Low Season | สุขสันต์วันโสด
ใครที่คาดหวังกับหนังที่ต้องดูแล้วคิดตาม ต้องเครียดไปกับตัวละคร ต้องคอยลุ้นระทึกในแต่ละฉากตามสไตล์ของหนังผีไทย Low Season | สุขสันต์วันโสด อาจจะไม่ใช่เรื่องที่พวกคุณกำลังตามหา แต่ถ้าคุณชอบหนังไทยที่มีกลิ่นคุ้นเคย มีความรู้สึกที่ไม่ได้เห็นหนังไทยในแบบนี้มานานมากแล้ว ให้คุณลองปล่อยเวลาสัก 2 ชั่วโมง 5 นาที ของคุณไปกับหนังเรื่องนี้ได้เลย และ ความสุขในวันวาเลนไทน์สำหรับคนโสดอาจจะเป็นการได้อมยิ้มไปพร้อมๆ กับการดูหนังเรื่องนี้ ฟังดูแล้วอาจจะดูอวยเรื่องนี้เป็นพิเศษเพราะได้ค่าโฆษณาหรือเปล่า? ตอบเลยว่าไม่ แค่รู้สึกว่า นี่แหละความสุข
อาจจะไม่ได้เล่าหรือเขียนไปในแนวสปอยล์ซะทีเดียว จะพยายามบอกอะไรบางอย่างเท่าที่จะบอกได้
Low Season | สุขสันต์วันโสด ภาพยนตร์ไทยที่ออกมาต้อนรับวันวาเลนไทน์ ปี 2020 ในเรื่องนี้จะเล่าชีวิตของคนที่พังจากชีวิตความรัก คนหนึ่งพังจากการที่แฟนไปมีอะไรกับนักแสดง คนเขียนบทที่เขียนเรื่องราวของคนอื่น ต้องมาเจอบทชีวิตที่ตัวเองไม่คิดว่าจะเจอ ส่วนอีกคนคอลเซ็นเตอร์สาวที่มีแฟนเป็นซุป’ตาร์ ที่พังเพราะว่าสิ่งที่เธอเป็นคนอื่นไม่สามารถเข้าใจได้
เหตุการณ์ต่างๆ เริ่มต้นขึ้นที่เชียงใหม่ เมื่อคนพังสองคนต้องออกเดินทางไปด้วยกัน โดยเป้าหมายของแต่ละคนก็ต่างกันออกไป “หลิน” รับบทโดย “พลอย พลอยไพลิน ตั้งประภาพร” มาที่นี่เพราะความรัก โดยมีความเชื่อที่ว่า มันเกิดที่ไหนก็ต้องจบที่นั่น และ “พุธ” รับบทโดย “มาริโอ้ เมาเร่อ” มาที่นี่เพื่อหาแรงบันดาลใจ หรือบางครั้งก็เพื่อลืมใครสักคน และทั้งคู่บังเอิญเจอกันที่โฮมสเตย์แห่งหนึ่งก่อนที่จะออกเดินทางขึ้นดอยไปพร้อมกัน
ทั้งคู่เริ่มออกเดินทางจากโฮมสเตย์ โดยเป้าหมายของ “พุธ” ก็คือการขึ้นดอยเพื่อไปหาคนที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับคนที่มีความรู้เรื่องผี ส่วน “หลิน” ก็ไปเรื่อยๆ ไปที่ไหนก็ได้ เพราะแพลนชีวิตตอนนั้นคงไม่ได้คิดอะไรมาก จนทั้งคู่เดินทางมาถึงที่พักท่ามกลางบรรยากาศหุบเขาในโฮมสเตย์ที่รวมพล “คนเพิ่งโสด”
หลังจากนั้นทั้งคู่เริ่มที่จะออกเดินทาง โดยมี “พุธ” เป็นคนนำ เพราะ “พุธ” ต้องไปหาข้อมูลเรื่องผี ในระหว่างเส้นทางนั้นก็มีเหตุการณ์อะไรหลายๆ อย่างที่ทำให้ทั้งคู่เกิดความรู้สึกที่ดีๆ ต่อกัน ทั้งคู่เดินทางไปถึงบ้านของ “พี่กะเร” รับบทโดย “เปิ้ล นาคร” (แนะนำตัวละครตัวนี้หน่อย “พี่กะเร” หลายคนอาจจะคุ้นหน้าและความสัมพันธ์ เพราะ “พี่กะเร” คือ “น้าเช” สาระแนสิบล้อ ที่เปลี่ยนชื่อเพราะมิติใหม่แห่งตัวละคร) แต่เหมือนว่า “พี่กะเร” จะไม่อยู่ที่บ้านที่ดอยที่เคยอยู่ แต่ทั้งคู่ก็ตัดสินใจที่จะรอ จน “หลิน” กำลังจะไปหาห้องน้ำ และเห็นศพของ “พี่กะเร” นอนตายอยู่ในบ้านอีกหลังใกล้ๆ
