“กิ่ง เหมือนแพร” ไม่หวั่น! ถูกปลอมเฟซบุ๊กหลอกขอเงิน หลังทำเพจช่วยเหลือสุนัข
ล่าสุดออกมาทำโครงการ “หมอหมาใจหล่อ ส่งต่อความรักให้หมาจร” สำหรับนักร้องสาว “กิ่ง เดอะสตาร์” หรือ “กิ่ง เหมือนแพร พานะบุตร” งานนี้มีโอกาสเจอเจ้าตัว เลยไม่พลาดที่จะคว้ามาอัปเดตสักหน่อย พร้อมเล่าเหตุการณ์ที่เคยถูกแอบอ้างนำชื่อไปขอเงินด้วย ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า
อ่านข่าวต่อ
ทำความรู้จัก “กิ่ง เหมือนแพร” จากเวที The Star สู่แชมป์ The Mask
ตอนนี้กำลังทำโครงการ “หมอหมาใจหล่อ ส่งต่อความรักให้หมาจร” ซึ่งเราได้มีโอกาสไปร่วมงานนี้ เพราะเราก็เป็นคนที่เลี้ยงสุนัขรักสุนัขอยู่แล้ว เราเห็นโครงการนี้มา 3 ปีแล้ว เลยมีพี่ๆ ใจดีชวนเราไปร่วมโครงการ เรายินดีมากที่ได้ไป ซึ่งในวันที่เราไปเป็นวันที่เขารับบริจาคด้วยการโหวตน้องหมอ แล้วก็เปลี่ยนไปเป็นอาหารหมาให้กับหมาจร เราก็ได้พาน้องหมาเราไปด้วย ก็เป็นกิจกรรมที่น่ารัก และได้ก็ช่วยเลี้ยงน้องหมาตามสถานสงเคราะห์ต่างๆ
เราได้โพสต์ข้อความไปทางแฟนเพจ ทางอินสตาแกรม ก็มีคนที่เขาสนใจเรื่องน้องหมาเยอะ โครงการนี้เป็นโครงการที่น่ารัก เราไม่ได้ให้เงินตรงๆ ซึ่งเราทุกคนสามารถเข้าไปกดไลค์ในกับการโหวตมันจะแปรเปลี่ยนเป็นอาหารสุนัข แล้วในระยะ 3 ปีที่ผ่านมา เขาได้มูลค่าของอาหารที่ให้น้องหมามากกว่า 5 ล้านบาท กระแสตอบรับออกมาดี ก็คงจะมีต่อไปเรื่อยๆ
ส่วนเรื่องคนแอบอ้างเราไปขอรับบริจาค อันนี้มีทุกกรณีจริงๆ ในทุกเพจที่เรี่ยไรต่างๆ คือต้องเช็กกันให้ดีๆ บางทีพวกมิจฉาชีพมาเล่นกับความสงสารของคน ถ้าใจอยากจะบริจาคจริงๆ ก็ไม่ผิดหรอกแต่แค่ตรงสอบถามดีๆ ถามเรากลัวคนมาแอบอ้างไหม มันคงไม่ถึงขนาดนั้น อยากให้ตรวจสอบให้ดีก่อนก่อนที่จะตัดสินใจ เพราะในตอนนี้มีคนนิสัยไม่ดีเยอะยิ่งในโซเชียล มันทำกันได้ง่าย ทุกคนสามารถสร้าง Account ขึ้นมากันได้ มันก็เลยเสี่ยงต่อการที่จะโดนหลอกได้ง่ายๆ
ก่อนหน้านี้เราเคยมีแฟนคลับจากทางเฟซบุ๊ก ทักไปหาน้องเขาบอกว่าเป็นเรา คุยกันเป็นเรื่องเป็นราวให้โอนตังค์ซื้อโน่นซื้อนี่ มีทุกรูปแบบแต่ว่าก็โชคดีที่น้องเราทักเรามาโดยตรงก่อน หรือแม้แต่เป็นใครก็ไม่รู้ทักมาหาเรา บอกว่ามีปัญหา ซึ่งเราไม่รู้ว่ามันจริงไหม คือเราอยากช่วยแต่ดูแล้วเราว่ามันไม่น่าใช่ เราก็บอกประมาณว่าจะไปสร้างชมรมเกี่ยวกับเด็กอยากจน พอเราขอดูรายละเอียดเขาก็เงียบหายไป
เราว่าทุกวันนี้มันง่ายมากที่เราจะโดนมิจฉาชีพหลอกในโซเชียล แม้แต่ข่าวปลอมหรืออะไรต่างๆ มันก็มีเยอะมาก ก็อยากให้เสพสื่ออย่างมีสติ แล้วก็โซเชียลมีเดียที่อยู่ในมือเราให้เป็นประโยชน์ที่สุด ถ้าเกิดว่ามันได้ช่วยเหลือคนจริงๆ มันก็เป็นประโยชน์ที่ดี เป็นกุศลที่ดีอยู่แล้ว ถ้าเกิดเราไม่ตรวจสอบให้ดีๆ บางทีเราก็อาจจะมาเสียความรู้สึกเองที่เรามีจิตใจที่อยากจะช่วยเหลือแต่สุดท้ายมาโดนหลอก หรือแม้คนที่คิดจะใช้ช่องทางนี้ในการทำมาหากินไม่ดีหรอก