“ป้อน นิพนธ์” แจงหลังดึง “ธงชัย” ร่วมงานช่องวัน ตอบแล้วในฐานะอะไร
หลังจากเป็นประเด็นอยู่พักหนึ่งเมื่อผู้จัดฝีมือดีแห่งค่ายพอดีคำ "ธงชัย ประสงค์สันติ" ได้ข้ามช่องมาซบช่องวันแน่นอนพร้อมกับตั้งโต๊ะแถลงข่าวแล้วไปแล้ว ล่าสุดเจอบิ๊กบอสของช่องวัน อย่าง "ป้อน นิพนธ์ ผิวเณร" เลยให้เจ้าตัวแจงถึงเรื่องนี้ว่า
อ่านข่าวต่อ: “ธงชัย ประสงค์สันติ” เปิดใจ ข่าวลือย้ายช่อง 7 ซบช่องวัน
สำหรับเรื่อง “ธงชัย ประสงค์สันติ” ที่เข้ามาช่องวันในฐานะพาร์ทเนอร์ของคอนเทนต์ ผมอธิบายอย่างนี้ว่าเรามีความต้องการตรงกัน ทางช่องวันต้องการขยาย เรามีหลายเรื่องที่ต้องทำ เรามีทั้งทีวี มีแพลตฟอร์มอื่น มีเธียเตอร์ มีเพลงต่างๆ นานา ซึ่งเราต้องขยาย คำว่าขยายก็คือว่าในสงครามคอนเทนต์ทุกวันนี้ 1 คอนเทนต์มันต้องสปินในหลายๆ เรื่องนะ ละครหนึ่งเรื่องจะไปอยู่ในหลายๆ แพลตฟอร์ม และโลกวันนี้ก็แคบลง ดังนั้นเราต้องการคนทำเยอะมากๆ เพราะเรามีสิ่งที่จะทำเยอะเหลือเกิน และเป็นความต้องการที่ตรงกันของพี่ธงและคุณไท แผ่นดิน ประสงค์สันติ ของค่ายคำพอดี เพราะเขาเองก็อยากจะขยายในสิ่งที่เขาทำอยู่ และเขาอยากทำหลายๆ เรื่องที่เขายังไม่ได้ทำ ความต้องการที่สองส่วนตรงกันพอดีทั้งช่องวันและคำพอดี ก็เลยทำงานร่วมกัน
กับเงื่อนไขการร่วมงานเราคุยกันอยู่แล้ว คุยว่าไดเร็คชั่นที่เขาต้องการคืออะไร ได เร็คชั่นที่เราต้องการคืออะไร มันลงตัวได้หรือเปล่า ส่วนใหญ่เป็นเรื่องทิศทางของการพัฒนาองค์กรไปข้างหน้ามากกว่า เราเห็นว่าทีวีทุกวันนี้มันไม่ได้แสตนด์อโลน ก็หมายความว่าคุณต้องมีแพลตฟอร์มอื่น ไม่ว่าจะเป็นออนกราวด์ก็ดี ออนไลน์ก็ดี หรือว่าจะเป็นอื่นๆ อีกเยอะมากมาย แล้วแต่ว่าแพลตฟอร์มจะมีขึ้น ดังนั้นในโลกข้างหน้าทีวีกับแพลตฟอร์มอื่นๆ มันจะต้องมีบทบาทผสมผสานไปด้วยกัน นั่นคือเรามองข้างหน้าไปด้วยกัน เพราะเราคิดว่ามีทีวี มีออน ไลน์ มีแพลตฟอร์ม มีโอทีที มีละครเวที มีเพลง บางทีในหนึ่งคอนเทนต์มันต้องไปทั้งหมด มันเป็นยุค Omni-Channel แต่ในหนึ่งอันคุณต้อง generated content ไปให้ไกลที่สุดตามแพลตฟอร์มที่มันเกิดขึ้นมาตามสมัยใหม่ และสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ผมได้คุยกับพี่ธงและตรงกันว่าเราควรจะไปด้วยกัน นั่นคือประเด็นมากกว่า
