“ก้อง ก้องเกียรติ” แชร์ประสบการณ์ วัยเด็ก และเส้นทางในวงการบันเทิง
เป็นอีกหนึ่งศิลปินกลุ่มมาแรง อย่าง “ก้อง ก้องเกียรติ ทาวงค์” แต่กว่าหนุ่มเจ้าเสน่ห์คนนี้จะแจ้งเกิดในวงการบันเทิง ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย และวันนี้เขาได้ย้อนวันวานตัวตนของเขาให้ฟังอย่างอารมณ์ดี
อ่านข่าวต่อ :
“ก้อง” มากับลุคใหม่ไว้หนวด เผยผอมลงเพราะลดน้ำหนัก
ตอนเด็กเป็นคนกลางๆ ไม่ได้ดีมากหรือเกเรมาก เป็นคนตั้งใจเรียนเป็นบางชั้น อย่าง ป.6 ตั้งใจเรียนเพราะอยากเข้า ม.1 ที่โรงเรียนอื่น ก็ขยัน ได้เกรดเฉลี่ยดี สำหรับวีรกรรมแสบๆ ตอนเด็กๆ ด้วยการที่เราตัวเล็ก ชอบโดนแกล้ง เราก็เก็บกด ในวันที่สอบก็โดนแกล้งเป็นประจำ อย่างวันสอบก็โดนหักดินสอ เราก็เลยโกรธ เลยเอาดินสอที่เขาหักมาแทงมือเขา และตอนเด็กเราเป็นเด็กกิจกรรม จะไปอยู่กับครูมากกว่าเพราะต้องร้องเพลง และต้องร้องเพลงชาติหน้าเสาธงทุกวัน มีกิจกรรมเต้นแอโรบิค นำสวดมนต์
เส้นทางก่อนเข้าวงการบันเทิง “ก้อง” เล่าว่า คือตอนเด็กๆ ประกวดตามอาจารย์ ก่อนจบ ม.6 มีการแข่งร้องเพลง เป็นงานครบรอบ 60 ปีครองราชย์รัชกาลที่ 9 ได้ที่ 1 มา ระดับประเทศ มีโอกาสอัดเพลงพระราชนิพนธ์ แล้วพอจบ ม.6 ขอแม่ อยากเรียนด้านดนตรี ด้านร้องเพลง และไปแข่งโน่นนี่ ที่เชียงใหม่ และไปเป็นนักร้องกลางคืน ก่อนตัดสินใจมาแข่ง AF ก่อนนั้นไปแข่ง My idol ก่อนแต่ตกรอบไป และมีแมวมองสนใจให้เราไปออกซิงเกิล เป็นครั้งแรกที่ได้ออก ชื่อเพลง สัมผัส หลังจากนั้นได้แข่ง AF ตอนนั้นไปส่งเพื่อนก่อนแต่เพื่อนไม่ติด แต่เราติด ก็ได้เป็นตัวจริงเข้ามา 12 คน ตอนนั้นเป็นรุ่นที่ 9 ถามว่าคาดหวังไหมตอนนั้น เอาจริงๆ วันที่รับสมัคร เพื่อนต่อแถวบ่ายโมง เราเพิ่งยื่นสมัครสองโมงครึ่ง วันนั้นร้องหลายเพลงมาก เขาให้เราร้องๆ เราก็ลุ้นจะได้เข้าไหมนะ สักพักเชิญเข้าห้องใหญ่ ก็ดีใจ ตื่นเต้น สรุปได้ fast track จาก “ป้าแจ๋ว ยุทธนา” แต่ตอนนั้นลุกยังไม่ได้ ทำผสีทองมา “ป้าแจ๋ว” บอกว่าไมได้ ต้องไปทำสีผมดำ เราต้องกลับไปเตรียมตัวในคืนเดียวเพื่อมารอบ ออดิชั่น
งานแรกที่ได้ทำหลังจบซีซั่นก็มีซิงเกิลเดี่ยว และมีเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ ใน อิมแพ็ค มีพิธีกร ทัวร์ งานคอนเสิร์ตแต่ละภาค มีตแอนด์กรี๊ดต่างประเทศ และรุ่นเราเป็นรุ่นที่พูดถึง เป็นรุ่นที่รอบโหวตเยอะที่สุดในประวัติศาสตร์ เราก็รู้สึกดีใจ
ถามต่อว่าวงการนี้ให้อะไรบ้าง มากครับ วงการนี้ให้ประสบการณ์ จริงๆ ต้องอยู่บนพื้นฐานบนความถูกต้อง อะไรที่ควรทำ-ไม่ควรทำ ได้ทักษะร้องเพลงมากขึ้น เรารู้สึกโชคดีจังที่ได้ทำงานและได้ร้องเพลง ได้มอบความสุข รับว่ามีท้อ เมื่อไรจะสำเร็จ จะดัง คนรู้จักเรา แต่สิ่งที่เราทำจะบอกตัวเองว่ามันคือความสุข แค่เราทำด้วยความสุขเราก็ไปต่อได้ วันนี้ความฝันเป็นจริง ขอบคุณตัวเอง พาตัวเองผ่านความไม่กล้าแสดงออกจนถึงวันนี้