​​​​​​​“น้ำฝน” อัพเดทความคืบหน้างานแต่ง พร้อมเผยหลังควง “อาร์ม” ถ่ายพรีเวดดิ้ง

“น้ำฝน” อัพเดทความคืบหน้างานแต่ง พร้อมเผยหลังควง “อาร์ม” ถ่ายพรีเวดดิ้ง

               เตรียมจูงมือเข้าพิธีแต่งงานในเดือนมีนาคมปีหน้านี้ เลยไม่รู้จะมีการเตรียมความพร้อมไปถึงขั้นไหนแล้ว สำหรับคู่ของ “อาร์ม พิพัฒน์ วิทยาปัญญานนท์” กับ “น้ำฝน พัชรินทร์ ศรีวสุภิรมย์” ล่าสุดฝ่ายหญิงก็ได้ออกมาเผยเรื่องนี้พร้อมควงฝ่ายชายบินถ่ายพรีเวดดิ้งที่ญี่ปุ่นด้วยว่า

อ่านข่าวต่อ

ส่องพรีเวดดิ้งเซ็ตแรก “น้ำฝน-อาร์ม” หวานได้อีก

               ความพร้อมก็เยอะแล้วเหลือแค่เตรียมงานนิดหน่อยโดยเฉพาะเรื่องของชำร่วย พอดีไปงาน “พี่จั๊ด ธีมะ กาญจนไพริน” มา ทางพี่เขาได้ให้บริจาคเงินเกี่ยวกับการศึกษาของเด็กแทนที่จะเป็นของชำร่วย ก็คิดมาปรับใช้อยู่ถ้ามีเหมือนได้ทำบุญกับตนไปด้วย หรือจะทำเป็นสมุดนิทานจะได้นำไปแจกได้ด้วยก็ยังคิดกันอยู่ สถานที่จัดงานเป็นโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ก็เน้นพิธีเรียบง่าย เหมือนเชิญแขกผู้ใหญ่และเพื่อนมาเป็นเกียรติร่วมแสดงความยินดีงานแต่ง คู่ตนจะเซฟเงินเพื่อนำไปเที่ยวและเก็บไว้เลี้ยงลูกมากกว่า จะมีทั้งพิธีไทยและจีนด้วยและจะจดทะเบียนสมรสในวันนั้นวันเดียวเลย โดยไม่เน้นปาร์ตี้เลยไม่มีการจัดงานตอนเย็นอีก 

               ส่วนที่ไปถ่ายพรีเวดดิ้งที่ญี่ปุ่นมา ก็พอดีไปเที่ยวทางฝ่ายชายแพลนไว้ก่อนจะขอตนที่รัสเซียอีก และมีน้องที่รู้จักถ่ายรูปให้ก็เลยเตรียมชุดกันไปคอนเซ็ปต์เน้นเป็นตัวเองแบบไปเที่ยวถ่ายแบบสบายๆ ตามที่โพสต์ให้เห็นกันในไอจี ภาพก็ออกมาน่ารักอบอุ่นไม่ต้องเป๊ะมาก ธีมงานที่ถ่ายตนหาชุดไปไม่เอายาวเพราะจะลำบาก ทางพี่เขาจะเอาสูทและเสื้อกั๊กสีเทาจะได้แมตช์กัน ทั้งนี้ยังจะไปถ่ายที่ภูฏานอีก เป็นอีกประเทศที่อยากไปและตนได้ไปทำงาน พี่เขาก็อยากไปด้วยเลยชวนไปถ่ายพรีเวดดิ้ง

               คาดปลายเดือนมกราคมนี้ก็พรีเวดดิ้งจะมีถ่าย 3 ที่ แต่จะเป็นเล่าเรื่องราวความรักทั้งคู่ตั้งแต่แรกเลย รับยังไม่ตื่นเต้นกับการเป็นเจ้าสาวแม้จะเหลืออีกแค่ 4 เดือน ไม่รู้เป็นเพราะถ่ายละครเข้าฉากแต่งงานเป็น 10 ครั้งแล้วด้วยหรือเปล่า แต่คิดว่าพอใกล้ๆ คงจะตื่นเต้นอยู่ และพยายามจัดงานให้เสร็จเดือนกุมภาพันธ์ งานแต่งจัดเดือนมีนาคมไม่อยากรีบตอนใกล้ถึง เพราะกลัวจะทะเลาะกัน ซึ่งส่วนตัวพร้อมใช้ชีวิตคู่ตั้งแต่ตัดสินใจแต่งงานกับฝ่ายชาย สำหรับเรื่องลูกก็รอละครปิดกล้องก่อนแล้วค่อยแพลนอาจจะมีเลยคงไม่นานมาก ตั้งเป้าไว้ไม่เกินอายุ 35 ปี ไม่งั้นถ้ามีเลยจากนี้จะอันตรายทั้งตนและลูกด้วย