“น้ำหวาน” น้ำตาคลอ จับได้สามีกิ๊กสาวอื่น 

“น้ำหวาน” น้ำตาคลอ จับได้สามีกิ๊กสาวอื่น 

                ถูกข่าวโดนโยงว่าเป็นนักแสดงอักษรย่อที่จับได้ว่าสามีไปกิ๊กนักศึกษาสาว สำหรับ นักแสดงสาว ”น้ำหวาน เดอะเฟซ” หรือ “รักษ์ณภัค วงศ์ธนทัศน์” งานนี้เมื่อมีโอกาสเจอตัวก็ไม่พลาดที่จะถามเรื่องนี้สักหน่อย ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า

อ่านข่าวต่อ
“น้ำหวาน” โพสต์แบบนี้ ส่อแววขาเตียงหักหรือเปล่า

                จริงๆ ไม่รู้ว่าเป็นนักศึกษาหรือเปล่า แต่ว่าอาจจะไม่ใช่หนูก็ได้นะข่าวนี้ แต่ว่าจริงๆ ก็มีปัญหากัน ถ้าถามว่าเป็นเรื่องมือที่สามหรือเปล่า อันนี้ก็ ไม่รู้ว่าจะเรียกมือที่สามได้หรือเปล่า เพราะว่าเราไม่รู้ว่าเขาคุยกันนานขนาดไหนแล้ว จริงๆ ไม่ได้จับได้ เพราะมันโจ่งแจ้งมาก

                ซึ่งเหตุการณ์มันเหมือนเวลาเรามีอินสตาแกรม แล้วเราก็คุยกันคอมเมนต์กันไปมา มันก็จะอยู่อะไรประมาณนั้น หลักฐานอยู่ใต้คอมเมนต์ จริงๆ ตอนแรกก็คือถามเขานะ ถามว่าทำไมคอมเมนต์กันแบบนี้  หรือเขาเป็นใครหรือทำไมไม่เห็นรู้จักเลย เป็นเพื่อนหรือ พอเขาบอกว่าเป็นรุ่นน้องเราก็ถามว่า ต้องขนาดเลยหรือ เราก็แคปที่คุยเมนต์กันแล้วไปถามเพื่อนว่า  เราคิดมากไปหรือเปล่า  คือเขาก็คุยกันแบบก็สนิทกันประมาณหนึ่งเลยถึงจะคุยประโยคนี้ได้ 

                ซึ่งน้ำหวานต้องบอกก่อนเราค่อนข้างใจกว้างมาก ปล่อยให้พี่เขาไปเที่ยว เพื่อนเขาก็รู้ว่าเราใจกว้าง ไม่เคยจุกจิกเรื่องนี้เลย แต่ว่าเรื่องนี้มันก็สติหลุดจริงๆ ถามว่าไปเจอเหตุการณ์ไหนที่ทำให้สติหลุด จริงๆ ไม่อยากบอกว่าเป็นคำ แต่คือประโยคนั้นแหละค่ะ  แค่รู้สึกว่าต้องสนิทกันมาก ถึงจะต้องพิมพ์หากันประมาณนี้ ก็มีความคุยกันเป็นห่วงกัน เราก็จุกเลยพี่ กำลังถ่ายละครน้ำตาไหล

                กับสาวคนนั้นตอนแรกจะติดต่อไปหาว่าเขาสนิทกับฝ่ายไหนหรือ แต่คิดว่าเราไม่ยุ่งดีกว่า เราปรึกษาเพื่อน เรามาคุยกัน 2 คนดีกว่า เคลียร์กัน 2 คน คนอื่นไม่ยุ่ง ถ้าถามว่าเคยมีแบบนี้ไหมไม่เคยนะ เอาจริงก็เคยมีบ้างนิดหน่อย เวลาไปเที่ยวกันมันดีอยู่แล้ว  แต่ว่าอันนี้มันโจ่งแจ้ง ช่วงนี้พี่เขาทำงานเยอะ ออกต่างจังหวัดบ่อย สิ่งแวดล้มมันทำให้เรามาเจอกันหรือเปล่า 

