“เต๊ะ ศตวรรษ” เล่าเรื่องอู่ฮั่นที่เคยเยือน
เป็นนักแสดงที่เคยเดินทางไปทำงานที่จีน ไต้หวัน นานกว่า 15 ปี สำหรับ “เต๊ะ ศตวรรษ” กระทั่งเรียนจีนและพูดจีนได้เสมือนเป็นบ้านหลังที่ 2 หลังจากแต่งงานกับสาวญี่ปุ่นที่จีน ทว่าชีวิตแต่งงานไม่ได้เป็นดังหวัง จึงตัดสินใจกลับมาทำงานในไทย และนี่คือเรื่องราวของเขาที่แฟนๆ ยังคิดถึงอยู่
“เต๊ะ” ตอนนี้กลับมาอยู่ไทยถาวรแล้วใช่ไหม
ตอนนี้กลับจากจีนมาทำงานอยู่ไทยได้ 2 ปีแล้ว มาทำงานเบื้องหลัง มากำกับ ทางทีมงานติดต่อมาก็เลยได้กลับมาเล่นอีกครั้ง เราไม่ได้ทำงานกับพี่ๆ ที่ทางกับเอ็กแซ็กท์นานพอสมควร เราไม่ได้ทำเบื้องหน้านาน เบื้องหลังเราทำซีรีส์ MV โฆษณา เราทำงานที่จีนก็อยากเอาประสบการณ์ที่ได้มาใช้ที่ไทย
จากที่เคยทำงานในจีน คงทราบเรื่องการปิดเมืองอู่ฮั่น สภาพชีวิตและเมืองที่นั่นที่เคยเยือนเป็นอย่างไร
อู่ฮั่นเราเคยไปเที่ยว เป็นเมืองที่สวยงาม มีหลายอย่างที่มีความใกล้เคียงกับบ้านเรา คนจีนเป็นที่ใกล้ชิดกับเรา เป็นคนสนุกสนาน ให้ใจพอสมควร ถ้าเราได้ทำงาน ได้รูจักคนจีน เขาค่อนข้างจะจริงใจ จากที่เราเห็นก็ยอมรับว่าประเทศจีนเป็นประเทศที่มีความหลากหลาย เพราะว่าด้วยที่ประเทศเขาใหญ่ มีหลายพื้นที่ที่เขามีความเชื่อเก่า บางที่เราก็จะเห็นบางคนทานเพื่อสนองความต้องการของตัวเองก็มี แต่เรามองว่าถ้าจะให้เปรียบเทียบทำไมเรากินแล้วคนอื่นไม่ได้กิน มุมเราเราว่ามันไม่ยุติธรรม เพราะว่าความเชื่อของแต่ละที่ไม่เหมือนกัน ถ้ามองในเรื่องของศาสนาก็จะมีศาสนาที่กินได้และกินไม่ได้เหมือนกัน ด้วยที่คนจีนอาจจะชอบอะไรแบบนี้ เราว่าถ้ามันไม่ได้ไปยุ่งกับสัตว์ที่อยู่ในหมวดการคุ้มครอง หรือสัตว์ที่กำลังเป็นปัญหาที่มันสามารถข้ามสายพันธุ์แพร่เชื้อโรคได้ อันนี้เป็นสิ่งที่เขาจะต้องระวัง
แฟนคลับที่จีนยังมีอยู่ไหม แล้วตอนนี้เขารับมือกับไวรัส COVID-19 อย่างไร
เราไปจีนเราไปหลายที่ ที่เราไปทำงานหลักจะเป็นปักกิ่งกับถังโจว พอมีข่าวก็มีกลุ่มแฟนคลับที่เรามีการติดต่อกันตลอด มีการอัปเดตกัน แฟนคลับเราไม่มีใครป่วย แต่เขาค่อนข้างที่จะรู้สึกว่าเขากำลังเผชิญกับปัญหาที่ต้องการกำลังใจ ไม่แค่จากคนในประเทศเขา เขาต้องการกำลังใจจากคนต่างชาติด้วย เราเชื่อว่าไม่มีใครอยากให้ปัญหานี้เกิดขึ้น เราต้องเข้าใจก่อนว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นไม่ได้เป็นความตั้งใจที่อยากให้มันเกิด แต่เมื่อมันเกิดมาแล้วแน่นอน คนจีนอยู่ในประเทศที่เป็นต้นตอของปัญหา เขาจะต้องรับสภาวะถูกมองว่าคุณทำคนในประเทศและคนหลายประเทศจะต้องได้รับผลกระทบไปด้วย แต่เราก็เห็นใจเขา สิ่งแรกที่ทำได้คือ คุณต้องรักษาตัวเอง สองคือ ทำให้มันเป็นบทเรียน เมื่อเรารู้หลายสิ่งที่มันเกิดปัญหา สิ่งที่เขากังวลใจมากคือ การที่คนหลายคนมักเหมาคนจีนว่าเป็นต้นตอของปัญหาทั้งหมด ประเทศจีนเป็นประเทศที่เติบโตเร็วมาก มีหลายวัย เพราะฉะนั้นไม่ได้หมายถึงว่าคนทุกคนจะมีรสนิยมทานแบบนี้ เหมือนกับช่วงที่เราเคยณรงค์เรื่องอาหารสุนัข เราไม่อยากให้คนจีนทาน พอเราโพสต์ไปมันก็จะมีคนจีนหลายรุ่นที่เขามีฟีดแบ็คกลับมา ถ้ารุ่นเก่าเขามองว่ายังไง แต่ถ้าเป็นรุ่นใหม่เขารู้จักว่านี่คือสัตว์เลี้ยง เขาแยกออกว่ามันไม่สมควรนำมาทานได้ เรามองว่าปัญหามันไม่ได้ถูกตีตราว่าคนจีน แต่อาจจะเป็นแค่คนบางกลุ่มเท่านั้นเอง
“เต๊ะ” จะแต่งงานอีกไหมรักใหม่ของเรา
ชีวิตส่วนตัวตอนนี้ จริงๆ เราเคยแต่งงานมาแล้ว แต่งกับคนญี่ปุ่น นานพอควร และหย่ากันเรียบร้อย ปัจจุบันก็ทำงานแล้ว มีในส่วนของที่เราไปทำกิจกรรมกับเยาวชน ในส่วนเรื่องของความฝัน เรามีทีมชื่อ ทีมดรีมเมอร์ไทยแลนด์ เราเข้าไปเพื่อที่จะเติมฝัน ช่วยให้เขาไปถึงฝัน รวมในเรื่องของพาความรักของพระเยซูคริสต์ไปถึงครอบครัวเขา
ทราบว่าเป็นคนที่ชอบจัดกิจกรรมด้านเยาวชน
กิจกรรมเกี่ยวกับเด็กเราทำมานานแล้ว เกี่ยวกับสัตว์ เราทำมาเป็น 10 ปีแล้ว ตอนนี้เรายังไม่มีคนคบคนคุยในฐานะที่เป็นแฟนกัน ก็ทำงานไปก่อน มีอธิษฐานกับพระเจ้าว่า ถ้าเราสมควรมีใครสักคนในเวลาที่เหมาะก็ช่วยประทานมาให้เรา