"พชร์” ไม่สน “นิก” เปิดตัวคบ “แตงโม” ซัดกลับ! ยอมฉีกสัญญาแลกเงิน 3 ล้าน
เป็นอีกหนึ่งประเด็นดราม่าที่สังคมยังคอยติดตามอยู่ว่าเมื่อไรจะจบ สำหรับ “พชร์ อานนท์” กับนักแสดงหนุ่มในสังกัดอย่าง “นิก คุณาธิป ปิ่นประดับ” ที่เจ้าตัวได้แยกออกมาจากสังกัดแล้ว แต่งานนี้เหมือน “พชร์” จะไม่ยอม งานนี้มีโอกาสเจอตัว เลยคว้ามาเคลียร์กันสักหน่อย ซึ่งได้เผยว่า
สำหรับคดียังไม่จบครับ เขาอาจจะคิดว่าจบแล้ว แต่ในทางศาล ในทางเกี่ยวกับคดีศาลยังไม่จบ สัญญายังเหมือนเดิม ยังอยู่ครบเรียบร้อย ไม่มีการยกเลิกอะไรทั้งสิ้น เรื่องสัญญาเรายังไม่ได้มีการฟ้องศาล ที่ฟ้องศาลคือเรื่องหมิ่นประมาทนะครับ เพราะสัญญายังเป็นสัญญาที่ใช้ได้อยู่ ถ้าทำผิดสัญญาเราก็ฟ้อง ในส่วนของหมิ่นประมาทตอนนี้ศาลถึงขั้นตอนซักข้อมูล ว่ามีข้อมูลจริงไหม (ทางฝั่งเขา) พี่ฟ้องเขา เพราะเขาหมิ่นประมาทพี่ ไต่สวน มูลฟ้องเสร็จ แล้ววันที่ 21 มกราคม ศาลก็จะบอกว่ามีข้อมูลจริงไหม เรามั่นใจไหม ว่าศาลจะรับฟ้อง เพราะเขาว่าพี่โกง เบี้ยว เห็นชัดๆอยู่แล้ว เราต้องเรียกร้องศักดิ์ศรีของเรา เรียกร้องความจริงว่าเราไม่ได้โกงเขา
ซึ่งสัญญาโมฆะไม่ได้ คนที่จำทำได้ มันต้องมีการยกเลิกสัญญา และฉีกสัญญา ฉีกสัญญามันต้องมีค่าฉีก แต่เขาคิดว่าของเขาสัญญาโมฆะ คิดไปเอง เพราะเขาไม่มีสิทธิ์ ทนายไม่มีสิทธิ์ทำให้สัญญาโมฆะได้ เพราะสัญญาก็คือสัญญา และที่สำคัญคือ ถ้าเขาคิดว่าเขาสัญญาโมฆะไปแล้ว เลิกไปแล้ว ก็ลองดู เพราะถ้าใครจ้างเขาทำงาน เราก็ฟ้อง เพราะตอนนี้เราฟ้องอยู่ เรากำลังยื่นโนติสให้หนึ่งเจ้าหนึ่ง ไปจ้างเขาทำงาน ซึ่งในสัญญาก็บอกแล้วว่าต้องได้รับความยินยอมจากเรา กำลังทำโนติสยื่นอยู่
ตอนนี้ก็มีคนจ้างเขาไปทำงานแล้วเคสหนึ่ง ก็ลองถ้าใครกล้าจ้าง ก็ลองจ้างดู เราฟ้องเหมือนกัน ฟ้องคนจ้างครับ เพราะผิดสัญญา ในสัญญาก็บอกแล้วว่าต้องได้รับความยินยอมจากเรา สัญญาที่เขาพูดมาว่า หมดแล้ว เป็นการคิดไปเอง จริงๆยังไม่หมด แต่เหลืออีก 3 ปีครับ พ.ค นี้ก็จะเหลือ 2 ปี แหละ ตั้งแต่มีปัญหา เขาไม่มาคุยส่วนตัวกับเรา ไม่มีแม้กระทั่งโทรศัพท์ ไม่มีอะไรเลย มีแต่ได้ยินข่าวว่าจะสู้ จะขายบ้านขายช่องสู้เลย สู้กับพี่อะไรอย่างนี้ จะทำไม่ให้พี่มีที่ยืนในวงการ พี่ก็กลัวๆไม่มีที่ยืนในวงการ เพราะยืนมานานแล้วนะ