“หลิน” วิ่งกลับมาหา “พุธ” ด้วยความตกใจ แต่ที่ยิ่งตกใจไปกว่านั้นคือ “พี่กะเร” เปิดประตูออกมาเฉย “พี่กะเร” เหมือนมีพลังงานวิเศษ แบบเป็นผีที่ คนเห็นได้ แต่ด้วยความกลัว “หลิน” พยายามจะชวน “พุธ” กลับ แต่ใครจะไปกลับ นานๆ ทีได้เจอ “พี่กะเร” นั่งคุยกันยาวเลยจ้าทีนี้ แต่ “พี่กะเร” แกก็ไม่ใช่ผีที่ไม่ดีอะไร จนถึงเช้าวันต่อมา “หลิน” รีบตื่นและออกไปรอ “พุธ” อยู่ที่ริมทางออก “พุธ” ตื่นขึ้นมาพยายามตามหา “หลิน” แต่ก็ดันไปเจอศพของ “พี่กะเร” ยังไงล่ะทีนี้ ข้อมูลเพียบ วิ่งเลยจ้า
ทั้งคู่ออกเดินทางอีกครั้งเพื่ออจะไปให้ถึงโฮมสเตย์ เหตุการณ์ขณะเดินทางกลับก็ไม่มีอะไรมาก เป็นฉากน่ารักของทั้งคู่ที่ดูแล้วก็แอบอมยิ้มตาม จนทั้งคู่กลับมาถึงโฮมสเตย์ ก็เจอกับ “พี่อ้อม” รับบทโดย “ศรีพรรณ ชื่นชมบูรณ์” ที่รอรับอยู่หน้าโฮมสเตย์ ด้วยความเป็นห่วง ทั้งคู่แยกย้ายกันไปอาบน้ำอาบท่า เเต่ “หลิน” เจอผีอีกเเล้วจ้า ก็เลยไปหา “พุธ” ที่ห้อง ทั้งคู่คุยกัน และมีฉาก tie-in โฆษณาเต็มๆ มาโผล่ในฉากรัก เเต่ก็โอเคแหละ เนียนๆ ไป มันเลยเป็นจุดเริ่มต้นของฉากความรักที่ทั้งคู่เองรู้สึกแล้วจริงๆ ว่ารักกัน
ในบรรยากาศที่เป็นใจอะไรขนาดนั้น ประกอบกับกลิ่นไอรักที่อบอวลไปทั่วโฮมสเตย์ของคนพังๆ พร้อมกับชวนกันออกไปดูดาวประกอบกับเพลงอินดี้อย่าง “ภาพฝันกับจักรวาล” ของ เขียนไขและวานิช
บรรยากาศตอนเช้าเริ่มต้นขึ้นด้วยการถูกแซวและไถ่ถามจากพี่ๆ ในโฮมสเตย์อย่าง “นุ่น” รับบทโดย “ศกลรัตน์ วรอุไร”, “วิทยา” รับบทโดย “ณฉัตร จันทพันธ์” และ “พี่โอม” รับบทโดย “อัครินทร์ อัครนิธิเมธรัฐ” ถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ คำตอบที่ได้ไปดูในหนังนะ
ทั้งคู่ออกเดินทางเพื่อไปที่ออฟฟิศกลางป่าของ “พุธ” (อันนี้จำไม่ได้ว่าที่ไหน แต่สวยมาก)
กลับมาที่โฮมสเตย์อีกครั้ง พร้อมกับเสียงโทรของ “พุธ” ที่ดังขึ้น แต่ปลายสายทักทายถึง “หลิน” ใช่แล้วครับ “พี่ต่อ” รับบทโดย “กิดาการ ฉัตรแก้วมณี” หรือ ซุง มือกีตาร์วง mattnimare เอาจริงๆ ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันแรกของการเดินทางทุกอย่างก็ไม่เจ็บขนาดนี้ คำขอโทษของ “พี่ต่อ” ทำให้ “หลิน” เกิดหวั่นไหวขึ้นมา จนเกิดเป็นประโยคพีคขึ้นมาว่า “ขอโทษทำไม เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย”
หลังจากเหตุการณ์นั้น “พุธ” ได้ขับมอเตอร์ไซค์หายออกไป ส่วน “หลิน” ก็กลับกรุงเทพฯ เพื่อไปใช้ชีวิตอยู่กับ “พี่ต่อ” เหมือนเดิม ทุกอย่างเหมือนจะหักมุม แล้วก็เท “พุธ” ออกจากชีวิต แต่ดันมีประโยคที่เหมือนจะแสดงความเข้าใจออกมาจาก “พี่ต่อ” ก็คือ “หลินต้องหายนะ เราจะได้อยู่ด้วยกันแบบปกติไง” เกมพลิกจ้า ทุกอย่างยิ่งทำให้รู้ว่าอะไรเหมาะหรือไม่เหมาะกับเรา
