจุกนมอันนี้เป็นดีไซน์ของ “พี่เปิ้ล” เอง คือเรามองว่า 3 ขวบน่าจะเป็นเด็กที่อายุน้อยที่สุดในการแข่งเจ็ทสกี เราก็คิดขำๆ ว่าถ้าคาบขวดไปด้วยคงจะเท่เนอะ ตอนแรกเขาไม่ยอมเลย แต่เขาไปเห็นที่เล่นแบบจริงจังหวังลงประกวด เราเลยแกล้งบอกเขาไปว่าเดี๋ยวพ่อต้องส่งคลิปไปให้กรรมการดู แล้วถ้าเกิดว่าเราคาบนมไม่หลุดเลย กรรมการจะให้ลงแข่งตลอดชีวิต ทีนี้เขาเลยคาบไม่ปล่อยเลย
กับคนที่ถามว่าเราไม่ใส่หมวกให้ลูกหน่อยเหรอ คือตอนนี้ยังใส่ไม่ได้เพราะว่าเขายังไม่ชิน ต้องหัดให้เขาขี่แล้วตก ขี่แล้วกระโดดลงน้ำก่อน ให้เขาชินกับน้ำให้มากๆ ไม่งั้นล้มแล้วจะไปไม่เป็น ถ้าปกติก็ต้องใส่แน่นอน แต่ถ้าลงน้ำแล้วใส่หมวกกันน็อค พอน้ำเข้าไปในหมวกน้องจะเหวอหนักกว่าเดิมอีก หลายๆ คนก็เป็นห่วง ต้องขอขอบคุณมากๆ เลย สำหรับใครที่ไม่เข้าใจก็ให้เข้าไปดูที่ช่อง YouTube ของ เปิ้ล Channel ได้ เพราะมันจะมีคำอธิบายทั้งหมดอยู่ในนั้น จะได้คลายความสงสัย แล้วก็อาจจะนำไปใช้เป็นแนวทางให้กับลูกตัวเองได้ เพราะว่าการฝึกอะไรก็แล้วแต่มันต้องใช้ระยะเวลา ไม่ใช่ว่าอยากเทพแบบนี้เปิดแล้วจะได้เลย แบบนี้ห้ามทำเด็ดขาด อย่างตัวเราเองไปฝึกให้กับหลายประเทศ แล้วทำไมกับลูกตัวเองจะฝึกไม่ได้
เรื่องกระแสดราม่า คือ "จูน" เขาจะกลัว เราก็บอกว่าถ้าเราพร้อม ทุกอย่างมีคำอธิบาย อีกอย่าง เรารู้สึกว่าดราม่าเป็นสิ่งที่ควรจะมีในโลกนี้ มันไม่มีอะไรที่จะสวยสดใสในโลกนี้ตลอดไป เพราะคำติชมเรื่องแบบนี้มันจะทำให้เราดีขึ้น
ด้าน “แม่จูน” บอกต่อว่า รู้แพทเทิร์นแต่เราก็อดห่วงไม่ได้ แต่ก็ขอบคุณสำหรับคอมเมนต์ เป็นคนคอมเมนต์ด้วยความเป็นห่วง ไม่ใช่เป็นการจิกกัดด่ากัน ลองนึกย้อนกลับไปที่พี่ทุกคนเป็นคนตั้งชื่อให้กับ “ออกู๊ด” เพราะมันก็เหมือนกับทุกคนเป็นคนหนึ่ง “ออกู๊ด” เขาก็เลยจะเป็นห่วงกันมาก ตัวเราเองก็รับฟัง
ทาง “ออก้า” เริ่มตอนอายุ 4 ขวบ “ออกู๊ด” อายุ 3 ขวบ เดี๋ยว “ออเกรซ” จะให้เริ่มตอน 2 ขวบ แต่ตอนนี้ “ออก้า” ฝึกเรียนเพื่อเตรียมแข่งกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ตอนนี้ก็เป็นตัวแทนนักแข่งกทม. ซึ่งเคยไปแข่งกีฬาเยาวชนที่จัดขึ้นที่จังหวัดตราด ประมาณเดือนมีนาคม ปีหน้า เรียกว่าอายุน้อยก็น้อยที่สุดในอายุของนักแข่งทั้งหมด ส่วนใหญ่เขาก็จะอยู่ประมาณ 12 ปี แต่ก็ต้องสู้เพราะว่า “ออก้า” อายุ 8 ขวบ เขาชอบมากๆ มันเข้าไปในสายเลือดเขาเลยด้วยซ้ำ แล้วเขาเกิดในวันที่น้ำท่วมปี 54 เพราะฉะนั้นเขาจะมากับน้ำจริงๆ