ส่วนที่เขายื่นโนติสในส่วนเงินที่เราค้างเขาไว้ อันนั้นไม่ได้ค้างครับ เพราะงั้นเราก็คงไม่ฟ้องศาล ว่าเราโดนว่าหมิ่นประมาทว่าเราโกง เขาคิดไปเองทั้งนั้น เพราะทำงานกันมา 7 ปี ไม่มีคำว่าโกงเลยสักครั้งเดียว พอจะเอาสัญญาคืนปุ้บพจน์โกงเลย เราก็เลยรู้สึกมันไม่ใช่ ถ้าเขาบอกเราโกงเงินเขาตั้งแต่สงกรานต์ ทำไมเขาว่าเล่นหนังหลวงตาให้เราอีกล่ะ ทำไมตอนถ่ายหลวงตา เขาไม่เห็นพูดอะไรเลย ว่าพี่โกงเงิน ก็ถ่ายกันจนจบ และเขาเล่นเป็นคนขาเป๋ด้วย ไม่ได้บังคับ ถ้าบังคับเขาคงไม่ยอมขาเป๋หรอกในเรื่อง พอครั้งจากหลวงตาจบก็จะเอาสัญญาคืน ว่าพี่โกงเลย เขาบอกค่าโปรโมท พอขึ้นศาลเปลี่ยนเป็นค่าเดินทาง ซึ่งตกลงค่าอะไรกันแน่ ไม่ใช่ จริงๆทุกครั้งที่ไปโปรโมท เราจะให้ค่ารถ 1000-2000 เขาเรียกค่ารถค่าขนม แต่อยู่ๆเขามาคิด 10,000-100,000 เราก็งง ตลอดชีวิตที่ทำงานมาด้วยกัน ไม่เคยจ่ายระดับนี้อยู่แล้ว เพราะหนึ่งหมื่น ต้องระดับพวกนางเอก แล้วเขามาเขียนในไอจีไม่เอาแล้ว ยกให้พี่พจน์ไป แล้วทำไมเขายกให้ง่ายๆขนาดนั้นละ ถ้ามันโกงจริง เข้าใจไหม
ซึ่งต้องมีการยกเลิกสัญญาด้วยการจ่ายเงิน โดยเอาเงินมา 3 ล้าน เอามาเลย จะยกให้ เพราะพี่ปั้นเขาว่าใช้เงินเป็น 10 10 ล้านนะ จากค่าตัวที่พี่ให้เขาไป เป็น 10 ล้านกว่า ถ้าน้องเอาเงิน 3 ล้านมาให้ เราก็โอเคยินยอมฉีกสัญญาให้เลย 3 ล้านบาท ไม่งั้นก็มาฟ้องร้องกัน เพราะเราปั้นคนๆหนึ่งใช้เงินเยอะนะน้อง ไม่ใช่พูดว่าทำเงินให้พี่พจน์เยอะแล้ว หนังที่ได้เงิน ไม่ได้ที่เขาเล่นเป็นพระเอก หนังที่ได้เงินคือหลวงพี่เจส 4G หอแต๊วแตกก็ไม่มีเขา หนังที่เขาเล่นเป็นพระเอกเจ๊งครับ
ล่าสุดเขาเปิดตัวแฟนแล้ว อันนั้นเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา เรื่องแฟนเขาบอกพี่มา 2 ปีแล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะมาบอก ชื่ออะไรนะ แตงโม ส่งไลน์มาหาพี่ พี่พจน์ค่ะ นิกมาจีบหนู พี่พจน์มีความคิดเห็นว่าอะไร อันนี้เรื่องจริง เราก็บอกว่าแล้วแต่พวกหนูละกัน อย่าให้พี่ไปเกี่ยวข้อง พี่ไม่อยากยุ่ง เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา พี่ก็โทรไปถามอีกคนนึง ว่าจริงไหม เขาก็บอกผมรักของผม ผมจะทำยังไงได้ แต่เรื่องนี้เกิดมา 2 ปีแล้ว มันไม่ได้เพิ่งเกิด ไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นเรื่องเก่า เราพยายามไม่คุยเรื่องนี้กัน เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา เรื่องนี้ไม่มีส่วนทำให้เกิดปัญหา เขาจะไปมีอะไรกับใคร ก่อนหน้านั้นก่อนที่จะมีแตงโม เขาก็มีคนอื่นนะ ตอนเข้าวงการใหม่ๆ เขาก็มีแฟนคนนึง เราไม่ได้สนใจเรื่องส่วนตัว เราเล่าให้ฟัง เพราะเราไม่เคยห้าม เพราะเดี๋ยวคนบอกว่าไปห้ามเขามีแฟนเป็นผู้หญิง ไม่เคยห้าม เพราะตลอดเวลาที่เข้าวงการเขามีแฟนตลอด เราก็รู้