รีวิว : “ไทบ้าน X BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้”
เปิดจักรวาลใหม่ ปลาดิบ VS ปลาแดก แต่บทโดดจน ร้อง อิหยังวะ!?
คะแนน 6/10
“อย่าให้เสียงของคนอื่น มากลบเสียงในใจเรา” ไทบ้าน กล่าว
“ข้างนอกคือสิ่งใหม่ที่เราต้องเรียนรู้” BNK48 กล่าว
เมื่อกล่าวถึง BNK48 นาทีนี้ คงไม่มีใครบอกว่าไม่รู้จักแน่นอน เพราะสาวๆ ไอดอลเหล่านี้ ได้ฝังตำนานวงการเพลงไทย ด้วยเพลง “คุกกี้เสี่ยงทาย” เมื่อ 2 ปีก่อนจนดังเป็นปรากฏการณ์ หลังจากนั้นเราก็ได้เห็นผลงานสาวๆ กลุ่มนี้ในภาพยนตร์ไทยอีกหลายเรื่องตามมา ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ไทยแนวสารคดีเรื่อง “BNK48: Girls Don't Cry” ที่กำกับโดย “เต๋อ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์” ซึ่งเป็นความร่วมมือกับ บริษัท แซลมอน เฮ้าส์ และค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง GDH 559 ก่อนที่จะส่งหนังที่แฝงไปด้วยนัยยะทางสังคมการเมืองอย่าง “Where We Belong ที่ตรงนั้น มีฉันหรือเปล่า” ที่นำแสดงโดย “เจนนิษฐ์ โอ่ประเสริฐ” และ “มิวสิค แพรวา สุธรรมพงษ์” โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง สไลด์เดอร์ แคท กับ ซอง ซาวด์ โปรดักชั่น และจัดจำหน่ายโดย ซีเจ เอ็นเตอร์เทนเมนต์
หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดการรีแบรนด์ขึ้นจากบีเอ็นเคโฟร์ตีเอต ฟิล์ม เปลี่ยนชื่อใหม่กลายมาเป็น ไอแอม ฟิล์ม พร้อมสร้างความประหลาดใจให้กับเหล่าแฟนๆ โอตะ โดยผลงานเรื่องใหม่นี้ได้รับความร่วมมือจาก ไทบ้านเดอะซีรีส์ ผลงานสุดฮิตจากทางฝั่งอีสาน ซึ่งเป็นของบริษัท เซิ้ง โปรดักชั่น แอนด์ ออแกไนเซอร์ และจัดจำหน่ายโดยค่ายใหญ่อย่าง สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะได้รับทั้งความรู้จากทางทีมงานผู้เชี่ยวชาญ และเป็นการขยายตลาดให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
“ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้” ยังคงได้รับ “สุรศักดิ์ ป้องศร” ผู้บุกเบิกซีรีส์ภาพยนตร์ไทบ้านทั้ง 3 ภาค มานั่งแท่นผู้กำกับ พร้อมด้วยชุดนักแสดงจาก ไทบ้าน เดอะซีรีส์ เช่น “จ่าลอด (ณัฐวุฒิ แสนยะบุตร), มืด (ธนาดล บัวระบัติ), ครูแก้ว (ธันวาพร นาสมบัติ) และก้อง ห้วยไร่ (อัครเดช ยอดจำปา)” ศิลปินเลือดอีสานเจ้าของบทเพลง “ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน” มาร่วมแสดงกับน้องๆ จากวง BNK48 ทั้ง 8 คน ซึ่งประกอบไปด้วย “เนย (กานต์ธีรา วัชรทัศนกุล), แก้ว (ณัฐรุจา ชุติวรรณโสภณ), โมบายล์ (พิมรภัส ผดุงวัฒนะโชค), น้ำหนึ่ง (มิลิน ดอกเทียน), ไข่มุก (วรัทยา ดีสมเลิศ), น้ำใส (พิชญาภา นาถา), ตาหวาน (อิสราภา ธวัชภักดี) และปูเป้ (จิรดาภา อินทจักร)” และนอกนี้ยังมี “จ๊อบซัง (ณัฐพล บวรวัฒนะ)” ผู้จัดการวงเกิร์ลกรุ๊ป BNK48 ร่วมแสดงด้วย
