“นัน อนันต์” ปลื้มซิงเกิล “ห่วงหา” กระแสดี ปัดทุ่มงบ 10 ล้านสร้างบ้านใหม่
มีกระแสตอบรับเป็นอย่างดีหลังจากปล่อยซิงเกิลที่มีชื่อว่า “ห่วงหา” มาได้ไม่นาน สำหรับ “นัน อนันต์ อาศัยไพรพนา” ล่าสุดเจ้าตัวก็ได้ออกมาเผยเรื่องนี้พร้อมปฏิเสธงบที่ใช้สร้างบ้านไม่ได้สูงถึง 10 ล้านบาท ให้ฟังว่า
ซิงเกิล "ห่วงหา" จะเป็นเพลงที่ออกแนวคิดถึงบ้าน ก็ออกมา 3 ซิงเกิลแล้ว อารมณ์เพลงจะไม่ค่อยแตกต่างกันจะเป็นโทนเดียวกันหมด เนื้อเพลง “ห่วงหา” จะเป็นเกี่ยวกับคนที่อยู่ห่างไกลจากบ้าน อย่างตัวเองก็เป็นคนป่ากลางเขาที่วันหนึ่งได้มาทำงานในกรุงเทพฯ เนื้อเพลงก็จะออกเป็นภาษาเหนือหน่อย โดยตอนนี้ฟีดแบ็คก็ดี ยอดวิวประมาณครึ่งล้านหลังปล่อยมาได้ประมาณ 3 อาทิตย์แล้ว ส่วนเพลงแรกอย่าง "พระจันทร์ไม่เต็มดวง" ตอนนี้ก็ยังมียอดวิวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ถามว่าอนาคตจะมีเพลงเร็วออกมาให้ได้ฟังกันบ้างไหม ก็ยังตอบไม่ได้ ก็แล้วแต่ผู้ใหญ่ ถ้าผู้ใหญ่เขาบอกว่ายังไม่ควรมี เราก็ต้องทำตามที่ผู้ใหญ่เขาแนะนำ แต่ส่วนตัวก็อยากลองเปลี่ยนแนวบ้าง และเคยขอเขาแต่ทางผู้ใหญ่ก็บอกว่าขอจัดการเพลงแนวนี้ให้เสร็จก่อน โดยงานช่วงนี้ก็มีคอนเสิร์ตอยู่แต่จะน้อยลง อย่างมากก็รับงานได้ 1 วันต่อ 1 งาน เพราะเราก็ห่วงสุขภาพตัวเองด้วย เหตุตอนนี้เป็นโรคภูมิแพ้เสียงจะเริ่มหายถ้าใช้งานเยอะ ถ้าเกิดวันไหนร่างกายปกติก็ทำงานมีความสุข แต่ถ้าเกิดวันไหนเราภูมิแพ้กำเริบมันก็จะเหมือนเราร้องเพลงได้ไม่เต็มที่ไม่มีความสุข จริงๆ ก็มีคนแนะนำให้ไปหาหมอแต่ว่ายังไม่ได้ไปหาเลยรับมีกลัว เพราะว่าเราทำงานในด้านนี้ด้วย ถ้าเกิดว่าวันไหนร้องเพลงไม่ได้ก็จะเสียใจ เพราะเราเคยทำได้ดีในจุดๆ นี้ แต่ตอนนี้สิ่งที่สำคัญคือการพักผ่อน เพราะถ้าเกิดว่าวันไหนรู้พรุ่งนี้มีงานก็จะรีบนอน เพราะไม่อย่างงั้นจะไม่มีเสียงเลย
ส่วนเรื่องสร้างบ้านตอนนี้ก็คืบหน้าไปประมาณ 90% แล้ว ที่เป็นในส่วนของโครงสร้างหลักก็เรียบร้อยแล้วเหลือเก็บรายละเอียดรอบบ้านอยู่ ก็ไม่ได้คิดว่าวันหนึ่งจะมีบ้านเป็นของตัวเอง แต่มีความฝันตั้งแต่อายุ 17 ปี ก็อยู่แต่กับบ้านไม้ไผ่มาตลอด พอได้ออกมาทำงานในเมืองแล้วก็ได้เห็นอะไรมากขึ้น พอมีเงิน และไม่คิดว่าวันหนึ่งเราจะทำได้ ซึ่งงบในการสร้างบ้านก็ไม่ถึง 10 ล้านบาท แต่โชคดีที่มีแฟนคลับคอยช่วย สมมติเวลาที่ซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้านเขาก็พร้อมที่จะหารครึ่งให้ ก็ขอขอบคุณทุกคนที่คอยสนับสนุน และคิดไว้ว่าหลังจากเดือนพฤศจิกายนประมาณวันที่ 16 เป็นฤกษ์อยากจะขึ้นบ้านใหม่ โดยทางคุณพ่อคุณแม่เองเขาก็คงดีใจ แต่เขาเป็นคนแสดงอารมณ์ออกมาไม่เก่ง ก็มองว่าการสร้างบ้านมันเป็นความสุข เวลาทำงานเหนื่อยๆ แล้วกลับไปเจอบ้านรู้สึกหายเหนื่อยมาก