“น้ำหวาน” เผยถึงความสนุกของละคร “สางนางพราย” แฝงไปด้วยข้อคิดดีๆ
เป็นอีกหนึ่งนักแสดงมากฝีมือ สำหรับ “น้ำหวาน กรรณาภรณ์ พวงทอง” ที่ล่าสุดต้องมารับบทบาทสุดท้าทาย “เมธาวดี” เจ้าหญิงรัชทายาทแห่งเมือง “เมธานคร” ในละครเรื่อง “สางนางพราย” ซึ่งเจ้าตัวเล่าถึงความสนุกของละครเรื่องนี้ให้ฟังว่า
อ่านข่าวต่อ :
“สางนางพราย” เปิดตัวสวย เรตติ้งดีงามตั้งแต่ต้นเรื่อง
ละคร “สางนางพราย” จะคล้ายๆ “แม่ย่านาง” เก่า แต่ก็มีการปรับบทใหม่ให้มีความเป็นปัจจุบันมากขึ้น และก็ “เมธาวดี” กับ “เมธาวลัย” ไม่ได้เป็นแฝดแบบเวอร์ชั่นก่อน อยากให้ลองดูเวอร์ชั่นนี้และไม่อยากให้เปรียบเทียบกัน เพราะว่าอันนั้นก็นานแล้ว แต่เวอร์ชั่นนี้ก็ปรับให้เป็นปัจจุบันมากขึ้น เป็นเรื่องราวของเมืองเมืองหนึ่ง “เมธานคร” ที่ตัว “เมธาวดี” เป็นองค์หญิงรัชทายาท และก็มี “ภาคิไนย” คือพระเอก เป็นเหมือนมือขวา และก็มีน้องสาวต่างมารดาคือ “เมธาวลัย” เราหลงรักพระเอก แต่พระเอกกับนางเอกเขารักกัน เราก็เลยรู้สึกว่าไม่โอเค พยายามทำทุกวิถีทาง พ่อก็พยายามจะให้เราไปแต่งงานกับ “เจ้าชายศรีเทพ” ซึ่งเป็นอีกเจ้าเมืองหนึ่ง แต่เราไม่โอเค ก็เลยวางแผนให้น้อง “เมธาวลัย” เป็นคนไปแทน สุดท้ายก็เกิดภัยพิบัติก่อน เกิดอาเพศขึ้น และก็มาในพาร์ทปัจจุบัน ทุกคนได้มาเกิดใหม่หมด เราก็ตามมา แต่เราไม่ได้เกิดเพราะว่าตอนนั้นมันมีเหตุการณ์ในอดีตที่ทำให้เราต้องอยู่กับหัวเรือในน้ำกับทรัพย์สมบัติทั้งหมด แล้วพอมาในปัจจุบันทุกคนก็พยายามที่จะมาเอาสมบัติในน้ำ เราก็เลยตามฆ่าทุกคนที่เข้ามาเอาทรัพย์สมบัติและเราก็ตามหาพระเอก ตามหานางเอกเพื่อมาแก้แค้น
“เมธาวดี” จะเป็นคนที่ไม่ได้ทุกคนต้องเอาหูมาฟังเสียงเรา คือเราไม่จำเป็นจะต้องพูดเสียงดังเพื่อให้คนอื่นได้ยิน เราเป็นคนมีอำนาจ และก็เป็นคนที่เด็ดเดี่ยว ตัดสินใจเด็ดขาดและก็รักพระเอกมาก ไม่ค่อยชอบน้องสาว เพราะรู้สึกว่าน้องเกิดมาไม่ได้ทำอะไรแต่ได้ทุกอย่าง ในขณะที่เราทำทุกอย่างแต่เรากลับต้องเป็นคนเสียสละอยู่ตลอดเวลา ส่วนปัจจุบันเป็นผี เป้าหมายคือทำทุกวิถีทางเพื่อให้ “เมธาวลัย” มาอยู่ใต้น้ำแทนเรา จริงๆ เราก็อยากจะสมหวังกับพระเอก แต่พอถึงจุดๆ หนึ่งมันไม่ได้ เราก็เลยทำทุกวิถีทาง อาฆาตมาจนถึงปัจจุบัน เพราะมันมีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่าสองคนนั้นทิ้งเรา แต่จริงๆ มันมีเรื่องราวมากกว่านั้น
นอกจากความสนุกของละคร จริงๆ เรื่องนี้ก็มีข้อคิดดีๆ คือ ทุกอย่างจบที่ตัวเราดีที่สุด คือการไม่อาฆาต ไม่จองเวรจองกรรม ก็คือจบที่ตัวเราแล้วมันจะไม่มีการอาฆาตกันไปอาฆาตกันมา ถ้าจบที่ตัวเราเลยก็ดีที่สุดแล้ว อีกอย่างหนึ่ง ตัวเมธาวดี คือ การที่ไม่คิดไปเอง โดยที่เราไม่ได้เห็นกับตา ไม่ได้รู้ด้วยตัวเราเองว่าจุดตรงนั้นมันเป็นยังไง เพราะอันนี้มันจะมีตอนจบที่จะเฉลยว่าจริงๆ เขาไม่ได้เป็นแบบนั้น เขาไม่ได้ทำอย่างนั้น แต่ตัวเมธาวดีคิดไปเองว่าพระเอกกับนางเอกทำแบบนี้ เลยทำให้ตัวเราต้องมาติดอยู่ตรงนี้ มาตามจองเวรจองกรรม ซึ่งจริงๆ แล้วมันไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะว่าตัวเขาก็ไม่ได้เห็นเอง คิดไปเอง ตีความไปเอง มันก็เลยทำให้มีการจองเวรจองกรรมเกิดขึ้นมา
ยังไงก็ฝากติดตาม “สางนางพราย” ด้วยนะคะ พวกเรานักแสดงและทีมงานทุกคนตั้งใจมากๆ คือไม่อยากให้มองว่าเป็นละครผีอีกละ จะเหมือนทั่วไปหรือเปล่า คือเรื่องนี้มันมีดราม่าด้วย และมันก็มีความมุ้งมิ้งนิดหนึ่งก็มี ความสนุกสนานก็มีด้วยนะคะ อย่างที่บอกว่ามันจะมีเรื่องราวของพาร์ทอดีตซึ่งเป็นเรื่องราวที่เข้มข้นมาก และก็ตามมาถึงปัจจุบัน ก็อยากให้ติดตามกันว่าเรื่องราวจะเข้มข้นแค่ไหน ฝากด้วยนะคะ