ผีน้อย 70-80 ราย ไร้จิตสำนึก แหกด่านควบคุมหนีการกักตัว
เมื่อวันที่ 7 มี.ค.2563 เวลา 21.30 น. ที่อาคารผู้โดยสารขาเข้าท่าอากาศย่านสุวรรณภูมิ สมุทรปราการ นพ.ขจรศักดิ์ แก้วจรัส รองอธิบดีกรมควบคุมโรค และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันเดินทางมารับแรงงานไทยผิดกฎหมาย หรือ ผีน้อย ที่เดินทางกลับมาจากเกาหลีใต้ ด้วยสายการบิน JIN AIR เที่ยวบิน IJ 333 ที่มีจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางมากับสายการบินดังกล่าวทั้งหมดจำนวน 104 คน เป็นคนไทย 88 คน และใน 88 คนมีผู้ที่มีความเสี่ยงสูง หรือผีน้อย จำนวน 66 คน
เจ้าหน้าที่ได้จัดโซนให้ผู้โดยสารทั้งหมดที่เดินทางมากับสายการบินดังกล่าวเข้าคัดกรองโควิด -19 เป็นกรณีพิเศษ โดยเจ้าหน้าที่หน่วยควบคุมโรคได้ทำการตรวจซ้ำถึง 3 รอบ ก่อนจะผ่านเข้าด่านตรวจคนเข้าเมือง ผลปรากฎว่าหลังการตรวจคัดกรอง พบเข้าข่ายต้องสงสัยเนื่องจากมีอุณหภูมิร่างการสูงกว่าที่กำหนด จำนวน 15 ราย เจ้าหน้าที่จึงส่งตัวผู้เข้าข่ายต้องสงสัยเข้าสู่กระบวนการของสาธารณสุข ส่วนที่เหลืออีก 51 ราย ได้ส่งตัวขึ้นรถบัสเดินทางไปสถานที่คัดกรองเฝ้าระวังที่ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และที่เหลืออีก 22 ราย ที่ผ่านด่านการตรวจคัดกรองและไม่พบความผิดปกติ ก็จะถูกส่งตัวไปยังจุดคัดกรองของภาค ซึ่งเป็นจุดเฝ้าระวังเป็นเวลา 14 วันเหมือนกัน
ต่อมาเมื่อเวลา 01.15 น. ของวันที่ 8 มี.ค.2563 ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ การรับคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศเกาหลีใต้ พักดูเพื่อเฝ้าดูอาการ อาคารรับรองสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี คนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศเกาหลีใต้ 59 คน แบ่งเป็นหญิง 32 คน ชาย 27 คน ได้เดินทางมายังศูนย์เฝ้าระวัง ด้วยรถบัส 3 คัน ซึ่งถือเป็นกลุ่มแรก โดยทั้งหมดจะต้องผ่านการคัดกรองโรค ด้วยการวัดไข้ การฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอล์ พร้อมทำความสะอาดกระเป๋าสัมภาระ รองเท้า อุปกรณ์สื่อสาร ก่อนขึ้นห้องพัก ซึ่งได้มีการคัดแยกชาย-หญิง จากกัน ในการเข้าพักเพื่อเฝ้าดูอาการ ห้องละ 3 คน โดยคนไทยที่กลับมาทั้งหมดจะถูกกักตัว 14 วัน เพื่อเฝ้าดูอาการตามแผนรับมือโควิด-19
ส่วนรถบัสและพนังงานขับรถที่รับส่งคนไทยที่เดินทางกลับจากเกาหลีใต้นั้น จะต้องจะผ่านการทำความสะอาด ด้วยกระบวนการฆ่าเชื้อ ตามขั้นตอนกรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ และกระทรวงสาธารณสุข ก่อนจะเดินทางกลับ เพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโรคสู่ผู้ขับขี่ และผู้ใช้งานกับรถโดยสารหลังการปฏิบัติภารกิจ
สำหรับพื้นที่อาคารรับรองสัตหีบ เจ้าหน้าที่จัดเตรียมไว้ทั้งหมด 6 อาคาร ตั้งแต่อาคาร 3 - อาคาร 8 โดยผู้ที่ถูกกักตัว จะอยู่ได้ในพื้นที่เฉพาะด้านในอาคารรับรองและสวนหย่อมโดยรอบอาคาร โดยมีรั้วกันโดยรอบและมีเจ้าหน้าสารวัตรทหารเรือ เฝ้าอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ได้ออกมาบริเวณด้านนอก หรือริมทะเล ทั้งนี้คาดว่าจะมีคนไทยกลับจากเกาหลีทยอยเดินทางมายังกิจการอาคารรับรองสัตหีบเพิ่มอีก เพื่อเฝ้าดูอาการ
ด้าน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศระบุว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ เปิดให้ต่างชาติที่อยู่เกินวีซ่าและต้องการกลับประเทศต้นทาง ให้รายงานตัวที่สำนักงานอื่นที่ไม่ใช่พื้นที่พักอาศัยได้ โดยให้ติดต่อภายใน 3-15 วัน และวันที่ 11 มีนาคมนี้ เกาหลีใต้จะใช้ระบบรายงานตัวกลับล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์ พร้อมทั้งเพิ่มจุดคัดกรองผู้โดยสารอีก 3 จุด ที่สนามบินอินชอน ส่วนตัวเลขแรงงานผิดกฎหมายที่ขอกลับประเทศ สามารถขอตรวจสอบได้ตามบันทึกความเข้าใจด้านแรงงาน
นอกจากนี้ นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข เปิดเผยว่า มีกลุ่มผีน้อยไม่ให้ความร่วมมือ แล้วยังพยายามหลบหนีการถูกกักตัว โดยในวันที่ 7 มี.ค.2563 มีผู้โดยสารคนไทยกลับจากเกาหลีใต้แล้ว 200 คน และบางส่วนไม่ยอมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ อีกทั้งยังพยายามหนีจากการถูกกักกันตัวไว้ โดยสามารถหลบหนีออกไปได้ ประมาณ 70-80 คน ขณะนี้ได้สั่งการให้อธิดีกรมควบคุมโรค เร่งตรวจสอบรายชื่อข้อมูลผู้ที่เดินทางมาว่าใครหลบหนีไปได้บ้าง เพื่อนำตัวกลับมากักกันโรค และดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคต่อไป
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : Ch3Thailandnews