จะบอกว่าผมน่ะบ้านอยู่ติดกับพี่ธง แล้วก็เลยได้เจอกันบ่อย แล้วก็เคยกำกับพี่ธงตอนแสดงด้วย ก็เลยได้รู้จักกับไท ก็คุยกันตามประสา กินข้าวกันไป เราก็เลยถามว่าอยากทำแบบนี้ไหม เพราะไทเขาก็เป็นเด็กรุ่นใหม่ เขาก็มีความคิดที่เขาจะก้าวหน้ามาก เพราะเขาจบอเมริกามา จบซีน เราก็เลยคิดว่าเรามาทำอะไรดีๆ ร่วมกันไปข้างหน้ามั้ย อย่างที่คุณบอย ว่าเรามีทั้ง old value และ new value หมายความว่าวัฒนธรรมหรือข้อความคลาสสิคของคนไทยมีทั้งรุ่นพ่อและรุ่นลูก จะทำยังไงถึงจะไปด้วยกัน เราคุยเรื่องนี้กันหลายตรง ถึงได้เห็นว่าทางเดินสิ่งที่เราจะไปข้างหน้ากับคำพอดีเป็นทางเดียวกัน ก็เลยตกลงทำด้วยกัน ตอนนั้นเขามีคำถามว่าเขาคิดว่าเขาจะขยับขยาย ผมก็เลยบอกว่าถ้าจะขยายก็มาขยายที่นี่สิ คือผมก็บอกว่าพี่จะเอายังไงก็ได้ เขาก็เลยบอกว่าตอนนี้พี่ธงไปทำหนังบัฟฟาโล่ ฟิล์ม ส่วนละครส่วนใหญ่ก็จะให้ไททำ และมีคนรุ่นใหม่อีกเต็มไปหมดเลย ดังนั้นเขาจะทำยังไงดี ผมก็บอกว่าแล้วแต่เลย ยังไงก็ได้หมด เพราะว่ามันมีคนที่เราต้องการอีกเยอะ ละครอีกเยอะมาก ล็อตใหม่ทำยังไงก็ไม่มีทางทัน ก็ลองดูว่าถ้ามาได้หมดเลยก็ได้หมดเลย แล้วแต่
ตอนที่ดีลกันผมถามชัดเจนเลยว่าพี่ต้องเคลียร์นะ เพราะผมไม่ชอบเป็นชู้ อย่างนักแสดงที่เราดีล ผมก็จะถามตลอดว่าคุณอยู่ในสัญญาหรือไม่ ถ้าคุณอยู่ในสัญญาผมคุยไม่ได้ มันผิด เพราะถ้าเกิดใครมาทำกับเราแบบนี้เราก็เจ็บ เราจะไม่ทำสิ่งนี้ ก็เลยถามว่ามันเป็นยังไง เขาก็บอกว่าได้เคลียร์กับทางช่อง 7 แล้ว เขากำลังหาวิธีที่เขาจะทำยังไงกับบริษัทใหม่ กับลูก กับแพลต ฟอร์มใหม่ๆ กับความโมเดิร์นและอินเตอร์ของลูก และทีมงานต่างๆ ผมก็เลยบอกว่าถ้างั้นก็คุยกันได้ เราก็เลยคุยกันและตกลงร่วมกัน จริงๆ คุยกันนานแล้ว แต่มันเป็นเรื่องในบ้านของคนอื่น เราไม่ควรพูดถูกไหม แต่ผมก็ตรงๆ อยู่แล้วก็ถามเลยว่าเป็นยังไง เขาก็บอกว่าเขาเคลียร์กับทางช่อง 7 แล้ว ผมก็ถามต่อว่าพี่จะทำยังไง จะไปแบบไหนยังไง เราก็มีโร้ดแม็พของเราอยู่ ก็คิดว่าปีนี้ ปีหน้า และปีมะรืนมันเป็นปีที่เราต้องบุกเรื่องคอนเทนต์นะเราจะทำเฉยๆ ไม่ได้ มันเป็น content war มันต้องสู้ ต้องไปข้างหน้า
