“ริชชี่” เคลียร์ดราม่ามีปัญหาผู้จัดฯ จนต้องเปลี่ยนตัวนางเอก
หลังจากเกิดดราม่าอย่างหนัก เกี่ยวกับกรณีเปลี่ยนตัวนางเอกละคร ซ่อนเงารัก “ริชชี่ อรเณศ ดีคาบาเลส” ไปเป็น “มารีน่า บาเล็นซิเอก้า” จนเกิด แฮชแท็ก #saveริชชี่ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ขึ้นมา จนคนโยงสาเหตุที่เปลี่ยนตัวเพราะมีปัญหากับผู้จัด “ไก่ วรายุฑ มิลินทจินดา” ล่าสุดเจ้าตัวก็ออกมาเปิดใจว่า
อ่านข่าวต่อ : “ม้า อรนภา” ตอกกลับแซ่บหลังโดนชาวเน็ตจี้ปมขอโทษ “ริชชี่”
หลังจากเกิดกระแสดราม่าตอนนี้ดีขึ้นมากแล้วเพราะด้วยทุกคนเป็นกำลังใจให้เรา ก็รู้สึกขอบคุณทุกคนมากๆ เลย ต่อไปนี้ก็จะเข้มแข็งขึ้น ไม่อยากให้ทุกคนต้องเป็นห่วง
ถามว่าบั่นทอนกำลังใจเรามากน้อยแค่ไหน จริงๆ 2-3 วันแรกหนูตกใจด้วย ไม่คิดว่าหนูจะมาเจออะไรแบบนี้ ก็มีคำถามวนๆ ในหัวตลอดแล้วก็เป็นไมเกรนตั้งแต่เด็กแล้ว มันก็เลยเป็นหนักหน่อย ที่เห็นร้องไห้เพราะ มันก็ตกใจ มันไม่ใช่เราเลย ก็งงว่ามันยังไง แต่ก็มีสายผู้ใหญ่ที่รักเราโทรเข้ามา เขาก็ปลอบ เราก็รู้สึกว่ามันเศร้ามาก และผู้ใหญ่บางคนก็ร้องไห้ เขาสงสารเราว่าทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ เขาปกป้องเราไม่ได้ขนาดนั้น หนูก็บอกว่าไม่เป็นไรเลย หนูจะเข้มแข็ง แล้วเราก็เลยยิ่งเศร้าไปอีก เพราะคนที่รักเราเขาเศร้ามาก
ส่วนเรื่องโดนเปลี่ยนบทกระทันหันจริงๆ ด้วยหนูเปิดกล้องมามันมี 5 ตอน หลังจากนั้นเขาก็เขียนขึ้นมาเรื่อยๆ จนเหมือนมีตอนที่เปลี่ยนบท หนูก็รู้ตอนนั้น ก็เป็นไปตามนั้น แล้วมันเป็นสองตัวเลยด้วยความที่หนูใส่วิกเยอะมาตลอด หนูก็คิดว่าผู้ใหญ่ก็คงอยากช่วยหนูด้วย แต่จริงๆ หนูว่ามันเป็นพล็อตเรื่องที่ผู้ใหญ่วางไว้อยู่แล้ว หนูอ่านบทแล้วมันก็สมเหตุสมผล เพราะหนูจะเล่นมาถึงตอนที่แฝดทะเลาะกัน มันก็มีที่มา พี่อี๊ดทางผู้จัดเขาก็บอกอยู่แล้วว่าเรื่องสรุปที่เราอ่านมันอาจจะไม่ตรงนะ เพราะเขาอาจจะปรับเพื่อให้มันน่าสนใจมากขึ้น จะมีเขียนไปเรื่อยๆ
ไม่เกี่ยวกับเรื่องสัญญาช่องเพราะหนูถ่ายเรื่องนี้จบมาหลายเดือนมากๆ แล้วกว่าที่เราจะคุยกับช่อง แล้วหนูก็กลับมาอยู่บ้าน คือหนูมีแพลนหลายอย่าง เราก็เลยรู้สึกว่าอยากจะอิสระดีกว่าเพื่อจะจัดการชีวิต และผู้ใหญ่ก็โอเค จริงๆ เลยหนูรู้สึกว่าหนูทำได้ หนูโอเค หนูคิดว่าไม่เป็นไร แต่เหมือนหัวหนูเขาไม่ร่วมมือ หนูก็บอกพี่ๆ เขาว่าริชไม่เจ็บจริงๆ แต่หัวริชไม่ได้แล้วนะ เพราะมันคือการกดทับ เพราะหนูถ่ายทุกซีนเพราะเล่นเป็นแฝด แล้วมันเป็นวิกทั้งสองอัน แล้วหนูถ่ายทุกซีนตั้งแต่ 7 โมงถึง 4 ทุ่มติดกันเป็นเดือนๆ หนูใช้วิกแบบคาด แล้วมันก็กดทับจนมันบุ่มลงไป แล้วผมมันก็เริ่มไม่ขึ้น เริ่มร่วง พอพี่เขารู้เขาก็ปรับให้หนูเลยให้เป็นตัวผู้หญิงผมยาวจริงๆ หนึ่งตัว ก็ช่วยเซฟอันนึงแล้ว เพราะว่าพอเป็นของผู้ชายมันคาดด้านหน้า มันก็ไม่ได้กดทับแผลเดิม