“หลิน” กลับไปที่โฮมสเตย์อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ได้กลับไปเพื่อลืม แต่กลับไปเพื่อตามความทรงจำเก่าๆ ที่เคยเผลอลืมทิ้งเอาไว้
**** ภาพรวมของนักแสดงใน Low Season | สุขสันต์วันโสด
- ถือว่าผู้กำกับฯ เลือกนักแสดงได้ดีมาก เคมีเเต่ละคนดูเข้ากันไปหมด หลายนักแสดงอาจจะไม่ได้พูดถึงมากในรีวิวตัวนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่สำคัญ ทุกตัวคือตัวละครที่ต้องมีอยู่จริงๆ รายละเอียดต่างๆ ที่ผู้กำกับฯ ใส่ค่อนข้างมีความหมาย
**** มาดูเรื่องภาพรวมของภาพยนตร์กันบ้าง
เลือกโลเคชั่นดีมาก ถ้าดูแบบไม่ต้องไปคิดว่า โห...หนังไทยทำได้แค่นี้เองเหรอ ขอให้ตัดความคิดแบบนั้นออกไปก่อน เพราะความพอดีคือสิ่งที่ภาพยนตร์ไทยกำลังแสดงออก ถ้าความพอดีมาเจอกับภาพรวมที่ดีพอทุกอย่างจบ
การเลือกใช้เพลงของ เขียนไขและวานิช และ แม็กซ์ เจนมานะ ทำให้บรรยากาศเพลงมันดูจริงมากขึ้น เพลงคือตัวที่เชื่อมฉากแต่ละฉากเข้าด้วยกันได้อย่างดี
เรื่องนี้ไม่ต้องถามถึง CG หรืออะไรที่ดูตระการตา เอฟเฟคท์มีบ้าง แต่ไม่ได้แย่นะ เราคิดว่าเขาไม่ได้ซีเรียสกับเรื่องแบบนี้ เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่เขาจะถ่ายทอด
เกือบลืมไปเลยว่า ในเรื่องนี้มี symbolic บางอย่างที่สำคัญที่สื่อออกมาในภาพยนตร์เรื่องนี้ คือเสื้อของมาริโอ้ หรือ "พุธ" ก็คือ เสื้อตัวเเรก ที่บนเสื้อเขียนว่า "anti social" ที่เราเห็นในหลายฉากของภาพยนต์ ความหมายแฝงคือ "พุธ" ที่อกหักจากแฟนเก่าโดนการหนีขึ้นดอยเพื่อที่จะเขียนบทหนังผี เลือกที่จะไม่ดู หรือ ไม่รับรู้สิ่งต่างๆเกี่ยวกับแฟนเก่าทั้งหมด ผ่านช่องทาง social สังเกตุได้จากการที่ไม่มีฉากไหนเลยถ่ายให้เห็นเลยว่า "พุธ" เล่น social ทั้งๆที่บางครั้งเรื่องผีมีให้ค้นหาใน อินเทอร์เน็ตมากมาย
ฉากต่อมา คือ เสื้อ ที่มีเหมือนผู้หญิงนั่งก้มหน้า และ ผู้ชายคุกเข่าให้ดอกไม้ อันนี้สื่อชัดมาก "พุธ" ใส่เสื้อตัวนี้ในฉากหลังๆที่ตัวเองรู้สึกว่า มีความสัมพันธ์ที่ดีกับ "หลิน" แต่ถ้าสังเกตุ ดีๆ มันคือฉากเชื่อมเวลาที่ "ต่อ" แฟนเก่าของ "หลิน" โทรมาขอโทษ จึงทำให้ "หลิน" รู้สึกไขว้เขว เกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่เธอมีให้กับ "พุธ" เสื้อมันกำลังบอกเราว่า เราให้ดอกไม้หรือ ความรักในเวลาที่ยังไม่เหมาะสม
ภาพรวมของภาพยนตร์เรื่องนี้
ถ้าคุณมีเวลาสัก 2-3 ขั่วโมง แค่ลองวางโทรศัพท์ และกดบัตรเข้าชมเรื่องนี้ ปล่อยชีวิตคุณนั่งอยู่บนเบาะนุ่มๆ ให้เรื่องราวและเสียงเพลงพาคุณไปรู้จักกับพวกเขา Low Season | สุขสันต์วันโสด
**** คำแนะนำ เราว่าเรื่องนี้เหมาะกับคนที่มีคู่นะ ถึงเเม้ว่าจะ “สุขสันต์วันโสด” ก็ตาม