ส่วนข่าวลือว่าข้อเสนอรวมถึงตัวเงินที่เรายื่นให้เขาเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เขามา จริงๆ ไม่เลย เราไม่ได้รวยขนาดนั้น ผมคิดว่าเราต้องตรงไปตรงมา ผมชัดเจนว่าค่าผลิตต่อตอนมันต้องเป็นสแตนด์ดาร์ด หมายความว่าต้องมีเอ บี ซี เรื่องใหญ่มันก็มี market cap ของมันว่าเรื่องนึงเท่าไหร่ มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่เราจะทำให้เขาได้เยอะกว่าคนอื่น และในบ้านก็ตายสิ มีคนลาออกหมด บริหารจัดการไม่ได้ เพียงแต่ว่ามันต้องแฟร์ และแบออกมาให้ดูว่าแต่ละอันเป็นยังไง ผมคิดว่าข้อเสนอที่ทำให้ตกลงร่วมกันมันเป็นอนาคตข้างหน้า คือเรารู้แล้วว่าทีวีเป็นส่วนหนึ่ง แล้วแพลตฟอร์มอื่นๆ มันกำลังมาแรงมาก ดังนั้นเราจะทำยังไงให้ทีวีและแพลตฟอร์มอื่นๆ มันไปด้วยกัน ผมคิดว่านั่นคืออนาคตที่เรามอง และคุณไทก็มีความเป็นคนรุ่นใหม่อย่างมาก เราก็เลยคิดว่าถ้าอย่างนั้นเราจับมือไปด้วยกัน นั่นคือสัญญาที่เราคุยกัน
ถามว่าพี่ธงจะเป็นพาร์ทเนอร์ประจำหรือเป็นพาร์ทเนอร์ฟรีแลนซ์ อันนี้ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะประจำ แต่ตอนนี้ไปๆ มาๆ ผมว่ามันเยอะมาก พอมันเยอะมากผมก็เลยบอกว่าคงต้องทำกันประจำ นี่คือสิ่งที่คุยกัน ก็ต้องไปคุยกันต่อ แต่ได้คุยกันในเชิงความเห็นร่วมกันว่าเป็นอย่างนี้ดีกว่ามั้ย เพราะจริงๆ แล้วมันไม่ได้หมายความว่าเราห้ามๆ แต่สิ่งที่เราทำอยู่มันไม่ใช่แค่ละคร คุณมีเธียร์เตอร์ คุณมีเพลง คุณมีอื่นๆ แล้วมันหมุนรวมกันไปหมด ในหนึ่งคอนเมนต์มัน Spin ไปหลายแพลตฟอร์ม ดังนั้นถ้าคิดแล้วมันไม่ครบตำแหน่งของมัน ผมว่ามันจะลำบาก และข้อที่สองคือมันมีละครเยอะมากที่ต้องการ ผมก็คิดว่าเขาไม่น่าจะว่าง
ผมเคลียร์ชัดเจน เคลียร์กับต้นสังกัดเดิมว่าไม่มีอะไร ผมก็จะได้เดินหน้าต่อ ซึ่งก็เข้าใจได้และยินดี และดีใจมากที่เราได้คุยโรดแมปร่วมกันในการพัฒนาไปข้างหน้าไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์ใดๆ ก็แล้วแต่ ผมคิดว่าโลกมันเล็กลง แล้วพอเราทำอะไรอย่างนึงเราก็ต้องคิดถึงสื่อหรือมีเดียหรือแพลตฟอร์มอื่นๆ ด้วย นั่นคือสิ่งที่เรามองอยู่