“ภูมิ ภูมิสิทธิ์” อัพเดทผลงาน เผยซุ่มทำเพลงใหม่ เร็วๆ นี้ได้ฟังแน่นอน
เป็นอีกหนึ่งหนุ่มที่ไปมอบความสุขความสนุกให้กับพี่น้องชาวเชียงใหม่ สำหรับ “ภูมิ ภูมิสิทธิ์ วงศ์สมบูรณ์” กับ “มหกรรมคนสร้างสุข ปีที่ 5" ซึ่งในปีนี้มากับธีมงานสุดพิเศษ “Full of happiness สุขล้นใจ วิถีไทยบ้านเรา” เมื่อวันที่ 21-22 กันยายน ที่ผ่านมา โดย “ภูมิ ภูมิสิทธิ์” เผยว่า
อ่านข่าวต่อ
หลีกทางหน่อยแม่จะเดิน “เค-พูม-ก้อง” คัมแบ็คจัดจ้าน ในเพลง “ฉันเลยโอเค”
ต้องบอกว่ามาเชียงใหม่หลายรอบแล้ว มาทำงาน มาเที่ยว มาหาเพื่อน เพราะมีเพื่อนเรียนอยู่ที่นี่ด้วย และทุกครั้งที่มาจะรู้สึกว่าที่เชียงใหม่เป็นเมืองที่แบบน่ารัก คนทุกคนจะน่ารัก สโลว์ไลฟ์ ที่ชอบมากคือคาเฟ่ เราก็จะไปตามรอยหาคาเฟ่ที่เชียงใหม่ ขึ้นไปเที่ยวม่อนแจ่มขึ้นดอยแล้วก็มาไหว้พระ คือมาไหว้หลวงพ่อทันใจบ่อยมาก กลับมาเจอบรรยากาศเก่าๆ ที่เจอบ่อยๆ ครั้งนี้ที่มาหลักๆ แล้วเราก็มาทำงาน แต่ก็ทำงาน 1 วัน ที่เหลือก็จะขอเที่ยว รู้สึกว่าคนเชียงใหม่น่ารัก เมื่อวานก็เดินไปหาอะไรหลังมหาลัยเชียงใหม่ นักศึกษาน่ารักมาก วันนี้จะไปอีก ไปหาของกิน (หัวเราะ )
สำหรับผลงานที่มีให้ติดตามกันตอนนี้ คือ ทำพิธีกร รายการ Cine’Pop รายการทางช่อง True Visions แนะนำหนัง แนะนำภาพยนตร์ต่างๆ แล้วก็มีเพลงซิงเกิลใหม่ปลายปีนี้แน่นอน อยู่ในช่วงของการแต่งเพลงอยู่ ถามว่ามาทำงานงานพิธีกรเป็นไงบ้าง สำหรับงานพิธีกรรายการแรกๆ มันก็ไม่ยากพอเราต้องแนะนำภาพยนตร์ จำชื่อผู้กำกับฯ จำชื่อนักแสดงค่อนข้างเยอะ พอเริ่มจำได้ก็จะมีรูปแบบของมัน รายการมันประมาณไหนเราก็ทำได้คล่องขึ้น ค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ แล้วมันก็จะมีแบบที่เราต้องไปสัมภาษณ์นักแสดงทั้งในประเทศนอกประเทศด้วย เราได้ฝึกภาษาด้วย เป็นอีกหนึ่งงานที่ทำแล้วรู้สึกชอบ แล้วก็มีความรู้สึกกับการทำไปด้วย ทำให้เราชอบการดูหนังมากขึ้นด้วย พิธีกรเป็นอีกหนึ่งศาสตร์ที่แบบว่า มันเป็นการถามตอบ เหมือนเรามีรีแอ็คกับคนที่เราพูดด้วย สัมภาษณ์กันแล้วคุยกันไป ทำให้เรามีไหวพริบเพิ่มขึ้นด้วย
ความแตกต่างระหว่างงานพิธีกรกับการร้องเพลง คือในส่วนการท่องจำ การร้องเพลงก็ต้องจำเหมือนกัน จำเนื้อเพลง จำรูปแบบ จำบล็อกกิ้งตอนขึ้นโชว์ แต่ว่าในส่วนของการเป็นพิธีการเราต้องจำในส่วนของสคริปต์แล้วก็ต้องมีไหวพริบในการแก้ปัญหา หรือถามแขกรับเชิญในรายการ มันก็คนละศาสตร์ แต่ถามว่าชอบทั้งสองไหม ก็ชอบทั้งสองนะ มันก็มีความสุขทุกครั้งที่ได้ขึ้นร้องเพลง