ดีใจสุดๆ “บีม” ปลื้ม ประกบ “นุ่น” ครั้งแรก
“เกมรักเอาคืน” ละครดราม่าที่เรียกได้ว่า แซ่บ สนุก ครบรส แถมยังเป็นละครที่สอดแทรกไปด้วยข้อคิดต่างๆ ด้วยเรื่องราวความรักของคนในสังคมยุคใหม่ เลยทำให้เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่มีคนดูตามติดและเป็นกระแสอย่างมาก วันนี้เรามีโอกาสได้พูดคุยกับนักแสดงนำอย่างหนุ่ม “บีม กวี ตันจรารักษ์” เจ้าตัวเผยให้ฟังว่า
อ่านข่าวต่อ :
“นุ่น-แพท-บีม-จอส” แท็กทีม “เกมรักเอาคืน” จัดเต็มความแซ่บ
คาแรกเตอร์ในเรื่องนี้รับบทเป็น “หมอเอกภูมิ” เป็นคุณหมอที่เป็นคนดีมาตลอด จนกระทั่งไปเจอความรักแบบหวือหวา กระแทกใจเขา ในชนิดที่เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่ามันมีด้านนี้ของกามอารมณ์ ก็เลยติดใจ อาจจะลืมไปว่าความสุขที่แท้จริงของเขาคืออะไร เลยนอกใจภรรยาไปมีเมียน้อย หลังจากนั้นก็มีเหตุการณ์ที่ดึงเขากลับมา เขาเลยคิดว่ามันไม่ใช่แล้วนี่หว่า ความสุขที่แท้จริงคือการมีชีวิตที่มีความสุขกับภรรยา ก็เลยเกิดเป็นเกมว่าทำยังไงจะดึงเขากลับมา แล้วก็ทำยังไงไม่อยากอยู่กับเมียน้อยแล้ว ประมาณนี้ ลองติดตามดูมันสนุกตรงนี้
เรื่องนี้ได้เล่นกับ “พี่นุ่น วรนุช ภิรมย์ภักดี” ต้องบอกก่อนเลยว่า “พี่นุ่น” เก่งมากครับ เราเข้าฉากกับเขา เราต้องแอบขโมย แอบดูความสามารถเขา เพื่อเอามาเรียนรู้กันไปว่าเราจะเล่นยังไง เวลาเข้าซีนกันก็สนุกมากๆ เพราะว่าเป็นการส่งกันไปส่งกันมา เหมือนเราเล่นแบดฯ หรือกีฬาที่โต้ไปโต้มา แต่นี่เป็นเหมือนการส่งอารมณ์กัน เราต้องดูเขาส่งมาแบบนี้จะส่งกลับไปยังไง ดีมากเลย พอรู้ว่าเขาเล่นก็รีบรับ ดีใจที่เราจะได้เล่นกับคนเล่นละครเก่งๆ
ส่วนกับ “แพท ณปภา” ก็มีเลิฟซีน ถ้านับจริงๆ ไม่เยอะ แต่ว่าแต่ละครั้งที่ออกมามันอิมแพ็ค เพื่อที่จะได้รู้ว่าเขามีความต้องการแบบนี้กับผู้หญิงคนนี้ เพราะฉะนั้นเราต้องใช้ภาพเล่าเรื่องให้มากที่สุด อิมแพ็คที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ว่าทุกอย่างที่ออกมาส่วนใหญ่จะเป็นมุมกล้อง เราใช้ภาพที่ไม่เยอะมาก แต่ว่าต้องการเล่าอารมณ์ของตัวละครตอนนั้นได้ ซึ่งผู้กำกับฯ คอยบรีฟตลอด ทำให้การทำงานไม่ยากจนกินไป
ที่ยากที่สุด มันยาก ยิ่งหลังๆ แต่ละซีนที่ออกมามันเหมือนเล่าอารมณ์ตัวละครเป็นความรู้สึกผิดหวังช้ำใจ ท้อแท้ เสียใจ ซึ่งกว่าจะถ่ายแต่ละซีนเหนื่อยมาก ซีนนี้ร้องไห้แสดงอารมณ์โกรธ เหนื่อยหน่าย หรืออะไรแบบนี้ แต่ละซีนไม่ใช่แค่การพูดเล่าเรื่องหรือพูดจาธรรมดา แต่มันเป็นซีนที่ต้องใส่อารมณ์เข้าไป ฉะนั้นแต่ละซีนเลยเหนื่อยมาก ถามว่ายากไหม มันก็ยากที่เราจะต้องถ่ายละครอารมณ์แบบนี้ตั้งแต่เช้าถึงเย็น มีอารมณ์ที่หลากหลาย ฟีลแบดๆ มันก็เป็นความยากของละครเรื่องนี้ เลยอยากให้ดู ยิ่งหลังๆ ยิ่งเข้มข้น และความเข้มข้นมาพร้อมกับความยากของการแสดง