ที่แรก "เอิน กัลยกร" เปิดใจกรณีถูกสื่อพาดหัวแรง ตอบชัดพร้อมรับคำขอโทษไหม
จากกรณีถูกสื่อสำนักหนึ่งพาดหัวข่าวที่ค่อนข้างรุนแรงจนทำให้เกิดความไม่พอใจออกมาตำหนิถึงความไม่เหมาะสม และแม้จะมีการขอโทษไปแล้วแต่ก็ได้ยื่นข้อเสนอไป 3 ข้อด้วยกัน สำหรับ "เอิน กัลยกร นาคสมภพ" ล่าสุดเจ้าตัวก็ได้ออกมาเผยให้ฟังว่า
อ่านข่าวต่อ:
“เอิน กัลยกร” ฉุนโดนสื่อพาดหัวแรง
ตอนแรกที่เห็นข่าวรู้สึกงงและตกใจผิดหวัง มีโกรธแวบๆ เพราะรู้สึกว่าเราไปงานในฐานะผู้ให้ความรู้ของผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ตอนสัมภาษณ์ก็คุยกันดี และไม่น่าจะมีประเด็นดราม่าอะไรเกิดขึ้นได้ โดยสิ่งที่ให้สัมภาษณ์ก็มีคำถามกับพวกเกรียนคีย์บอร์ดเวลาเจอคอมเมนต์รู้สึกอย่างไร ตนก็ตอบไปว่าเจอมาเยอะมาก ทั้งเรียกว่าอึ่งอ่าง อีหมู อีอ้วน แต่รู้สึกว่าคนที่เขียนแบบนี้เขาเป็นคนป่วยมากกว่า ไม่ได้แคร์ หรือสนใจอะไร รู้สึกสงสารเขาด้วยซ้ำไปว่าป่วยที่เขียนแบบนั้น แต่การพาดหัวของสื่อเป็นคนละประเด็นกับคำสัมภาษณ์โดยสิ้นเชิง ตนไม่ได้เรียกตัวเองแบบนั้น แต่คนอื่นเรียกการพาดหัวเป็นการพาดแบบที่ไม่ได้พูดเลยเป็นการพาดเปรียบเทียบที่ไม่เหมาะสมโดยประการทั้งปวง ถ้าใครโดนก็รู้สึกแย่ยิ่งถ้าคนป่วยโรคซึมเศร้าอยู่ในช่วงดาวน์จะนำไปสู่การทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตายได้ ตอนเห็นไม่ได้โกรธแต่ผิดหวังมากกว่าว่ามาทำทำไมตนไม่ได้เป็นดาราแล้ว และไม่เคยไปทำอะไรเขาด้วย จะเขียนทำร้ายทำไมไม่เข้าใจ
ส่วนที่ทางสำนักข่าวได้ออกมาขอโทษก็ไม่ทราบเลย วันที่ข่าวลงก็ได้เห็นตอนเช้าและตอนบ่าย ก็มีน้องมาขอโทษเป็นการส่วนตัว เพราะเขาไม่ได้พาดหัวแค่เขียนข่าว เขาขอโทษแทนพี่ๆ ด้วย แต่มองว่าไม่ใช่ส่วนงานที่ใหญ่เป็นส่วนรีไรท์ หรือกองบ.ก. จะใหญ่กว่าคนเขียนข่าว เพราะตนก็เคยทำงานที่สำนักต่างประเทศไม่ใช่จะเขียนออกมาอย่างเดียวได้ต้องผ่านหลายกระบวนการ เรื่องนี้ไม่ใช่นักข่าวแน่นอน โดยพอช่วงค่ำมีโทรเข้ามาเขาบอกว่าเป็นหัวหน้ากองข่าวสาระสำคัญ พูดจริงๆ น้องไม่ควรโทรมา เขาควรโทรมาเอง และไม่มีคำว่าขอโทษ แค่พูดว่าเสียใจ และใช้เวลาหลายนาทีมาก แต่ในน้ำเสียงมีความหงุดหงิด และการอ้างผู้ใหญ่ด้วย ตอนจบตนก็บอกว่าพี่ไม่ใช่เคสแรกที่เกิดขึ้น
ก่อนหน้านี้เคยเขียนถึง "ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง" ตนไม่ใช่เคสแรกและเคสสุดท้าย เขาก็เชิงมีอารมณ์โมโห และถามว่าจะเอายังไงต้องการอะไร ตนก็บอกไป 3 ข้อ คือ 1. อยากให้เขียนขอโทษอย่างเป็นทางการ 2. ต้องการให้มีมาตรการจัดการคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องครั้งนี้ทุกคน 3. ต้องการมีมาตรการชัดเจนต่อไปต้องทำอะไรบ้าง เพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในอนาคต เขาก็ไม่รับปากบอกว่าขอปรึกษาผู้ใหญ่ก่อน และไม่มีการติดต่อมาอีกเลย แค่ขอโทษและไม่มีมาตรการรองรับไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ มองว่าการโดนโซเชียลบูลลี่เกิดขึ้นในสังคมและเป็นปัญหามานานมากแล้ว การพาดหัวแบบนี้ไม่ใช่มีแค่สำนักข่าวนี้ที่พาดแย่ๆ แต่ทุกสื่อและดาราทุกคนควรมีส่วนสำคัญในการสร้างวัฒนธรรมที่ดีให้กับสังคมด้วย รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องตน ถ้าวันนี้คนที่เจอแบบนี้ไม่ใช่ตน และถ้าเจอในวันที่ไม่ได้รักษาอาจจะคิดสั้นก็เป็นไปได้ คำขอโทษไม่เกิดอะไรขึ้น และการที่ลงขอโทษแต่ไม่โทรมาแจ้งก็ดูไม่จริงใจ อย่างคนปกติถ้าเผลอทำอะไรผิดรู้ว่าทำให้แย่สิ่งแรกที่ทำคือโทรไปขอโทษ และถ้าไม่พอเขาจะให้ทำอะไรอีกก็ควรทำถ้าทำด้วยความจริงใจ ยันไม่มีปัญหาส่วนตัวเลยไม่ว่าจะเป็นสำนักข่าวไหนก็ตาม
สุดท้ายอยากฝากบอกว่า คนทุกคนที่มีสื่อในมือจำเป็นที่จะต้องระมัดระวังสิ่งที่เขียน และไม่ทำร้ายคนทุกคนไม่ว่าเขาจะอยู่ในสภาวะไหน จะเป็นโรคซึมเศร้า หรือไม่เป็นก็ตามแต่ หากพูดดีขึ้นมาแล้วทำให้ชีวิตมีความสุขก็ทำได้เพื่อให้ชีวิตคนดีขึ้น และคนที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าก็อยากจะบอกว่า การรักษาไม่น่ากลัว และทำให้ดีขึ้นจริง อย่ามัวแต่กลัวคำครหาคนรอบข้าง หรือทัศนคติไม่ดีให้ไปหาคุณหมอ คนที่โดนบูลลี่มีความทุกข์หรือเจ็บปวด ก็อยากให้กำลังใจสามารถแข็งแกร่งถ้าผ่านไปได้