“ไอซ์ซึ” เชื่อบท “แทนคุณ” ไม่ส่งเสริมคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง

“ไอซ์ซึ” เชื่อบท “แทนคุณ” ไม่ส่งเสริมคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง

                เรียกได้ว่าเดินทางมาถึงตอนสุดท้ายแล้วสำหรับซีรีส์รีเมคจากแดนกิมจิ “VOICE สัมผัสเสียงมรณะ” โดยหนึ่งในฆาตกรต่อเนื่องอย่างหนุ่ม “ไอซ์ซึ ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์” ที่รับบท “แทนคุณ” วันนี้ทาง “ดาราเดลี่” ได้มีโอกาสพูดคุยกับเขา ไม่พลาดถามถึงเรื่องนี้ โดยเขาเผยให้ฟังว่า

อ่านข่าวต่อ

อีกหนึ่งความสำเร็จของ “แพนเค้ก” ชาวเน็ตเชียร์เพิ่มตอน VOICE

                สำหรับเรื่อง “VOICE สัมผัสเสียงมรณะ” ทางผู้กำกับฯ ติดต่อมา ส่งบทมาให้อ่าน ได้เห็นว่าเป็นซีรีส์รีเมคเกาหลี ตอนนั้นเห็นว่า “พี่แพนเค้ก” รับเล่นแล้ว ก็ลังเลอยู่ในตอนนั้น มีถามทางพี่ๆ ที่เกาหลีว่าบทเป็นยังไงบ้าง ซึ่งเขาบอกว่าดังมากในประเทศเกาหลี และบอกว่าต้องรับนะ เราก็มีไปอ่าน ทางผู้กำกับฯ เขานัดไปเจอ ก็ได้นั่งคุย สุดท้ายก็ตกลงรับเล่น เรื่องของตัวบทบาทก็ห่างไกลจากตัวเยอะ พอมันเป็นรีเมคก็มีคุยกับผู้กำกับฯ ไป เขาบอกว่าไม่อยากให้เหมือนกับเขา แต่การวิเคราะห์ตัวละครของเราต้องเปิดกว้าง ไม่ได้ไปก๊อปปี้เขามา มันเลยเป็นข้อดีที่เราเองได้เตรียมตัว ทำให้ได้รับอิสระในการทำงาน ด้านผมเองมีไปดูทางฝั่งเกาหลีมาเหมือนกัน ดูไปรอบหนึ่งก็สนุกดี

                ส่วนกับฉากโหดๆ คาแรกเตอร์ของ “แทนคุณ” ด้วยความที่เป็นชื่อเรื่อง VOICE มันแปลว่าเสียงสำคัญมาก ผมคิดว่าเรื่องนี้จะสำคัญในเรื่องของวิธีการพูด สำเนียงของตัวละคร ผมมองว่าเรื่องเล่าผ่าน “ไอริน” ต้องทำยังไงให้คนดูได้ยินเสียง และรู้ว่าเสียงของผมคือฆาตกร เพื่อให้คนดูได้ตามสืบไปด้วยกัน ก็ลองทำสวนทางดูว่าถ้าทำตัวเป็นปกติดี แต่แอบซ่อนความร้ายเอาไว้ก็ออกมาเป็นแบบนี้ จะมีความสุภาพที่ยึดเอาไว้ วิธีการพูดต้องแปลก ก็ต้องมาดัดแปลงวิธีการพูด คอยเช็กตลอดเหมือนกัน หลักๆ สุภาพและแปลก

                ด้านการร่วมงานกับ “พี่แพนเค้ก-พี่แอนดริว” ผมเองก็เพิ่งเล่นมาไม่กี่เรื่อง อย่างพวกพี่ๆ เขาก็ทำงานมานาน เราไม่อยากให้เขาเล่นไม่ดีเพราะเรา ไม่อยากเป็นตัวถ่วงเขา ทำให้ผมเองกดดัน ก็มีทำการบ้านเยอะขึ้น เท่าที่จำได้คือผมเองแทบไม่ได้คุยกับ “พี่แอนดริว” เลย เจอกันสวัสดีกันในวันแรก และหลังจากนั้นเกือบ 6 เดือนคือไม่ได้คุยกันเลย ที่ไม่คุยเพราะบทเขาก็หนัก อยากให้มีความไม่ชอบกันจริงๆ เขาเองมืออาชีพก็ทำให้เรามั่นใจในตัวละครเรายิ่งขึ้น