เนื้อเรื่องเริ่มจาก เมื่อในยุคปัจจุบันเพลงทำนองหมอลำ อีสาน ได้รับความนิยมอย่างมาก ทำให้วง BNK48 ที่ยึดถือการทำเพลงตามแบบฉบับบริษัทแม่ ที่เป็นบริษัทจากประเทศญี่ปุ่นเริ่มเสื่อมความนิยมลง เพื่อกู้วิกฤตของวงที่กำลังเสื่อมความนิยม “จ๊อบซัง” ได้ลองเสี่ยงที่จะริเริ่มโปรเจ็คท์ลับขึ้น โดยการส่งให้น้องๆ BNK48 ทั้ง 8 คนต้องไปทำเพลงหมอลำ ซึ่งจ๊อบซังก็ได้จ้างวาน “เจ๊ก้อง ห้วยไร่” ศิลปินชื่อดังแอ๊บแมนที่กำลังมีหนี้สินจำนวนมหาศาล มาช่วยเหล่าน้องๆ BNK48 ทั้ง 8 ทำเพลงอีสานขึ้นมา เจ๊ก้อง ห้วยไร่ จึงงัดไม้เด็ดเพื่อให้ น้องๆ ทั้ง 8 คน ได้ศึกษาวิถีชีวิตและการร้องเพลงอีสานแบบต้นกำเนิดอย่างแท้จริง จึงได้พาน้องๆ ทั้ง 8 คน ไปฝึกฝนเส้นทางสู่การเป็นราชินีเพลงหมอลำที่จังหวัดบ้านเกิดของตนเอง ทั้งนี้ก็ยังได้ “จ่าลอด” และน้องชายอย่าง “มืด” แห่งไทบ้านมาเป็นผู้ช่วยในการสอนน้องๆ BNK48 ทั้ง 8 คน ในการทำเพลงอีสานอีกด้วย หลังจากนี้ก็จะเป็นเรื่องราวของไอดอลลูกคุณหนูจากเมืองกรุง ต้องมาเรียนรู้ชีวิตความลำบากจากบ้านนอกเพื่อซึมซับวิถีชีวิตของคนอีสาน และรังสรรค์บทเพลงท่วงทำนองอีสานที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณของพวกเธอ ที่ผสมผสานกลมกล่อมเข้ากับวิถีชาวบ้านแบบอีสานแท้ๆ ขึ้นมา กลับได้พบกับความ “โดดดิด่ง”
แต่เมื่อได้ชมนาทีแรก ที่หนังปูทางให้สาวๆ BNK48 ที่ต้องเปิดรับสิ่งใหม่ๆ หนังทำออกมาได้สนุกสนาน ชนิดที่ว่า ถ้าเป็นโอตะจะฟินจะจิกเบาะ ทั้งในส่วนนักแสดง ที่ตัวหนังเอง เกลี่ยบทบาทให้ได้มีซีนเป็นของตัวเอง จนเกือบทุกคน (แอบเสียดาย ตาหวาน และ น้ำใส ที่น่าจะได้ซีนมากกว่านี้) ในส่วนกลุ่มฝั่งไทบ้าน ถือว่าดีมาก จนกล้าการันตีได้ว่า ถึงแม้คุณไม่ได้เป็นแฟนไทบ้าน เมื่อได้ดูหนังเรื่องนี้ คุณจะต้องควานหาไทบ้าน เดอะซีรีส์ ทั้ง 3 ภาคมาดูแน่นอน
อีกตัวละครที่พูดถึงไม่ได้ คือ “เจ๊ก้อง” รับบทโดย “ก้อง ห้วยไร่” ถ้านี่คือส้มตำจานเด็ด บทบาทเจ๊ก้อง คือมะนาวเปรี้ยวๆ แท้จริง ความสนุกพาคนดูได้อยู่หมัด เมื่อได้ยินเสียงซาวนด์เพลง “โดดดิด่ง” จนอยากดูไปและเพิ่มระดับความคาดหวังได้อยู่หมัด จนเมื่อเข้าถึงครึ่งหลัง “จากใจผู้สาวคนนี้” ถือว่าเป็นการโชว์ศักยภาพการแสดงของ “เนย” และ “แก้ว” อย่างชัดเจน (ยิ่งทำให้รู้ว่าเหล่าสาวๆ วงนี้มีของจริงๆ) แต่อนิจจา หนังดันเดินเรื่องไปต่อแบบให้คนดูลุ้นแบบงงๆ ไปไม่สุดสักทาง ซาวนด์เพลงที่เคยตื่นเต้น เดี๋ยวเริ่มกลับมามีหวัง แต่ก็หักมุมอีก จบแบบเหมือนจะสร้างความประทับใจ แต่ทำไมมันกลายเป็น “ทำให้อยากแล้วจากไปมากกว่า”
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ในมุมมองของนักดูหนัง ถ้าจะบอกว่าหนังแย่มากก็คงไม่ใช่ แค่บทมันเป็นจังหวะโดดดิด่งมากจนเกินไปจนคนดูไม่อิน แต่ถ้าเรื่องเสน่ห์นักแสดงบอกได้เลยว่า ดีงามทุกตัวละคร แม้แต่ “จ๊อบซัง” ยังเล่นดี บริษัท บีเอ็นเค48 กรุ๊ป นี่ไม่ธรรมดาจริงๆ นะเออ
โดยรวมหลังหนังจบต้องบอกว่า ไทบ้าน x BNK48 อาจไม่ได้เป็นหนังดีที่สุด แต่ในด้านความสนุกครบรส หนังเรื่องนี้จัดว่าคุ้มค่า ยิ่งถ้าคุณเป็นแฟนๆ ของไทบ้าน คุณจะโดนสาวๆ กรุ๊ปนี้ “ตก” ได้ไม่ยาก และถ้าคุณคือ โอตะ BNK48 คุณจะอยากหาไทบ้านมาดูโดยฉับพลันเช่นกัน ซึ่งอย่างน้อยเราก็ได้ค้นพบแล้วว่า “ปลาดิบ VS ปลาแดก” ถึงมันจะรสชาติโดดๆ จนร้องโดดดิด่ง ยังไง มันก็ยังแซ่บ ม่วนกุ๊ก ม่วนหลาย ได้เด้อ
สุดท้ายนี้ “ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้” จะดีหรือแย่อย่างไร ก็อยากจะแนะนำให้ลองเข้าไปสัมผัส และตัดสินภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยตนเอง
