“แบงค์ ธิติ” โต้ซุ่มกิ๊ก “พิมฐา” แจงหลังถูกโฟกัสรูปนั่งอ้าขา
ไม่ได้มีการซุ่มกิ๊กกันแต่อย่างใดแม้จะถูกจับตามองถึงสถานะความสัมพันธ์กันก็ตาม สำหรับคู่ของ “แบงค์ ธิติ มหาโยธารักษ์” กับ “พิมฐา ฐานิดา มานะเลิศเรืองกุล” ล่าสุดเมื่อเจอ “แบงค์ ธิติ” เจ้าตัวก็ได้ออกมาเผยเรื่องนี้พร้อมแจงหลังถูกโฟกัสรูปนั่งอ้าขาให้ฟังด้วยว่า
ตอนนี้โสดก็ทำงานค่อนข้างที่จะมีงานเยอะเหมือนกัน เพราะละครเรื่องใหม่เพิ่งจะเปิดกล้องด้วย ส่วนตัวรู้สึกดีที่ได้พูดไป เพราะเขาจะได้รับรู้ในฝั่งของอีกคนหนึ่งด้วยและสถานะของเราด้วย กับฟีดแบ็คก็มีดูบ้าง คือมันก็จะมีฟีดแบ็คกลับมาให้เห็นอยู่เหมือนกันทางทวิตเตอร์ โดยที่ได้ออกมาพูดเรื่องเลิกกับแฟน มันเลยทำให้ “พิมฐา” ถูกมองว่าเป็นมือที่สามจริงๆ ไม่ใช่แต่ที่มันมีฟีดแบ็คนี้เกิดขึ้นก็เป็นเพราะเราสองคนได้มีโอกาสไปถ่ายรายการด้วยกัน ชื่อรายการว่า “ป๋าซ่าพาซิ่ง” เลยมีคนที่เขาจิ้นตามรูปแบบของรายการ ซึ่งกับอีกฝ่ายก็สนิท เพราะพอได้ไปถ่ายรายการด้วยกัน ได้ใช้ชีวิตอยู่ถือว่าเขาเป็นเพื่อนอีกคนหนึ่ง รับได้มีคุยกันเรื่องข่าวบ้าง คือตนไปบอกเขาว่ามันอาจจะมีอะไรพวกนี้นะ และก็ขอโทษเขาด้วยที่ทำให้เขาซวย ซึ่งเขาก็เข้าใจไม่ได้เครียด และมีการรับมือกับข่าว คือจะมีกลุ่มไลน์ที่คุยกันอยู่แล้วเป็นแก๊งป๋าซ่าพาซิ่งพอมีข่าวแบบนี้ออกมา พ่อๆ ทุกคนก็ช่วยกันบอกว่าไม่เป็นไรนะอย่างนั้นอย่างนี้ และตนก็บอกเขาไปเหมือนกันว่าถ้าช่วงนี้มันมีข่าวอะไรออกมาก็อยากให้ใช้สติในการอ่านนิดหนึ่ง เพราะโลกโซเชียลมันเป็นโลกที่ใครๆ ก็สามารถแสดงความเห็นได้ ไม่ว่าความเห็นนั้นมันจะแรงขนาดไหนหรือกระทบกับจิตใจขนาดไหน เนื่องจากเขาไม่ได้รับรู้หรอกว่าการที่คอมเมนต์ไปแล้วจะรู้สึกยังไง ฉะนั้นสิ่งที่ทำได้แค่รับมา สิ่งไหนที่เราสามารถนำมาปรับปรุงแก้ไขตัวเอง และทำให้ตัวเราดีขึ้นได้เราก็จะรับ รวมถึงนำมาพิจารณาอีกทีหนึ่ง โดยอีกฝ่ายปกติก็ไม่ค่อยได้เจอกันอยู่แล้ว จะมีแค่ไปกินข้าวกับแก๊งพ่อๆ คือตนรู้สึกว่าเป็นแค่เพื่อนที่เคยมีโอกาสได้ร่วมงานกันมากกว่า กับประเด็นที่พอโสดทั้งคู่คนก็เลยยิ่งจับตามองเป็นพิเศษก็อาจจะเป็นเพราะเรื่องนั้นด้วย โดยไทม์ไลน์ความโสดส่วนตัวก็ไม่ค่อยรู้เรื่องของเขา แต่สำหรับเรื่องของตนก็เหมือนกับที่เคยสัมภาษณ์ไปว่ามันเป็นช่วงก่อนปีใหม่ ก่อนวันเกิด ซึ่งค่อนข้างที่จะเป็นระยะเวลาที่นานแล้ว โดยหากมีไปเที่ยวปาร์ตี้แฮงค์เอาท์ก็ไปเที่ยวแบบเป็นกลุ่มๆ กับเพื่อนที่รู้จักครับ เพราะเพื่อนของเขาก็รู้จักกับตนเหมือนกัน รวมถึงยังมีแก๊งป๋าซ่าพาซิ่งและทีมงานรายการที่เราไปทานข้าวด้วยกันอีก แต่ถ้าไปกันสองคนไม่มีแน่นอน ขำๆ คนฝั่งที่มีเชียร์ก็ไม่รู้ ตอนนี้ตนยังไม่รู้อนาคตเหมือนกัน ขอทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก่อนดีกว่า ตอนนี้ยังไม่พร้อมดูแลใครขอคุยกับตัวเองก่อนละกัน ถามว่ากังวลไหมว่าตอนนี้ตอบแบบนี้แต่อนาคตอะไรมันอาจจะเกิดขึ้นได้ ก็ใช่ เพราะไม่สามารถรู้อนาคตได้อยู่แล้วว่าจะไปคุยกับใคร หรือจะไปมีความสัมพันธ์ที่มันพัฒนาไปอย่างไร ก็ตอบไม่ได้อยู่แล้ว ก็อยากให้มันเป็นเรื่องของอนาคตมากกว่า ย้ำชัดกับ “พิมฐา” คือเพื่อน
ส่วนที่ถูกโฟกัสรูปนั่งอ้าขาก็ไม่ได้ตั้งใจ เรื่องอะไรพวกนี้มันอยู่ที่คนจะมองมากกว่า แต่ที่ลงรู้สึกว่ามันเป็นธรรมชาติและท้องฟ้ามันก็สวยดี จริงๆ ก่อนที่จะลงก็ได้ซูมดูของตัวเองแล้วว่ามันมีอะไรเล็ดลอดหรือเปล่า ซึ่งทุกอย่างก็โอเค แต่ไม่รู้จะห้ามอย่างไรเหมือนกัน ก็ไม่ได้ตั้งใจให้มันลงไปในทิศทางนั้น หากคนจะโฟกัสกัน ทั้งนี้มีโรคจิตทักเข้ามาตนเคยเข้าไปเช็กใน Direct Instagram เหมือนเขาบอกประมาณว่า ถ้าหากพี่แบงค์เรียกชื่อเขา เขาจะถอดเสื้อให้ดู เหมือนเขาอยากให้เราตอบกลับ แต่ตนไม่ได้ตอบก็เจอแค่นี้ไม่ได้ถึงขั้นมาเดินตามหรือทำอะไรแปลกๆ และบางอย่างที่เจอคงไปห้ามความคิดเห็นของคนอื่นไม่ได้อยู่แล้ว จึงมองว่าถ้ามันมีฟีดแบ็คแบบนี้มาก็แค่ต้องระวังตัวในการโพสต์รูปมากขึ้น แต่อย่างที่ตนบอกว่าลงไปไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้ว