เราร้องแล้วคนดูร้องตาม โยกตามเราก็มีความสุข แต่งานพิธีกรเหมือนเป็นงานที่เพิ่มความรู้ให้กับเราด้วย เพราะทุกครั้งที่ไปสัมภาษณ์ ที่ได้ความรู้เกี่ยวกับหนังใหม่ๆ ทำให้เรามีความรู้เพิ่มขึ้นด้วย มีทั้งหนังไทยและต่างประเทศ แต่ส่วนมากเป็นหนังต่างชาติเป็นหนังฮอลลีวู้ดซะส่วนใหญ่ มีครั้งหนึ่งเคยไปสัมภาษณ์นักแสดงเรื่อง Power Rangers ซึ่งเขาเป็นชาวต่างชาติบินมาที่เมืองไทยเพื่อมาโปรโมทหนัง แล้วนั่นเป็นเทปแรกที่เราถ่ายเลยนะ ต้องคิดทั้งสคริปต์เอง แปลเป็นไทยเอง ทำให้เราได้ใช้สิ่งที่เราเรียนมา เพราะเราจบวารสารธรรมศาสตร์มา ได้เรื่องเกี่ยวกับการเขียนสคริปต์การแปลภาษาทำให้ได้ใช้สิ่งที่เราเรียนมา มาทำงานจริงๆ ในฟีลที่เราทำแล้วก็รู้สึกสนุกแล้วก็ดีใจ
ตอนนี้กำลังจะทำช่องยูทูบด้วย มันเป็นฟีลแบบว่าพูดคุย พาไปเที่ยวไปกิน เป็นไลฟ์สไตล์ กำลังอยู่ในช่วงของการเริ่มถ่ายเก็บไว้เรื่อยๆ แล้วเดี๋ยวไปตัดต่อแล้วเอามาลงรับรองว่าสนุกแน่นอน เราจะเน้นว่าตัวเองเป็นคนชอบเที่ยว ชอบกิน แกล้งเพื่อน และนอกจากนี้ก็มีธุรกิจที่ทำร่วมกับเพื่อนๆ ที่เป็น AF เหมือนกัน รุ่น 9 ชื่อ “โซ่” เขาจะเป็นฟีลแบบชอบไหว้พระ สายมู หาหลวงพ่อ หาของขลัง ตอนนี้กำลังฮิตเอาวัตถุมงคลมาใส่กรอบ มาร้อยเป็นกำไล เป็นเครื่องประดับเป็นสร้อยคอพวงกุญแจ ก็เลยเปิดร้านทำ เอาจริงๆ แล้ววัตถุมงคลของไทยอยู่คู่กับเรามานานมาแล้ว หลายคนอาจจะมองว่าไกลตัว ไม่แฟชั่น แต่ตอนนี้คือนำมาปรับให้มันดูแฟชั่นขึ้น ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่อยากใส่กัน ตอนนี้ก็คือขยายสาขา คือ สาขาที่เชียงใหม่ด้วย การทำธุรกิจแรกๆ ยากเหมือนกัน เพราะเราไม่ใช่คนที่สะสมพระหรือเซียนพระ ใช้วิธีศึกษาอ่าน ไปหาหลวงพ่อ ไปไหว้ ไปคุย ขอของดี และรู้สึกว่ายิ่งคลุกคลีแล้วชีวิตดีขึ้น ยิ่งพอเราบูชาก็ยิ่งดีขึ้น เราเลยอยากแบ่งปันให้เพื่อนเรา พี่น้องเรา บูชาแล้วเห็นผล แล้วเขากลับมาบอก ถามว่ากลัวคนจะมองว่างมงายไหม คือ เรื่องแบบนี้มันเป็นปกติอยู่แล้ว มันจะมีคนที่เชื่อมากๆ กับไม่เชื่อเลย แบบคิดไปเองหรือเปล่า ไม่เกี่ยวกันมั้ง บางคนที่มีศรัทธาใช้แล้วได้งาน เขาก็จะรู้สึกเชื่อ เขาจะมาบอกเรา ได้ฟีดแบ็คจากลูกค้าตลอด ยิ่งรู้สึกดีว่าเราแบ่งปันสิ่งที่ดี อนาคตจะขยายสาขาเพิ่มไหม ก็ต้องดูไปเรื่อยๆ ตอนนี้มี 2 สาขาที่กรุงเทพฯ กับเชียงใหม่ ตอนนี้เน้นไปเรื่อยๆ มีเพื่อนพี่แนะนำ อันไหนดี มีตัวใหม่ๆ คอยดูสถานการณ์ เพราะเศรษฐกิจด้วย งานเพลงก็ยังทำอยู่ กำลังอยู่ในช่วงแต่งเพลง