ดร.สาธิต แจงกรณีหมอขาดหน้ากากอนามัย สั่งเพิ่มโควต้าจาก 3 แสน เป็น 7 แสนชิ้น
"ดร.สาธิต ปิตุเตชะ" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ชี้แจง กรณีมีข่าวว่าบุคลากรทางการแพทย์ขาดแคลนหน้ากากอนามัย พร้อมแจกแจงวิธีการแก้ปัญหาว่า
อ่านข่าวต่อ : ผีน้อยหนีด่านต้องรายงานตัว! เกินพรุ่งนี้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 7 ผมให้สัมภาษณ์ไป ผมวันนั้นผมไม่ได้จะบอกว่า หน้ากากอนามัยไม่ได้ขาด คือผมยอมรับว่าสถานการณ์ก่อนหน้านี้หน้ากากอนามัยมีปัญหากับผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ พยาบาล พอผมทราบปัญหาจากทั้งระบบ ทั้งการสื่อสาร ทั้งโซเขียลมีเดีย โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ที่ใช้หน้ากากอนามัยในการปฎิบัติหน้าที่
ทำให้ครม.ในวันอังคารที่ 3 ได้พูดคุยกันเรื่องนี้ แล้วก็พูดกันชัดว่าเราจะจัดลำดับความสำคัญใหม่ ก็คือเราจะจัดลำดับความสำคัญให้บุคลากรทางการแพทย์จะขาดหน้ากากอนามัยไม่ได้ และเราจะรณรงค์ให้ประชาชนที่ไม่ป่วยไม่ต้องใข้หน้ากาก แต่ถ้าต้องการใช้ขอให้ใช้หน้ากากผ้า หน้ากากผ้านี้กระทรวงมหาดไทยรับนโยบายจากครม.ไป ให้ไปผลิตหน้ากากผ้าจำนวนทั้งสิ้น 50 ล้าน ชิ้น แล้วให้แจกหน้ากากผ้าให้กับประชาชนในท้องถิ่น ผมสั่งอสม.ให้ผลิตหน้ากากฝ้า 1 ล้าน 3 แสนชิ้น เพื่อที่จะแจกให้กับประชาชนทั่วไปกรณีที่เขาไม่ป่วย หน้ากากผ้าเราอาจจะรณรงค์ว่าไม่กันได้ 100% แต่ถ้าเขาไม่ใช่ผู้ป่วย แต่ต้องการใช้เพื่อความมั่นใจเวลาไปอยู่ในสถานที่ชุมชน
นอกจากนั้นก็ต้องการจะแก้ไขปัญหานี้ให้ตรงจุด โดยได้หารือกับท่านรองนายกรัฐมนตรี ท่านจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประเด็นที่หารือก็คือ เดิมที่เราได้โควต้ามา 3 แสน สำหรับกระทรวงสาธารณะสุข แล้วกระทรวงสาธารณะสุขยังต้องไปให้โรงพยาบาลเอกชน โรงพยาบาลนักเรียนแพทย์ และคลินิกเอกชนด้วยเนี่ยะมันน้อยเกินไป เมือพบว่าน้อย กระทรวงพาณิชย์ต้องจัดสรรเพิ่มให้กับกระทรวงสาธารณะสุข กระทรวงพาณิชย์ก็มีการประชุมกัน เราได้มีโควต้าเพิ่มขึ้นจาก 3 แสนชิ้น เป็น 7 แสนชิ้น ต่อ 1 วัน จากกำลังการผลิตทั้งหมด 1 ล้าน 2 แสนชิ้นต่อ 1 วัน แล้วในการประชุมได้มีการชี้แจงชัดเจนว่า ที่มีข่าวว่าโรงงานผลิตจำนวนไม่ถึง หรือเอาออกไปขายหลังโรงงาน กระทรวงพาณิชย์จึงส่งทหารและเจ้าหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์จากกรมการค้าภายใน ไปควบคุมการผลิตเพื่อส่งให้ถึงเป้าหมายให้ครบตามจำนวนที่ตกลงกัน
ที่นี้ก็ยังมีปัญหาจากการขาดจากการใช้จากบุคคลากรทางการแพทย์เข้ามา ผมจึงพยายามที่จะลำเลียงหน้ากากให้ไปสู่ผู้ใช้โดยไม่สูญหาย และเราก็ต้องยอมรับว่ามันมีข่าวในขณะนั้นว่ามันมีหน้ากากหลุดออกมาในตลาดมืด ซึ่งขายเกินราคา ผมก็จะใช้การบริหารจัดการ ให้องค์การเภสัชฯ ได้ส่งหน้ากากอนามัยไปถึงผู้ใช้โดยจำนวนที่ส่งตามความเป็นจริงทั้งหมด ไม่ให้สูญหายไปในเส้นทางใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาการขาดหน้ากากของบุคลากรทางการแพทย์ วิธีบริหารจัดการก็คือให้ผู้ตรวจทั้ง 12 เขตไปสำรวจสต็อกที่มีในแต่ละเขตแล้วเกลี่ยการใช้ไม่ให้ขาด และรอรับหน้ากากอนามัยที่จะส่งไปให้เพิ่มเติม เพื่อเป็นการปกป้องบุคลากรทางการแพทย์ในการทำหน้าที่ และให้หมอหรือพยาบาลที่ยังขาดหน้ากากอนามัยอยู่ร้องเรียนมาที่ผม ถ้าพบว่าที่ไหนขาดจะได้ร่วมกันบริหารจัดการกับท่านผู้ตรวจกับผอ.โรงพยาบาลว่าเหตุใดเมื่อได้โควต้าเพิ่มแล้ว บริหารสต็อกแล้วว่าไม่ขาด ทำไปบุคลากรทางการแพทย์จึงไม่มีหน้ากากจากต้นทางไปถึงผู้ใช้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
นี่คือสิ่งที่ดำเนินการ ณ ปัจจุบันนี้ หน้ากากได้ถูกส่งมาที่องค์การเภสัชฯ ครบตามจำนวน แล้วขณะนี้ได้ลำเลียงไปยังผู้ตรวจเขตครบตามจำนวนทุกวัน ผมมีความเชื่อมั่นว่าภายใน 2-3 วันนี้ หน้ากากอนามัยจะถูกลำเลียงไปถึงทุกหน่วยบริการตามโควต้าที่ได้เพิ่มขึ้น เพื่อให้หน้ากากอนามัยไปถึงผู้ปฎิบัติงานในหน้างานอย่างแท้จริง