“ทรัมป์” ประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ หลังสหรัฐฯ มีผู้ป่วย COVID-19 พุ่ง
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงทวีความรุนแรงขึ้น โดยขณะนี้สหรัฐฯ มียอดผู้ติดเชื้อ 1,678 ราย เสียชีวิต 41 ราย
อ่านข่าวต่อ : นักดื่มมั่นใจ เครื่องเป่าวัดแอลกอฮอล์ไม่แพร่ COVID-19
โดย “โดนัลด์ ทรัมป์” ยังได้ประกาศว่ารัฐบาลสหรัฐฯ มีแผนจะใช้งบประมาณ 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.58 ล้านล้านบาท เพื่อใช้ในการยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้รัฐบาลกลางยังมองถึงความเป็นไปได้ในการให้แต่ละรัฐในประเทศเปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน และกำชับให้โรงพยาบาลเตรียมความพร้อมสำหรับการใช้แผนรองรับในภาวะฉุกเฉิน
“โดนัลด์ ทรัมป์” กล่าวระหว่างแถลงการณ์ “เพื่อปลดปล่อยอำนาจของรัฐบาลกลางในการดำเนินการอย่างเต็มที่ ผมขอประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติอย่างเป็นทางการ”
สำหรับชุดทดสอบการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่จะแจกจ่ายให้กับประชาชนซึ่งตอนนี้มีจำนวนไม่เพียงพอ ทรัมป์ยืนยันว่ารัฐบาลกำลังเร่งกระบวนการแก้ปัญหาดังกล่าว โดยช่วงเวลา 8 สัปดาห์ต่อจากนี้จะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญของประเทศ และมีความเป็นไปได้ที่จะพิจารณาเพิ่ม “สหราชอาณาจักร” ลงไปอีกหนึ่งประเทศที่ห้ามไม่ให้ประชาชนสหรัฐฯ เดินทางไป
ขอบคุณข้อมูลจาก : THE STANDARD
ขอบคุณรูปจาก : https://techcrunch.com/2020/03/13/president-trump-declares-emergency-order-to-free-funds-and-loosen-regulations-for-healthcare-facilities/
https://www.theverge.com/2020/3/13/21175637/coronavirus-trump-national-emergency-pandemic-announcement