“แอฟ” ได้รับบทเรียน หลังผิดสัญญา “น้องปีใหม่”
เป็นคู่แม่ลูกคู่ขวัญของแฟนๆ และสื่อมวลชนอีกคู่ สำหรับคุณแม่คนเก่ง “แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ” กับลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน “น้องปีใหม่ เอวาริณ เตชะณรงค์” ที่พักหลังมานี้เมื่อ “น้องปีใหม่” เติบโตขึ้นก็มีโอกาสออกงานคู่คุณแม่อยู่บ่อยๆ แถมยังฉายแววมีโฆษณาออกมาให้ได้ติดตามต่อเนื่อง บ่งบอกถึงพัฒนาการที่ดี และความสามารถรอบด้านของสาวน้อยคนนี้ โดยอีกหนึ่งความสามารถของ “น้องปีใหม่” ที่หลายคนที่ติดตามได้เห็นกันก็คือ การเต้นบัลเลต์ ที่ทาง “แอฟ” ก็ได้โพสต์อัปเดตให้ได้เห็นบ่อยครั้ง
อ่านข่าวต่อ : "แอฟ" ลั่นไม่เคยให้ใครรอเก้อ หลังชาวเน็ตแขวะ "สงกรานต์-แมท" เที่ยวจนลืม "ปีใหม่"
ล่าสุด “แอฟ” ก็ได้เผยเรื่องการซ้อมเต้นครั้งใหญ่ของ “น้องปีใหม่” อีกครั้ง แต่ครั้งนี้มีเรื่องราวที่เป็นบทเรียนในฐานะคุณแม่ครั้งใหญ่ เมื่อ “แอฟ” ผิดสัญญาที่ให้ไว้กับลูกสาว โดยเผยว่า “บทเรียนจากลูกน้อย เหตุเกิดวันซ้อมบัลเล่ต์ เป็นการขึ้นแสดงครั้งแรกในชีวิตของหนูปีค่ะ ปีใหม่ตั้งใจมาก ซ้อมมาสามอาทิตย์โดยตกลงกันว่า "ห้ามหม่ามี๊ดูนะคะ" ขอเป็นความลับจนกว่าวันแสดงจริง แม่ก็ปฏิบัติตามนั้นค่ะ สองอาทิตย์แรกพาไปส่ง ซ้อมเสร็จค่อยกลับไปรับ คุณตาคุณยายเฝ้าค่ะ พอวันซ้อมใหญ่ แม่ก็อารมณ์ตื่นเต้นไปด้วย พอไปส่งก็ตั้งใจกลับเลย เดี๋ยวคุณตาคุณยายตามมาเฝ้าเช่นเคย ส่งเสร็จระหว่างทางเดินออกเจอผู้ปกครองหลายท่าน ทุกคนก็ถามว่าจะไปแล้วเหรอ พอหลายๆคนทัก เอ๊ะ ชักใจไม่ดี ถามตัวเอง นั่นสิ เราจะไปเหรอ พ่อแม่ทุกคนอยู่ ถ้าลูกมองลงมาไม่เจอแม่เหมือนคนอื่นคงเสียใจ ถ้าเรากลับไปต้องรู้สึกผิดแน่ เลยเปลี่ยนใจชวนพี่เปิ้ลอยู่ดูซ้อมดีกว่า
พอปีขึ้นเวทีเท่านั้นล่ะค่ะ สังเกตเห็น ทำไมปีหน้าเสียและเต้นไปเหมือนพูด ยกมืออะไรกับใคร ทำอยู่หลายที งงเลย เพราะด้านหน้ามีแต่วงออเคสตร้า ปีไม่น่ารู้จักใครในนั้น แม่ก็ไม่รู้เรื่อง โบกไม้โบกมือ กลัวลูกไม่เห็น ซ้อมเสร็จออกมาอย่างงงๆ พอปีใหม่วิ่งออกมาชี้แม่เหมือนที่ชี้บนเวทีแล้วร้องไห้โฮ "แม่ผิดสัญญา หนูบอกแล้วมันเป็นซีเครท" นาทีนั้นใจหายวาบ จริงด้วย แม่ผิดจริง ไม่มีคำแก้ตัวใดๆ ปีใหม่ยังคงร้องไห้แบบผิดหวังเจ็บปวดมาก โดนคุณตาดุอย่าชี้แม่ แต่ก็ยังไม่หยุดร้องไห้บอก "หนูเสียใจมาก หนูตั้งใจให้แม่ภูมิใจวันหนูแสดงจริง ทำไมแม่ทำแบบนี้" นั่นสิ ที่แม่ทำเพราะคิดเอาเองทั้งหมด คิดว่าเพราะห่วง เพราะรัก อยู่ให้ตัวเองสบายใจว่าเราไม่พลาดอะไรได้เฝ้าลูกเหมือนพ่อแม่คนอื่น แต่กลับไม่ให้ความสำคัญกับสิ่งที่ตกลงกับลูกไว้ คิดว่าเด็กไม่จริงจังอะไรหรอก เห็นหน้าเราก็คงดีใจแล้ว เด็กที่ไหนจะไม่อยากมองมาแล้วเห็นแม่
งานนี้เป็นบทเรียนของแม่ ให้ฟังและเชื่อใจลูก ลูกเราอาจไม่เหมือนใคร และไม่เหมือนที่เราคิดเอาเองว่าเค้าจะเป็น เห็นตัวเล็กๆแบบนี้ก็ขอให้เชื่อใจกัน แม่จะจำไว้ค่ะ”