ถามว่าริชชี่มีบ่นในกองเรื่องอื่นมั้ย จริงๆ หนูที่พี่เค้าแบบเหมือนสอนเรามา เค้าบอกว่าเวลาริชเจ็บ ริชต้องบอก เพราะเป็นความผิดหนูด้วย หนูเป็นคนอดทนมาก หนูคิดว่าไม่เป็นไรจริงๆ จนมันเป็นแผล พี่เค้าบอกว่า ถ้าเจ็บนิดเดียวต้องบอก เพราะไม่งั้นเค้าช่วยไม่ได้ เค้าเซฟไม่ได้ เราไม่ได้มีอารมณ์โกรธหรือหงุดหงิด คือหนูไม่รู้ตัวว่าจะเจ็บจนหัวเป็นขนาดนั้น เพราะมันรัดไปนานๆ บางวันมันก็ชาไปแล้ว มันก็เบลอ หนูไม่ได้รู้สึกว่ามันเจ็บ ตอนนั้นไม่ได้รู้สึกเจ็บเลย มันเหมือนเราไม่ได้โฟกัสตรงนั้น บทหนูมันแรงมากๆ เล่น 2 ตัว อาจจะเป็นที่หนูด้วยที่ปล่อยให้ตัวเองเจ็บ
ที่มีคนมองว่าเรื่องมาก อันนี้หนูไม่แน่ใจว่าคำมันมาจากไหน เพราะจริงๆ ถ้าในกองหรือเพื่อนเค้าก็จะห่วงเรา เราไม่ค่อยพูดไรเลย เหมือนบางวันเราทำงานหนักมาก คือบทหนูค่ะมันค่อนข้างจะเปลี่ยนเป็นผู้หญิงผู้ชายตลอด แล้วเหมือนบางทีเค้ารีบมาก ช่างหน้าไปกินข้าวก่อน เราลืม เพราะบางทีหนูรู้สึกว่า ต้องคอนตินิวบทต่อ เราก็ลืมไป ทุกคนก็เป็นห่วงทำไมเราลืมดูแลตัวเองไปเลย
ปัญหาเกิดจากเรื่องวิกผม เพราะหนูไปหาหมอเลย และหมอบอกว่าถ้ามันยังกดทับซ้ำ คือตอนนั้นรากผมมันหายไปหมดแล้ว แต่มันก็ยังมีอยู่ใต้ผิวหนัง และถ้าหากยังฝืนกดต่อรากผมมันก็จะตายถาวร
และตอนที่เขาบอกว่าจะให้ “มารีน่า” มาแสดงแทนเรา คือหนูรู้สึกว่าหนูเป็นนักแสดง และหนูก็ดูด้วยบท หนูโฟกัสตรงนั้นมากกว่า เพราะบทก่อนที่จะเปลี่ยนตัวมันยากมาก มันมีทั้งสู้กันเอง ทั้งพันหน้า ดังนั้นหนูจึงกลัวว่าจะต้องทำยังไงถึงจะส่งไปถึงเขา แต่เรื่องของมารีน่ามันไม่ใช่อันนี้ของหนูแล้ว แต่ผู้ใหญ่ก็จะบอกอยู่แล้วว่าบทจะเขียนไปเรื่อยๆ และเราก็เล่นตามบททุกอัน จนบทมันออกมาถึงตอนนี้และเราก็โอเค ซึ่งเขาเป็นผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่คงมองออกว่าอย่างนี้น่าจะสนุกกว่า
"หนูเสียใจที่ตัวเองเจ็บอะไรอย่างนี้ เพราะหนูก็ไม่ได้อยากให้มีอะไรเปลี่ยนไปจากที่เขาวางไว้"
กับพี่ไก่หนูไม่ได้คุยเลย เพราะในกองจะมีพี่อี๊ดที่เป็นเหมือนโปรดิวเซอร์ เป็นผู้จัดอีกคนที่เขาช่วยดูแลหนูอยู่ตลอดหนูไม่ได้คุยโดนตรง ส่วนใหญ่ทางกองพี่เขาก็จะคอนแทคกับพี่ที่ดูแลหนูอยู่แล้ว
ส่วนล่าสุด “พี่ม้า” บอกถ้าพูดเรื่องจริง “ริชชี่” กลับดอยเลยนะ เรื่องนี้บ้านหนูอยู่บนดอย ยังไงหนูก็ต้องกลับอยู่แล้ว จริงๆ บ้านหนูน่าอยู่มากนะหนูมีโฮมสเตย์ด้วย ไร่ชาด้วย ถ้ามีโอกาสพี่ๆไปเที่ยวบ้านหนูได้นะ หนูก็รักพี่น้องที่บ้านหนูนะหนูไม่ได้รู้สึกว่าแย่เลย บนดอยทุกคนน่ารักมากๆ สำหรับดอยหนูก็ไม่ได้แย่นะ หนูไม่โกรธพี่ม้า หนูเคยเจอพี่ม้าครั้งเดียวตอนรายการสามแซ่บ แล้วก็ไม่ได้เจอเลย หนูคิดว่าหลายๆ อย่างอาจจะเป็นการเข้าใจผิด พี่ม้าก็ไม่ได้รู้จักหนู หนูรู้สึกว่าไม่เป็นไร ถ้าวันนึงหนูได้เจอพี่ม้า หนูคิดว่าทุกอย่างอาจจะไม่ได้เป็นแบบนี้
ที่เคยเจอพี่ม้าใจดีมาก ตอนนั้นหนูเด็กมาก ช่วงหนังคู่กรรม หนูยังพูดไม่รู้เลย ถ้าดูในคลิปตอนนั้นพี่ม้าก็ดูใจดีกับหนูมากๆ
“หนูคิดว่าทุกคนรักหนูมาก และหนูอาจจะเศร้ามากๆ ทุกคนเลยอยากจะโพรเทคหนู ถ้าทำให้พี่ไก่รู้สึกไม่ดีหนูก็ขอโทษด้วยนะคะ”