                สุดท้ายแล้วเคลียร์ก็คุยกันว่าสุดท้ายแล้วเธอจะเอาอย่างไร ก็เคลียร์ ถ้ายังรักกันอยู่ช่วยเคลียร์ให้ได้ไหม  แต่ไม่ได้บอกว่าให้เขาไปเคลียร์ยังไง แต่ว่าเขาก็ไปลบคอมเมนต์นั้นออก แต่ถามว่าเชื่อใจได้ไหม มันไม่หมดเลย ยังไว้ใจ มันก็ลดลงนิดนึงระแวงนิดนึง แต่ไม่มากอะไรขนาดนั้น

                ตอนนี้ก็ยังเป็นสามีภรรยาเหมือนเดิม แต่ว่าช่วงนี้เราทำงานเยอะ ถ่ายละคร เขาก็ทำงานเยอะ คือเรานอนบ้านเดียวกัน แต่ว่าแทบจะไม่ได้เจอหน้ากัน  ยอมรับตอนแรกโทษตัวเองนะ หรือว่าเพราะเราไม่มีเวลา แต่ว่าหนูคิดว่าเราเต็มที่แล้ว ตอนนี้ก็ยังรู้สึกเหมือนเดิม ถ้าเป็นช่วงที่เกิดขึ้นนะ สั่นคลอนมาก จนทุกคนรู้ แล้วสิ่งที่เขาทำมันเหมือนไม่ให้เกียรติ เพื่อนให้กำลังใจเยอะมาก ตอนนั้นยังไม่พร้อมรับโทรศัพท์ใคร ขอถ่ายละครให้เสร็จ แต่ว่าตอนนี้เขาเคลียร์ตัวเองไปแล้ว

                สุดท้ายแล้วต้องประคับประคองกันไป เหมือนเราแต่งงานแล้ว เจอเหตุการณ์นี้จะไม่ไว้ใจเขาไปเลยก็มันไม่ใช่ สุดท้ายแล้วเราต้องประคับประคองกันไปให้ดีที่สุด มีเวลาอยู่ด้วยกันก็ทำให้ดีที่สุด สุดท้ายแล้วถ้าจะเลิกหรือไม่ได้ไปด้วยกัน หรืออาจจะยังคบกันอยู่เราก็ทำดีที่สุดแล้ว ตอนนี้ก็ทำใจไว้บ้างแล้วเหมือนเราเคยเลิกกันมา 2 รอบ ก่อนแต่งงาน แล้วที่เราตัดสินใจแต่งงานกัน เพราะว่าเราผ่านอะไรกันมาเยอะ แล้ว เราก็แค่ทำใจแล้ว ถ้าเลิกกันก็ไม่ได้ฟูมฟายขนาดนั้น แค่รู้สึกว่าทำดีที่สุดแล้ว เท่านั้นเอง

                ทางผู้ใหญ่ครอบครัวเราไม่ยุ่งอยู่แล้ว  ส่วนแม่สามีถามเราก็บอกว่าไม่มีอะไร เคลียร์กันแล้ว ถามว่าเขาให้คำสัญญาอะไรกับเราไหม จริงๆ ไม่ได้ต้องการคำมั่นสัญญา เคยคุยกันแล้ว คำสัญญาเป็นแค่ลมปากเปล่า  แค่รู้สึกว่าการกระทำมากกว่าที่จะต้องให้เราได้ ตอนนี้ก็ดี เขาก็พยายามทำ กับเหตุการณ์นี้ก็มีส่วนที่ทำให้ไม่อยากมีลูก แต่ว่าจริงๆ แล้วเราคุยกันว่าไม่ได้อยากมีน้อง เพราะเราทำงานด้วย