                สำหรับกระแสที่ได้รับกลับมา ก็วันนี้ (24 ธันวาคม) จะเป็นตอนสุดท้ายแล้ว ซึ่งผมก็คิดว่าเกินคาด ทางผู้กำกับฯ เจ๋งมากๆ เป็นละครรีเมคที่ไม่จำเจ คนดูก็ชอบและบอกต่อๆ กัน เป็นฟีดแบ็คที่ภูมิใจ และรู้สึกว่าเป็นเรื่องใหม่มากในวงการละครไทย มีความคล้ายกับหนังนิดหนึ่ง อย่างฉากที่มืดก็จะมืดไปเลยจริงๆ นางเอกไม่แต่งหน้าก็ไม่แต่งหน้าเลย คนดูก็ชอบในความเรียล ทำให้เขาชอบ มันทำให้ฉีกแนวจากเดิมๆ

                ส่วนที่มีบางคนเอาไปเทียบกับละครรีเมคเกาหลีเรื่องอื่นๆ อย่าง “ลิขิตรักข้ามดวงดาว” นั้น ส่วนตัวผมไม่ได้ดู “ลิขิตรักข้ามดวงดาว” ที่ "พี่ณเดชน์-พี่แมท" เล่น ผมก็บอกไม่ได้ว่ามันต่างกันยังไง แต่จะพูดในส่วนของเรื่องตัวเองว่าทางพี่ผู้กำกับฯ กล้าที่จะฉีกแนว เป็นการปรับบริบทให้เข้ากับเมืองไทย ผมก็มองว่ามันแตกต่าง เขากล้าที่จะทำอะไรใหม่ๆ ให้คนดูตัดสินเอาเอง คิดเอาเองว่าจะชอบหรือไม่ชอบ ผมก็คิดว่าเรื่องนี้น่าสนใจ

                คนดูเองจะได้เรื่องของการฟัง บางทีเราอยู่ในชีวิตจริงจะไม่ฟังคนอื่น ไม่เข้าใจเขา ทำให้เขาทำอะไรที่ไม่ควรทำ การรับฟังจะสำคัญที่สุด ในเรื่องตัวฆาตกรจะมีปมแทบทุกตัว เขาอยู่ในสังคมที่ไม่มีใครเห็นใจ ไม่มีใครฟัง สุดท้ายมันกลับมาที่เรื่องของสังคมที่ไม่มีใครฟัง ถ้าแก้ที่ต้นเหตุฟังเขาตั้งแต่เด็ก ดูแลกันให้ดี ก็จะไม่เกิดอะไรแบบนี้

                ด้านที่ตอนนี้มีข่าวฆาตกรต่อเนื่องในเมืองไทยอยู่ จะทำให้ดูส่งเสริมหรือเปล่า ผมมองจะทำให้คนกลัวมากซะมากกว่า ระวังตัวมากขึ้นมากกว่า ไม่น่าจะเป็นส่งเสริมให้ทำตาม อย่างบท “แทนคุณ” ที่ดูดีมากๆ แต่ลับหลังน่ากลัวมากๆ ชีวิตจริงเวลาเจอใครก็ดูดีๆ ระวังตัวว่าเขาจะมาดีมาร้าย สุดท้ายอยากฝากดูเรื่องนี้ด้วย ซึ่งมีในหลายๆ แอปฯ ที่สามารถดูย้อนหลังรวดเดียวได้ ถ้าดูแล้วชอบก็บอกต่อกัน ให้กำลังใจทีมงาน